วันนี้ (31 ก.ค.2567) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุขประเทศบราซิล มีรายงานเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตจากโรค “ไข้โอโรพุช” (Oropouche feve) เป็นครั้งแรกของโลก 2 คน ว่า รายงานของกระทรวงสาธารณสุขบราซิล ระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองคนเป็นเพศหญิงที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี อาศัยอยู่ที่รัฐบาเอีย ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
โดยทั้งคู่มีอาการป่วยคล้ายกับโรคไข้เลือดออกเดงกี่ที่มีอาการรุนแรง ซึ่งในอดีตยังไม่เคยมีรายงานการเสียชีวิตด้วยโรคไข้โอโรพุชมาก่อน
ทั้งนี้มีรายงานพบผู้ป่วยโรคนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 ที่สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก และในหลายทศวรรษที่ผ่านมาเคยมีรายงานพบการระบาดในบางประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกากลาง และอเมริกาใต้
โดยพบมากที่สุดที่ประเทศบราซิล 7,236 คน (ข้อมูล ณวันที่ 23 ก.ค.) และยังมีรายงานผู้ป่วยในประเทศโบลิเวีย เปรู คิวบา และโคลอมเบียด้วย แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีรายงานการระบาดของโรคนี้ในทวีปอื่นๆ รวมทั้งทวีปเอเชีย
ยังไม่พบไข้โอโรพุช-ริ้นพาหะในไทย
นพ.โอภาส กล่าวว่า ประเทศไทยมีระบบการเฝ้าระวังโรคติดต่อภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียวและมีประสบการณ์รับมือกับโรคติดต่อจากต่างประเทศมาหลายครั้ง เช่น ฝีดาษวานร โควิด 19 ซึ่งในการระบาดของโรค “ไข้โอโรพุช” ครั้งนี้
ขณะนี้กรมควบคุมโรค ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน ทั้งนี้ ไข้โอโรพุช มีริ้นชนิด Culicoides paraensis เป็นพาหะนำโรค แต่ริ้นชนิดนี้และเชื้อไวรัสโอโรพุช ยังไม่เคยพบในประเทศไทย จึงมีคำแนะนำสำหรับประชาชนที่เดินทางไปในประเทศ ที่มีรายงานการระบาดของโรคนี้ในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ให้ป้องกันตนเองระหว่างที่เดินทางในต่างประเทศ
โดยสวมเสื้อและกางเกงขายาว และทาโลชั่นกันยุงเพื่อป้องกันยุงและริ้น และหากเดินทางกลับมาแล้วมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือรีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทาง เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
อ่านข่าว