ชีวิตจริง "เคียร์ สตาร์เมอร์" ผู้นำรัฐบาลคนต่อไปของอังกฤษ

แม่ของผมเป็นพยาบาล ส่วนพ่อของผมเป็นช่างทำเครื่องมือ

สตาร์เมอร์ ในวัย 61 ปี แนะนำตัวเองระว่างหาเสียงโดยเล่าถึงการเติบโตของตัวเองท่ามกลาง บิลค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้จ่าย โทรศัพท์ถูกตัด พาสตา คืออาหารแปลกใหม่สำหรับบ้านของเขา ครอบครัวของเขาไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย แต่สตาร์เมอร์ในวัยเด็ก ทำคะแนนสอบได้ดี เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายชั้นนำ เขาเป็นคนแรกในรุ่นที่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยลีดส์ จากนั้นจึงไปเรียนต่อที่อ็อกซ์ฟอร์ดเป็นเวลา 1 ปี

เคียร์ สตาร์เมอร์ และ ภรรยา วิกตอเรีย

แม้เติบโตมาในบ้านปูนแฝดหลังเล็กแต่เต็มไปด้วยความผูกพันในครอบครัว ทำให้สตาร์เมอร์ต้องการช่วยให้ครอบครัวอื่น ๆ สามารถหาสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเองให้ได้ แม่ของเขาที่เป็นพยาบาลใน NHS หรือ ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ ทำให้เขาเข้าใจถึงปัญหาของระบบที่ขาดเงินทุนและค้างจ่าย และการถูกดูถูกในโรงงานที่พ่อของเขาทำงาน ทำให้ว่าที่นายกฯ อังกฤษพยายามจัดสรรเวลาให้ครอบครัวอย่างเหมาะสม เขามีภรรยาที่ชื่อ "วิกตอเรีย" และมีลูกในวัยรุ่น 2 คน ซึ่งไม่เคยเปิดเผยชื่อต่อสาธารณะ แต่เขากลับเต็มใจเปิดชื่อแมวของเขา "โจโจ" 

อ่านข่าว : แลนด์สไลด์! "เลเบอร์" ชนะเลือกตั้งปิดฉาก 14 ปี "คอนเซอร์เวทีฟ"

สตาร์เมอร์ เคยเป็นบรรณาธิการนิตยสาร "ทรอตสกี้" ในวัยหนุ่ม และทำอาชีพทนายความมาก่อน เขาเป็นที่รู้จักจากคดีสิทธิมนุษยชนที่โด่งดังในอังกฤษ เป็นส่วนหนึ่งของทีมกฎหมายที่ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญของยูกันดาตัดสินให้การพิพากษาโทษประหารชีวิตผู้ต้องโทษประหารชีวิตทั้ง 417 คนเป็นโมฆะ เขาสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายด้วยการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ ข้อเท็จจริง ครั้งหนึ่งขณะที่เขาเป็นตัวแทนฝ่ายค้านในระหว่างการซักถามนายกรัฐมนตรีในสภาสามัญ เขาเคยลดความโอ้อวดของ "บอริส จอห์นสัน" ลงได้

เคียร์ สตาร์เมอร์ ขณะเป็นตัวแทนฝ่ายค้านในการซักถาม บอริส จอห์นสัน นายกฯ ในสภาสามัญ

ความสำเร็จสูงสุดในเส้นทางนักกฎหมายคือ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ "เซอร์" หรืออัศวินในปี 2557 จาก เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) จากการทำหน้าที่ "อัยการสูงสุด"

ต่อมาอีก 1 ปี ในวัย 52 ปี สตาร์เมอร์ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองสังกัดพรรคเลเบอร์ เขาถือเป็นนักการเมืองรุ่นเด็กสุดในขณะนั้น เพราะในสภาอังกฤษ คนจำนวนมากวางแผนเข้าสู่วงการการเมืองตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เขาดำรงตำแหน่ง "รัฐมนตรีเงา" ในฝ่ายค้าน สตาร์เมอร์ไม่เห็นด้วยกับการที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปหรือเบร็กซิต แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากของพรรคแรงงานเห็นด้วยกับเรื่องนี้

หลังการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 เป็นอีกครั้งที่พรรคเลเบอร์แพ้การเลือกตั้ง "เจเรมี คอร์บิน" ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรครับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ ทำให้ "เคียร์ สตาร์เมอร์" ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของพรรคเลเบอร์

เคียร์ สตาร์เมอร์ ขณะเป็นรัฐมนตรีเงาในฝ่ายค้าน ในการประชุม Brexit

อ่านข่าว : จับตา "เลเบอร์" โค่นบัลลังก์ "คอนเซอร์เวทีฟ" ในรอบ 14 ปี

รู้หรือไม่ : รัฐมนตรีเงา คือ กลุ่มนักการเมืองอาวุโสที่เป็นกระบอกเสียงของฝ่ายค้าน ในระบบการเมืองอังกฤษ รัฐมนตรีเงาจะประกบรัฐมนตรีตัวจริงของรัฐบาล ทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและรัฐมนตรีจริง ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวนโยบายทางเลือกต่าง ๆ ต่อสาธารณะ

นายกรัฐมนตรีผู้ไร้ความปราณี "เคียร์ สตาร์เมอร์"

หากไม่พ่ายแพ้ต่อความไม่ลงรอยกันเองในภายพรรค ที่เขาพยายามกำจัดองค์ประกอบฝ่ายซ้ายจัดและวาทกรรมสังคมนิยมออกไป แต่ตั้งคอนเซปต์ในพรรคเลเบอร์ในยุคของเขาว่า เป็นพรรคซ้ายกลาง ผู้สนับสนุนสตาร์เมอร์ก็หวังว่าจะได้เห็นการ "เปลี่ยนแปลง" จากผู้นำอังกฤษคนใหม่ตามสโลแกน "Change" ในช่วงหาเสียงที่ผ่านมา 

โทนี เทรเวอร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจาก London School of Economics กล่าวว่า สตาร์เมอร์ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขาไร้ความปราณีอย่างยิ่งในการเปลี่ยนแปลงพรรคของเขา แต่ความไร้ความปราณีนี้จะส่งผลต่อรัฐบาลหรือไม่ "เราคงต้องรอดูกันต่อไป" สอดคล้องกับ จอช ไซมอนส์ ผู้บริหาร Labour Together ที่บอกว่า สตาร์เมอร์เป็นคนที่เชื่อในหลักปฏิบัตินิยม การพัฒนานโยบายโดยการแก้ปัญหา ไม่ใช่ผ่านทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ และเขาไม่มานั่งโต๊ะด้วยสมมติฐานทางอุดมการณ์

เคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคเลเบอร์

การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษที่ผ่านมา เน้นที่อารมณ์มากกว่านโยบาย เพราะผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงต่างไม่พอใจต่อพรรคคอนเซอร์เวทีฟในปัจจุบัน รวมทั้งความเต็มใจที่ยอมเสี่ยงกับ "พรรคเลเบอร์ที่เปลี่ยนไป" ตามที่สตาร์เมอร์เรียก การสิ้นสุดของรัฐบาลคอนเซอร์เวทีฟที่บริหารอังกฤษมากว่า 14 ปี และการฟื้นคืนชีพของ "พรรคเลเบอร์" ที่ดูเหมือนจะมีวินัยและเป็นกลางมากขึ้น ถือเป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่สำหรับพรรคการเมืองชั้นนำของอังกฤษ

อ้างอิง : The Washington Post, BBC 

อ่านข่าว : รู้จัก "เคียร์ สตาร์เมอร์" ว่าที่นายกฯ อังกฤษคนใหม่