วันนี้ (14 ส.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงาน มีผู้เสียหายเป็นชาย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี หลังทรัพย์สินสูญหายมูลค่ารวม 43,000 บาท โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้พบกับนายเอกกี้ หรือแทน หรือบีม อ้างว่าตัวเองเป็นโมเดลลิ่ง โดยชักชวนไปแคสต์งานแสดงโฆษณาใกล้ตลาดมีนบุรี แต่ก่อนจะเข้าไปแคสต์ นายเอกกี้แนะนำให้เข้าไปทำผมที่ร้านภายในตลาดมีนบุรี เมื่อทำผมเสร็จเเล้วปรากฏว่า นายเอกกี้หายไป เมื่อตรวจสอบกระเป๋าตัวเองที่ฝากเอาไว้ ก็พบว่าทรัพย์สินสูญหาย
ตำรวจสืบสวนแกะรอยจนพบผู้ต้องสงสัย ใช้สื่อออนไลน์ประกาศหาผู้สนใจงานการแสดง อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง หลังมีความชัดเจนว่าเป็นนายเอกกี้ จึงได้ขอหมายจับฐานลักทรัพย์ และติดตามจับถึงแหล่งที่พัก เป็นบ้านเช่าย่านสุขุมวิท 48/2
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่าพบผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์ จึงเข้าไปพูดคุยและชวนแคสต์งาน จากนั้นได้แลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ อีก 2 วันต่อมาได้นัดผู้เสียหายมาพบที่ย่านตลาดมีนบุรี ก่อนที่จะลักทรัพย์ของผู้เสียหายในระหว่างที่ผู้เสียหายทำผม นำทรัพย์ที่ได้ไปขายย่านหัวลำโพง และนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พร้อมรับว่าก่อนหน้านี้ก็เคยก่อคดีลักทรัพย์โดยใช้แผนประทุษกรรมในลักษณะเดียวกันมาแล้ว แต่หลังถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ ก็ก่อเหตุซ้ำเพื่อหาเงินตั้งตัว
ตำรวจตรวจสอบประวัติในฐานระบบ พบว่า ผู้ต้องหามีประวัติในคดีลักทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2551 ในพื้นที่ สน.โชคชัย สน.ลุมพินี ต่อมาปี 2556 ก่อคดีลักทรัพย์ที่ สภ.พระประแดง และในปี 2560 ก่อคดีลักทรัพย์ สน.ทองหล่อ ปี 2565 คดีร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และมาก่อเหตุอีกครั้งในท้องที่ สน.มีนบุรี
ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เตือนภัยไปยังประชาชนที่สนใจงานการแสดง ขอให้ระมัดระวังบุคคลที่เข้ามาเชิญชวน โดยตรวจสอบตัวตนและที่มาที่ไปของโมเดลลิ่งให้รอบคอบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกหลอกลวง
อ่านข่าว : พฐ.ชี้ก๊าซไข่เน่าปม 3 แม่ลูกดับคาห้องน้ำ
"อัจฉริยะ" ร้องเอาผิด "อธิบดี-ผบก." ละเว้นปฏิบัติหน้าที่คดีน้ำมันเถื่อน