วันนี้ (4 ก.ค.2567) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ จะหารือในประเด็นพบข้อมูลธนาคาร 5 แห่งเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจัดซิ้ออาวุธของรัฐบาลทหารเมียนมา โดยจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงสัปดาห์หน้า เช่น ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย และตัวแทนธนาคารใหญ่ 5 แห่ง หากเป็นเรื่องจริงจะส่งผลกระทบต่อไทยที่อาจถูกมองว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในเมียนมา
อ่านข่าว : UN เผยข้อมูล "ธนาคารในไทย" เอื้อรัฐบาลทหารเมียนมานำเข้าอาวุธ
นอกจากนี้ยังระบุถึงกรณีที่ประเทศไทยเข้าร่วมกับกลุ่มประเทศบริกส์และการไม่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดสันติภาพในยูเครน ณ สหพันธรัฐสวิส ว่า ได้เชิญกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์และสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้ามาชี้แจง
กรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ได้ตั้งคำถามถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ประเทศในการเข้าร่วมกลุ่มบริกส์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดที่ชัดเจนนัก โดยได้คำตอบเพียงว่าที่ผ่านมาประเทศไทยโดยมากก็เข้าร่วมกับทุกกลุ่ม ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาว่ากลุ่มบริกส์ที่มีแนวทางเศรษฐกิจไม่ชัดเจนนัก แต่มุ่งหมายในทางการเมืองมากกว่า อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเรื่องจุดยืนความเป็นกลางในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ
พร้อมทั้งพิจารณากรณีไทยไม่ร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดสันติภาพในยูเครน ณ สหพันธรัฐสวิส ซึ่งจากที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ได้มีการประณามประเทศใดประเทศหนึ่ง กลายเป็นการสนับสนุนสันติภาพในยูเครน จึงเห็นว่าประเทศไทยควรลงนามในแถลงการณ์ฉบับนี้
พร้อมทั้งได้ชี้แจงถึงการไปศึกษาดูงานที่โปแลนด์ว่า มีหลายเริ่องสามารถนำมาปรับใช้กับประเทศไทย จึงมีมติตั้งอนุกรรมการศึกษาพัฒนาหน่วยงานชายแดน ตั้งอนุกรรมการศึกษาการใช้เทคโนโลยีเฝ้าตรวจชายแดน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลชายแดน และเตรียมพื้นที่ในช่วงวันที่ 17-19 ส.ค.ที่ จ.จันทบุรี ตราด ติดตามปัญหาความมั่นคงชายแดน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม
อ่านข่าว
อัยการสั่งฟ้อง 35 คน "คดีเป้รักผู้การ" ตร.เอี่ยว 21 นาย