โซดาไฟคืออะไร ?
โซดาไฟ หรือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (Sodium Hydroxide) เป็นสารเคมีที่มีสูตรทางเคมีว่า NaOH มีลักษณะเป็นของแข็งสีขาวหรือใส ไม่มีสี มักอยู่ในรูปของเกล็ดหรือเม็ด โซดาไฟมีคุณสมบัติเป็นด่างที่แรงและสามารถละลายในน้ำได้ดี ซึ่งจะทำให้เกิดสารละลายที่มีค่า pH สูง โซดาไฟเป็นสารเคมีที่มีประโยชน์ในหลายอุตสาหกรรม แต่การใช้งานต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
ภาพประกอบข่าว
โซดาไฟทำอะไรได้บ้าง ?
- ผลิตสบู่และผงซักฟอก รวมถึงในการผลิตสารเคมีอื่นๆ เช่น โซเดียมฟอสเฟตและโซเดียมคาร์บอเนต
- ทำความสะอาดท่อระบายน้ำหรือเครื่องครัว โดยสามารถละลายไขมันและคราบสกปรกได้
- ปรับค่า pH ของน้ำเสียให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- กำจัดลิกนินออกจากไม้เพื่อให้ได้เส้นใยเซลลูโลสที่ใช้ในการผลิตกระดาษ
ภาพประกอบข่าว
ข้อควรระวังการใช้โซดาไฟ
โซดาไฟเป็นสารที่มีความกัดกร่อนสูงและสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาได้ ควรเปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมดูดอากาศเพื่อช่วยระบายไอระเหย สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือและแว่นตาป้องกัน และควรเก็บโซดาไฟในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บไว้ในที่แห้ง เพื่อป้องกันการดูดความชื้นจากอากาศ หากมีการสัมผัสกับผิวหนังหรือดวงตา ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากทันที และควรไปพบแพทย์หากมีอาการระคายเคือง
การใช้โซดาไฟล้างห้องน้ำอาจเป็นอันตรายถ้าไม่ใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากโซดาไฟเป็นสารเคมีที่มีความเป็นด่างสูงและมีคุณสมบัติในการกัดกร่อนที่รุนแรง หากใช้โซดาไฟกับสารเคมีบางชนิด เช่น สารฟอกขาว อาจปล่อยก๊าซพิษออกมา เมื่อสูดดมไอระเหยทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ และอาจทำให้เกิดอาการไอ หายใจติดขัด หรือหายใจลำบาก ด้วยความเป็นสารเคมีที่มีความกัดกร่อนสูง จึงมีบางสิ่งที่ไม่ควรใช้ร่วมกับโซดาไฟ เนื่องจากอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่อันตรายหรือก่อให้เกิดความเสียหาย
ภาพประกอบข่าว
"ห้ามใช้" โซดาไฟกับอะไร ?
- สารฟอกขาว (Bleach) โซดาไฟสามารถทำปฏิกิริยากับสารฟอกขาว (โซเดียมไฮโปคลอไรท์) ทำให้เกิดก๊าซคลอรีนที่เป็นพิษ
- กรด การผสมโซดาไฟกับกรด เช่น กรดซัลฟูริกหรือกรดไฮโดรคลอริก จะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงและปล่อยความร้อนสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดการกระเด็นและอันตรายต่อผิวหนังและดวงตา
- อลูมิเนียม โซดาไฟสามารถทำปฏิกิริยากับอลูมิเนียมได้ โดยจะทำให้เกิดก๊าซไฮโดรเจนซึ่งติดไฟได้
- พื้นผิวไม้ การใช้โซดาไฟบนพื้นผิวไม้สามารถทำลายเนื้อไม้และทำให้สีหรือเคลือบผิวเสื่อมสภาพได้
- พื้นผิวโลหะบางชนิด นอกจากอลูมิเนียมแล้ว โซดาไฟยังสามารถกัดกร่อนโลหะบางชนิด เช่น สังกะสีและดีบุก
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่น หลีกเลี่ยงการผสมโซดาไฟกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้โดยเฉพาะ เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิด
ภาพประกอบข่าว
ขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสโซดาไฟ
- หากโดนผิวหนัง รีบล้างด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากและต่อเนื่องอย่างน้อย 15 นาที เพื่อชะล้างสารเคมีออกให้หมด
- หากเข้าตา รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากและต่อเนื่องอย่างน้อย 15 นาที โดยหลับตาและค่อย ๆ เคลื่อนลูกตาไปมา
- หากสูดดม ย้ายผู้ป่วยไปยังที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และปล่อยให้หายใจเองตามธรรมชาติ
- ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนโซดาไฟออกทันที เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีสัมผัสกับผิวหนังบริเวณอื่น
- ห้ามใช้ยาหรือสารใด ๆ ทาบริเวณที่ถูกโซดาไฟ อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่รุนแรงขึ้น
- รีบไปโรงพยาบาล หลังจากทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง
สิ่งที่ไม่ควรทำ : ห้ามขัด ถู ขูด เพื่อทำให้สารที่ติดอยู่หลุดออกมา อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงขึ้นได้ อย่าใช้สารละลายที่เป็นกรด เช่น น้ำส้มสายชู เพื่อกลางฤทธิ์ของโซดาไฟ อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่รุนแรงขึ้นได้
ภาพประกอบข่าว
อ่านข่าว : ร.ต.อ.หญิง-ลูก 2 คนเสียชีวิตคาห้องน้ำ คาดสูดดมโซดาไฟแก้ท่อตัน
อันตรายจากการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำหลายชนิด
การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำหลายชนิดพร้อมกันหรือการผสมกันโดยไม่ระมัดระวังอาจก่อให้เกิดอันตรายหลายประการ เนื่องจากสารเคมีในน้ำยาล้างห้องน้ำอาจทำปฏิกิริยากันและปล่อยก๊าซพิษหรือสารระคายเคือง การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำอย่างระมัดระวังและการปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
ปล่อยก๊าซพิษ การผสมน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาว (โซเดียมไฮโปคลอไรท์) กับผลิตภัณฑ์ที่มีกรด เช่น กรดไฮโดรคลอริก จะทำให้เกิดก๊าซคลอรีน ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่สามารถทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก ไอ น้ำตาไหล และในกรณีรุนแรงอาจทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
ระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา น้ำยาล้างห้องน้ำมักมีสารเคมีที่สามารถระคายเคืองผิวหนังและดวงตา การสัมผัสหรือการสูดดมโดยตรงสามารถทำให้เกิดการอักเสบหรือไหม้ได้
กัดกร่อนพื้นผิว การใช้สารเคมีหลายชนิดพร้อมกันอาจทำให้พื้นผิวห้องน้ำ เช่น กระเบื้องหรือเครื่องสุขภัณฑ์ ถูกกัดกร่อนหรือเสียหายได้
ภาพประกอบข่าว
How to ป้องกันอันตราย "น้ำยาล้างห้องน้ำ" ต่างชนิด
- หลีกเลี่ยงการผสมสารเคมี อย่าผสมน้ำยาล้างห้องน้ำต่างชนิดกัน ควรใช้ทีละชนิดและล้างออกให้สะอาดก่อนเปลี่ยนผลิตภัณฑ์
- อ่านคำเตือนบนฉลาก ปฏิบัติตามคำแนะนำและคำเตือนบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด
- ใช้ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศที่ดี เปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมดูดอากาศเพื่อช่วยระบายไอระเหย
- สวมอุปกรณ์ป้องกัน ใช้ถุงมือยางและแว่นตาป้องกันเมื่อใช้สารเคมีทำความสะอาด
- เก็บให้ห่างจากมือเด็ก เก็บน้ำยาล้างห้องน้ำในที่ปลอดภัยห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ภาพประกอบข่าว
น้ำยาล้างห้องน้ำจากธรรมชาติ
หากกังวลเรื่องสารเคมีในน้ำยาล้างห้องน้ำทั่วไป และต้องการทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยต่อสุขภาพ ลองนำวัตถุดิบจากห้องครัวในบ้านมาทำน้ำยาล้างห้องน้ำด้วยตัวเองกัน
วัตถุดิบหลักที่ใช้
- น้ำส้มสายชู ช่วยขจัดคราบหินปูน กลิ่นอับ และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- เบกกิ้งโซดา ช่วยขจัดคราบสกปรกต่าง ๆ และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ช่วยฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดคราบฝังแน่น
- น้ำมันหอมระเหย ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและให้ความสดชื่น
สูตรน้ำยาล้างห้องน้ำจากธรรมชาติ
- น้ำยาล้างพื้นห้องน้ำ ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน + น้ำเปล่า 1 ส่วน
- น้ำยาล้างโถสุขภัณฑ์ ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ส่วน + น้ำส้มสายชู 1 ส่วน แล้วเทลงในโถสุขภัณฑ์ ทิ้งไว้สักครู่ก่อนกดน้ำ
- น้ำยาล้างกระเบื้อง ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ส่วน + น้ำเปล่า 1 ส่วน แล้วฉีดพ่นบนกระเบื้อง ทิ้งไว้สักครู่ก่อนเช็ดออก
- น้ำยาขจัดคราบสบู่ ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ส่วน + น้ำเปล่าเล็กน้อย ขัดเบา ๆ บริเวณที่มีคราบสบู่
- น้ำยาล้างกระจก ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน + น้ำเปล่า 4 ส่วน
ภาพประกอบข่าว
การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำจากธรรมชาติ มีผลดีเรื่องความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังหรือระบบทางเดินหายใจ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะย่อยสลายได้ง่ายไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และยังช่วยให้ประหยัด วัตถุดิบหาซื้อง่ายและราคาถูก
แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น ประสิทธิภาพไม่ดีเท่ากับน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีส่วนผสมของสารเคมี และบางสูตรอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ คราบสกปรกฝังแน่นอาจต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดนานขึ้น หรืออาจต้องขัดหลายครั้ง ควรทดลองใช้ในบริเวณเล็ก ๆ ก่อน เพื่อดูว่ามีผลเสียต่อพื้นผิวหรือไม่ แม้จะเป็นน้ำยาทำความสะอาดจากธรรมชาติ แต่ก็ควรสวมถุงมือเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหนัง
รู้หรือไม่ : โซดาไฟ ไม่ใช่ เบคกิ้งโซดา ทั้ง 2 เป็นสารประกอบที่แตกต่างกันออกไป โดยโซดาไฟ หรือ Sodium Hydroxide (NaOH) นิยมใช้สำหรับการแก้ปัญหาท่อตันในบางกรณีได้ ส่วนเบคกิ้งโซดา หรือ Sodium Bicarbonate (NaHCO3) นั้นไว้ใช้ในครัวเรือนได้มากมาย เช่น ใช้ในการประกอบอาหาร หรือ ขนมบางชนิด การล้างผัก-ผลไม้ เป็นต้น
ภาพประกอบข่าว
อ่านข่าว :
29 วินาที! สถิติใหม่พันธบัตรรัฐบาล 10,000 ล้านหมดเกลี้ยง
หนังสือฉากจบสวยงาม "เทนนิส" หายเหนื่อยคว้าเหรียญทองฝากคนไทย