เร่งขุดบ่อบาดาลแก้ปัญหาภัยแล้ง
เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิตติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกันเพียงวันละ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระบายน้ำให้ประชาชนได้ใช้อุปโภคและบริโภค รวมถึงใช้กับพื้นที่การเกษตร ปัจจุบันมีพื้นที่เสี่ยงจากความเสียหายจากสถานการณ์น้ำน้อยอยู่ที่ประมาณ 850,000 ไร่
สำนักชลประทานจึงเร่งจัดทำแผนการดูแลรอบการส่งน้ำ ร่วมกับฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง และเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ในพื้นที่ประสบภัยแล้ง 15 จังหวัดภาคกลาง บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และภาคเหนือตอนล่าง รวมถึงการปฏิบัติการทำฝนหลวง ถูกนำมาใช้ควบคู่กับการหาแหล่งน้ำจากการขุดเจาะบ่อน้ำใต้ดินธรรมชาติในระดับความลึก 40 - 50 เมตร
ขณะนี้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้เจ้าหน้าที่ 77ชุด ออกสำรวจและขุดบ่อบาดาลไปแล้วกว่า 271 แห่ง จากทั้งหมด 511 แห่ง ตามคำสั่งเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงสำรวจและใช้บ่อบาดาลเดิมที่มีอีกกว่า 380 บ่อ เพื่อให้คลี่คลายปัญหาภัยแล้งที่กำลังวิกฤตขณะนี้
เบื้องต้น นายกรัฐมนตรี สั่งให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งเจาะบ่อบาดาลให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาที่จำกัด เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนผ่านสภาวะภัยแล้งนี้ไปก่อน พร้อมให้เตรียมสำรวจพัฒนาคุณภาพน้ำบาดาลให้มีคุณภาพเพื่อป้องกันและรักษาสมดุลน้ำใต้ดินในระดับลึกให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด