ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับตา ! ประมูลข้าว 10 ปี "ล้ม-ไม่ล้ม" โจทย์ใหญ่ ทำไมต้อง "ธนสรร ไรซ์"

เศรษฐกิจ
3 ก.ค. 67
14:26
1,249
Logo Thai PBS
จับตา ! ประมูลข้าว 10 ปี "ล้ม-ไม่ล้ม" โจทย์ใหญ่ ทำไมต้อง "ธนสรร ไรซ์"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

หนังม้วนยาวต้องจับตาต่อเนื่อง "โครงการรับจำนำข้าว" ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังปิดจ็อบไม่ลง หลังกระทรวงพาณิชย์ โดยองค์การคลังสินค้า(อคส.) ยื้อประกาศผลการประมูลข้าวปริมาณ 15,000 ตัน หรือ145,590 แสนกระสอบ แม้ บริษัทวีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ชนะการประมูลข้าวไปทั้ง 2 โกดัง แต่บูมเมอแรงสะท้อนกลับมาที่  "องค์การคลังสินค้า (อคส.)" และกระทรวงพาณิชย์ ว่า เหตุใดจึงยังไม่ประกาศผลการประมูลข้าว หรือมีเบื้องหน้า-เบื้องลึก-เบื้องหลังอย่างไร

หากพลิกข้อมูลบริษัทวีเอทฯ ในฐานะผู้ชนะการประมูลข้าวทั้ง 2 คลัง พบ เป็นบริษัทในเครือของ "บริษัทสวัสดิ์ไพบูลย์การเกษตร จำกัด" และ "โรงสีสวัสดิ์ไพบูลย์" อยู่ในพื้นที่จ.กำแพงเพชร มี "เสี่ยปู" นายกิตติชัย ตั้งเจริญ เป็นเจ้าของ และเป็นบริษัทผู้ส่งออกมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศที่ได้รับคัดเลือกให้ไปลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในงาน Belt and Road Forum เมื่อปลายปี 2566 เพื่อจัดซื้อมันสำปะหลังในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2567 กับ COFCO Group รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตอาหารและผู้ค้าธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของจีน จำนวน 500,000 ตันหรือ 500 กก. มูลค่าประมาณกว่า 4,600 ล้านบาท ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมการประชุม Belt and Road Initiative (BRI) ที่ประเทศจีนเมื่อช่วงเดือนต.ค.2566

สำหรับการประมูลข้าวจากโครงการรับจำข้าว อคส.เคยเปิดประมูลไปแล้ว 4 ครั้ง  โดยครั้งแรก (57/58) ผู้ชนะประมูลไม่มาชำระเงิน ซึ่งในคลังนี้เจ้าของคลังเป็นผู้ชนะแต่ไม่ชำระเงิน อ้างว่ามีข้าวขาวปลอมปน อคส.ยกเลิกสัญญาและฟ้อง, ครั้งที่ 2 (1/62) ธ.ค. 2562 ผู้ชนะประมูลไม่มาชำระเงินและรับมอบข้าว

ครั้งที่ 3 (1/66) ก.ค.2566 เอกชนคัดค้าน TOR เรื่องแสดงฐานะการเงิน อคส. ยกเลิกประมูลและส่งกลับให้คณะกำหนด TOR พิจารณา และขยายเวลาให้คราวละ 1 ปี และครั้งที่ 4 (1/67) ไม่มีเอกชนเข้าร่วมฟัง TOR เนื่องจาก รมว.พาณิชย์ สั่งยกเลิกการประมูลทำให้อคส.ยกเลิกประมูล

และการประมูลครั้งที่ 5 ( 1/2567) อคส.ประกาศเปิดยื่นซอง มีเอกชนสนใจมากถึง 8 ราย แต่ผ่านคุณสมบัติ 7 ราย และได้ผู้เสนอราคาสูงสุดคือ "วีเอท" ทั้ง 2 คลัง แต่อคส. ไม่สามารถประกาศผลการประมูลได้ เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตถึงทุนจดทะเบียนของบริษัทที่มีเพียง 2 ล้านบาท แต่กลับประมูลข้าวไปในราคาเกือบ 300 ล้านบาท เป็นเหตุให้กระทรวงพาณิชย์ สั่งให้อคส.ตรวจสอบคุณสมบัติของวีเอท โดยให้เวลา 7 วันและครบกำหนดไปแล้วเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.67)

เปิดสปอร์ตไลท์จับตา"ธนสรรไรซ์"

แหล่งข่าวจากวงในการประมูลข้าว ตั้งคำถามว่าเหตุใด กระทรวงพาณิชย์และอคส.จึงไม่ประกาศผลการประมูลในวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ บริษัทธนสรรไรซ์ จำกัด ซึ่งเข้ารวมประมูลและเสนอราคาต่ำลงมาเป็นอันดับสอง แต่อคส. กลับเรียกให้บริษัทธนสรรไรซ์ มาเสนอราคาใหม่อีกรอบเพื่อแข่งกับบริษัทวีเอทที่เสนอเพิ่มเงินให้คลังละ 10,000 บาท

ดังนั้น สปอต์ไลท์ จึงกลับมาส่องที่ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศอีกครั้งว่า บริษัทดังกล่าวอาจจะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายการเมืองหรือไม่ และหากบริษัทธนสรรไรซ์ เสนอราคาใหม่แล้วได้ข้าว 2 กองนี้ไป เกมยื้อเวลาที่ทอดยาวอาจเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกหรือผู้ที่แฝงอยู่เบื้องหลังของนอมินี

แหล่งข่าวรายเดิม ให้ข้อมูลเชิงลึกกับ "ไทยพีบีเอสออนไลน์" ว่า ตามกติกา ผู้ที่ชนะการประมูล คือ บริษัทวีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ที่เสนอราคาสูงทั้ง 2 โกดัง ควรจะจบไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะเบื้องหลังของ วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ก็คือ หนึ่งในบริษัทลูกของสวัสดิ์ไพบูลย์การเกษตร และโรงสีสวัสดิ์ไพบูลย์ ที่ต่างก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกับ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด

เมื่อมีสายสัมพันธ์เดียวกัน หากกระทรวงพาณิชย์ต้องการให้ "ธนสรรไรซ์" ได้ข้าว 2 กองนี้ เหตุใดธนสรรไรซ์ จึงไม่ไปซื้อข้าวกับวีเอทที่ชนะประมูล ไม่ใช่ยื่นซองเสนอราคาแล้ว เปิดซองเสนอราคา ซึ่งกระบวนการเสร็จหมดแล้ว แต่อคส.กลับมาเรียกคนที่ชนะเบอร์ 2 เบอร์ 3 มาต่อรองราคาอีก ซึ่งขัดกับทีโออาร์ที่ระบุว่า อคส.จะต้องเรียกผู้ที่ชนะเท่านั้นมาต่อรองราคา เป็นข้อสังเกตจากแหล่งข่าว

ทั้งนี้ในทีโออาร์ การจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเป็นการทั่วไปครั้งที่1/2567 ข้อ 7 การพิจารณาผู้เสนอซื้อ ระบุชัดว่า คณะทำงานรับ-เปิดซองและต่อรองราคา ข้าวในสต๊อกของรัฐจะพิจารณาผู้เสนอที่มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนและเสนอซื้อราคาสูงสุดในแต่ละครั้ง โดยคณะทำงานฯจะเจรจากับ "ผู้เสนอซื้อราคาสูงสุดในแต่ละคลัง"

แต่กรณีที่ผู้เสนอซื้อราคาสูงสุดในแต่ละคลังเท่ากันทั้งสองรายขึ้นไปให้ผู้เสนอซื้อราคาเท่ากันเสนอซื้อเพิ่มเติมจากราคาเดิมตาม แบบกำหนดในเอกสารแนบท้ายประกาศ 7 คือ การเสนอซื้อเพิ่มแต่ละรายจะต้องเสนอราคาซื้อเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่าครั้งละ 5,000 บาท จนกว่าจะได้ผู้เสนอราคาสูงสุดเพียงรายเดียว

แหล่งข่าวรายเดิม อธิบายว่า ในทีโออาร์ "วีเอท" คือ ผู้เสนอสูงสุดรายเดียว ดังนั้น อคส.ไม่ควรเรียกผู้ที่เสนอราคารองลงมา มาต่อรองราคาอีก การเรียกอันดับที่ 2 และที่ 3 มาต่อรองราคา เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากทำแบบนี้ไม่ต้องมีการเปิดซอง และเหตุผลที่ไม่ควรเรียกผู้ที่เสนอราคาต่ำกว่ามาเจรจา เนื่องจากทีโออาร์ไม่ได้ระบุไว้ว่า ต้องเรียกเรียกเบอร์ 2 เบอร์ 3 มาเจรจา ซึ่งผู้เข้าประมูลจะทราบกติกาอยู่แล้ว

อคส.ทำแบบนี้ หากมีการประมูลต่อไป ผู้เข้าประมูลก็ไม่ต้องเสนอราคาสูงสุดก็ได้ เสนอแค่ 15 บาท เพื่อเกาะกลุ่ม 1 ใน 3 และรอให้อคส.เรียกไปเจรจาดีกว่าหรือไม่ ซึ่งทำแบบนี้ผู้ที่เข้าประมูลก็จะกดราคาประมูลให้อยู่ 1 ใน 3 เพื่อไปต่อรองราคา ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย จึงมีคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องเป็น "ธนสรร ไรซ์"

สวมข้าว "เวียนเทียน"ทำกำไร

อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปดู แผนประทุษกรรมในโครงการทุจริตจำนำข้าวที่ผ่านมา จะเห็นพฤติการณ์บ่อยครั้งของผู้ประกอบการบางรายหรือเจ้าของคลังบางคลัง นำข้าวในคลังไปขายแล้ว สวมข้าวชนิดอื่นมาเวียนเทียนขาย หากข้าวชนิดใดมีราคาสูงก็จะนำไปขายเพื่อทำกำไรก่อน เช่น เมื่อนำข้าวหอมมะลิเข้าคลังเสร็จ หากพบว่า ข้าวหอมมะลิในขณะนั้นราคาสูงจะมีการแอบนำข้าวหอมมะลิไปขาย แล้วนำข้าวขาวมาใส่ไว้ในคลัง หรือหากเป็นข้าวเหนียวแอบนำข้าวเหนียวไปจำหน่ายแล้วนำข้าวขาวมาสวมแทน

“ข้อเท็จจริงมีให้เห็น เมื่ออดีต เช่น กรณีไฟไหม้ โรงสี-คลังสินค้าใหญ่ที่ จ.กำแพงเพชรหลายปีก่อน ตรวจสอบพันธุ์กรรมข้าวที่ถูกไฟไหม้กลับพบป็นข้าวขาว ไม่ใช่ข้าวเหนียวอย่างที่แจ้งไว้ ....เมื่อก่อนราคาข้าวเหนียวแพงกว่าข้าวขาวหลายเท่าตัว เช่น ข้าวเหนียวโละ 22 บาท ข้าวขาว โลละ 12 บาท หรือข้าวเหนียวโลละ 30 บาท แต่ข้าวขาวโลละ 15 บาท ราคาที่จูงใจเช่นนี้ ทำผู้ประกอบการบางรายหัวใสแอบนำข้าวที่มีราคาสูงในโกดังไปขายทำราคาก่อนแล้วหาข้าวชนิดอื่นมาแทน”

สำหรับการเปิดโกดังข้าว ของอคส. ตามปกติ จะต้องมีกุญแจ 3 ดอก เพื่อเปิดโกดังพร้อมกัน แต่ต้องไม่ลืมว่าประตูโกดังไม่ได้มีทางเข้าออกเพียงทางเดียวและทางออกไม่จำเป็นกุญแจเท่านั้น หากจะมีการทุจริตก็จะมีวิธีการที่รู้กัน

อ่านข่าว:

เบื้องลึกประมูล "ฟอกข้าวเก่า 10 ปี" ยากปิดจ็อบ "ยิ่งลักษณ์" รับจำนำข้าว

"วี เอท" เสนอราคา 19.07 บ./กก. คว้าชัยประมูลข้าว 10 ปี

มีข้อมูลจากวงการค้าข้าว ระบุว่า การประมูลข้าวครั้งแรก (2557/2558) อคส.เปิดประมูลข้าวและเจ้าของโกดังได้เข้าร่วมประมูลแต่ไม่มารับมอบข้าวจนมีเรื่องฟ้องร้องกับอคส. เนื่องจากพบข้าวขาวปลอมปนอยู่ในโกดัง ดังนั้นหากข้อเท็จจริงเป็นไปในลักษณะเดียวกัน อาจจะมีคำถาม เหตุใด ข้าวเพียง 15,000 ตัน จึงมีปัญหามากเพียงนี้ 

นอกจากนี้ยังมีคำถามอีกว่า เมื่อทั้ง 2 บริษัท ต่างมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทย แล้วเหตุใดถึงไม่หลีกทางให้กัน มีการวิเคราะห์ข้อมูลจากวงในค้าข้าว ว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดการผิดคิวเพราะไม่ได้คุยกันก่อน ราคาที่เสนอกิโลกรัมละ 18 บาท เป็นราคาที่สมเหตุสมผล แต่เมื่อวีเอท เสนอมากิโลละ 19 บาท ซึ่งสูงกว่าธนสรรไรซ์ ถือว่าผิดคาดพอสมควร เพราะธนสรรไรซ์ คือ ตัวเต็งของการประมูลข้าวครั้งนี้

ทั้งนี้ หากกระทรวงพาณิชย์ จะผลักดันให้ธนสรรไรซ์ได้ข้าว 2 คลังนี้ ต้องถามว่า คณะกรรมการที่อยู่ในคณะเจรจาฯซึ่งเป็นคนนอก จากสภาหอการค้าไทย หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)จะเอาด้วยหรือไม่ เพราะในทีโออาร์ไม่ได้กำหนดว่าเปิดซองราคาแล้วต้องต่อรองกับคนที่เสนอราคารองลงมา แต่ทีโออาร์ระบุว่าต้องต่อรองราคากับผู้ที่ชนะเท่านั้นเงื่อนไขกติกาเป็นอย่างนี้นับตั้งแต่มีการประมูลมา 10 ปีแล้ว

“เชื่อว่า คณะกรรมการพิจารณาฯ คงยืนให้ "วีเอท"ได้ข้าวไป แต่ก็มีการกำชับคณะทำงานของกระทรวงพาณิชย์ ...ให้ธนสรรไรซ์ได้ข้าว 2 กองนี้ไป โดย วีเอท ต้องยอมถอย ซึ่งยากเพราะวีเอทจะโดน อคส.ฟ้องส่วนต่างถือว่าทิ้งงาน ในทีโออาร์ ระบุชัดว่า เมื่อมีการเสนอซื้อสินค้า ถือว่าผู้เสนอซื้อได้ตรวจสอบปริมาณและสถานะของสินค้าที่เก็บรักษาที่คลังสินค้า และเมื่อมีการเสนอซื้อ ผู้เสนอซื้อจะขอถอนการซื้อไม่ได้ ถ้าหากผู้เสนอซื้อถอนการเสนอซื้อ อคส.ขอสงวนสิทธิในการริบหลักประกันทั้งหมดและอคส.จะให้สิทธิผู้เสนอซื้อในลำดับต่อไป

แต่ในกรณีนี้วีเอทยังไม่ถอนการซื้อและพร้อมจะจ่ายเงินสดเกือบ 300 ล้านบาท และขนข้าวออกจากโกดังที่ประมูลได้ทันที จะเข้าข่ายพ.ร.บ.ฮั้วประมูลหรือไม่ คิดว่า คงไม่ แต่จะเป็นการฮั้วเพื่อเอื้อผลประโยชน์มากกว่า

แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีคำตอบว่า จะทราบผลการประมูลข้าวเมื่อใด แม้ก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้แจ้งต่อสังคมว่า ผลการประมูลจะได้ข้อยุติภายในเดือนก.ค.นี้ก็ตาม

โปรดอย่ากระพริบตา เพราะไม่ว่าใครจะฝ่ายชนะ สะท้อนให้เห็นเบื้องลึกความสัมพันธ์ทางการเมืองเด่นชัดขึ้น ส่วนรัฐจะได้ประโยชน์จากการฟอกขาวให้ใครหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

อ่านข่าว:

ข้าวไทยแพง ถูกเวียดนามแย่งตลาด "ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย"

แกะรอย มหกรรมโชว์กินข้าว 10 ปี กินได้จริงหรือ? ฤาหาทางลง

ย้อนรอย มหากาพย์ "โครงการจำนำข้าว" ปิดฉากฟอกข้าว 10 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง