ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เลือกตั้งฝรั่งเศส ทำตลาดทองคำผันผวน แนะรอจังหวะเข้าซื้อ

เศรษฐกิจ
24 มิ.ย. 67
15:07
430
Logo Thai PBS
เลือกตั้งฝรั่งเศส ทำตลาดทองคำผันผวน แนะรอจังหวะเข้าซื้อ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตลาดทองคำในและต่างประเทศยังป่วน ราคาทองลง 50 บาท (ครั้งที่2) นักลงทุนจับตาเลือกตั้ง หลัง"มาครง"ประกาศยุบสภา หวั่นหนี้สาธารณะบานปลาย “ฮั่วเซ่งเฮง” คาดต้นสัปดาห์ราคาทองปรับตัวลงต่อเนื่อง แนะรอจังหวะเข้าซื้อรอบใหม่

วันนี้ (24 มิ. ย.2567)เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" รายงานสถานการณ์ แนวโน้มราคาแนวโน้มราคาทอง ในสัปดาห์นี้จะมีการเลือกตั้งที่สำคัญอีกหนึ่งการเลือกตั้ง คือการเลือกตั้งฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้น 2 รอบในวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค. นับว่าเป็นอีกหนึ่งการเลือกตั้งที่น่าจับตามอง ภายหลังที่ประธานาธิบดีมาครงได้ประกาศยุบสภา

หลังจากพรรคพันธมิตรสายกลางของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส พ่ายแพ้ให้กับพรรคเนชั่นแนล แรลลี (National Rally) หรือ RN ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. การเลือกตั้งนี้ถือว่าเป็นนัดที่สำคัญ และอาจสร้างต่อความผันผวนของราคาทองคำได้ หากพรรคขวาจัดหรือซ้ายจัดเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอาจสร้างปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ

โดยผลสำรวจล่าสุดของ Ifop for LCI ชี้ว่า พรรค RN ของนางมารีน เลอ เปน ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านสหภาพยุโรป (EU) และต่อต้านผู้อพยพ จะได้รับคะแนนเสียง 33% ในการเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 30 มิ.ย. ส่วนคะแนนเสียงของกลุ่มพันธมิตรพรรคฝ่ายซ้ายจัดอยู่ที่ 28%

ขณะที่กลุ่มสายกลางของประธานาธิบดีมาครงตามมาเป็นอันดับสามที่ 18% ซึ่งถ้าพิจารณาจากผลสำรวจจะเห็นว่าคะแนนความนิยมของประธานาธิบดีมาครงลดลง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากที่มาครงได้มีการริเริ่มแผนปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญ ได้แก่ การเพิ่มอายุเกษียณสำหรับพนักงานส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส จากเดิม 62 ปี เป็น 64 ปี จนนำไปสู่เหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่หลายสัปดาห์

และการที่พรรคเนชั่นแนล แรลลี (National Rally) หรือ RN ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด หรือพรรคลาฟร็องแซ็งซูมีซ (La France Insoumise: LFL) ซึ่งเป็นพรรคซ้ายจัด ที่ชูนโยบายคล้ายกันเป็นแนวประชานิยม สร้างความนิยมด้านคะแนนเสียงเป็นอย่างมาก และมีโอกาสอย่างมากที่จะชนะการเลือกตั้งฝรั่งเศสในครั้งนี้ แต่อาจจะนำพาการเพิ่มหนี้สาธารณะมากขึ้น

โดยสถาบันคลังสมอง Montaigne ประมาณการว่า นโยบายต่างๆ ของพรรค RN อาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 แสนล้านยูโร หรือคิดเป็นมากกว่า 3.5% ของ GDP จึงอาจทำให้งบประมาณภาครัฐฝรั่งเศสขาดดุลสูงถึง 9% ของ GDP ซึ่งสร้างความวิตกกังวลต่อนักลงทุนเกี่ยวกับวิกฤตทางการคลังในฝรั่งเศสได้

"ฮั่วเซ่งเฮง" วิเคราะห์ อีกว่า ตอนนี้ประเทศฝรั่งเศสถือว่ามีหนี้สาธารณะสูงที่สุดในยุโรปถึง 2.3 ล้านล้านยูโร ซึ่งฝรั่งเศสจำเป็นต้องลดการขาดดุลงบประมาณให้ต่ำกว่าเพดาน EU ที่ 3% ภายในปี 2570 มิฉะนั้นอาจถูกปรับเป็นเงินมูลค่า 0.05% ของ GDP ทุก ๆ 6 เดือนหากไม่สามารถปฎิบัติตามกำหนดได้

จึงปฎิเสธไม่ได้เลยว่านโยบายของทั้งพรรคขวาจัดและซ้ายจัด อาจสร้างความเสี่ยงมากขึ้นต่อการละเมิดกฎดังกล่าว ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงที่ฝรั่งเศสจะถูกปรับเป็นเงิน และเป็นการซ้ำเติมวิกฤตด้านงบประมาณ ที่หนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้นจากทุนเดิมอยู่แล้ว และประเด็นดังกล่าวอาจนำไปสู่แรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลว่าวิกฤติงบประมาณ วิกฤติทางการเงินจะเกิดขึ้นได้

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำอาจปรับตัวลงต่อเนื่อง จากแรงเทขายทองคำอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากในคืนวันศุกร์ ซึ่งมาจากแรงกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า

อย่างไรก็ตาม ทองคำอาจมีแรงซื้อเข้ามาหลังจากนั้นในช่วงกลางหรือปลายสัปดาห์นี้ จากความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสในรอบแรก ทั้งนี้จับตาแนวรับสำคัญบริเวณ 2,300 ดอลลาร์ หากยืนเหนือแนวรับบริเวณดังกล่าวได้ ให้เข้าซื้อทองคำ อย่างไรก็ตาม หากหลุดแนวรับดังกล่าว ให้รอจังหวะเข้าซื้อทองคำรอบใหม่

โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,300 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปคือ 2,285 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,350 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,370 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 40,300 บาท และ 40,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 40,800 บาท และ 41,000

สำหรับราคาทองเปิดตลาดในประเทศเช้านี้ ลบ 50 บาท (ครั้งที่ 2) โดย ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 40,450 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 40,350บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 40,950บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 39,628.24 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,323.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 36.74 บาทต่อดอลลาร์

โดยราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 5,556บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 10,613 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 20,725บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 40,950 บาท

ทั้งนี้ราคาทองคำในประเทศตั้งแต่เดือนม.ค.ถึง 24 มิ.ย. 2567 พบว่า ราคาขึ้นมา 6,800 บาท โดยเดือน ม.ค. ราคาบวก 550 บาท เดือนก.พ. 2567 ราคาบวก 400 บาท เดือนมี.ค.2567 ราคาบวก 3,980 บาท และเดือนเม.ย.2567 ราคาบวก 2,100 บาท และเดือนพ.ค. ราคาบวก 150 บาท ส่วนเดือนมิ.ย.ราคา ลบ 350 บาท

อ่านข่าว:

สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯรอบใหม่ สนค.ชี้โอกาสส่งออกสินค้าไทย

“ราคาทองคำ” วันนี้ ร่วงแรง 450 บาท ตลาดผันผวนหนัก แนะเก็งกำไรระยะสั้น

เศรษฐกิจโลกฟื้น ดันส่งออกไทย พ.ค.โต 7.2%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง