การพูดคุยแบบตัวต่อตัวระหว่าง "อีลอน มัสก์" ชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกกับ "โดนัลด์ ทรัมป์" ที่อาจจะก้าวขึ้นเป็นคนที่ทรงอำนาจมากที่สุดในโลก ย่อมได้รับความสนใจไปทั่วโลกว่าทั้งคู่จะคุยเรื่องอะไรกัน
แม้ล่าช้าไปจากกำหนดการเดิมกว่า 40 นาที เนื่องจากปัญหาด้านเทคนิค แต่การสัมภาษณ์ครั้งนี้มีคนรอติดตามฟังสดทะลุ 1 ล้านคน โดยเฉพาะหากนับรวมการกดฟังย้อนหลังจากหลายแพลตฟอร์มด้วยแล้ว ยอดวิวของการสัมภาษณ์แบบ Exclusive ในครั้งนี้แตะ 1,000 ล้านวิว
มัสก์พูดคุยกับทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ จากรีพับลิกันในหลายประเด็นในช่วงเวลามากกว่า 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เหตุพยายามลอบสังหารทรัมป์ในเมืองบัตเลอร์เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งใช้เวลาคุยนานถึง 20 นาที รวมไปถึงประเด็นผู้อพยพ วิกฤตเงินเฟ้อและปัญหาโลกร้อน
ที่สำคัญคือการโจมตี คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและคู่แข่งจากเดโมแครต โดยมัสก์ย้ำจุดยืนสนับสนุนทรัมป์เต็มที่และเชื่อว่าทรัมป์จะพาประเทศไปสู่ความมั่งคั่ง สวนทางกับแฮร์ริสที่จะพาไปในทิศทางตรงกันข้าม
สำหรับมัสก์เกิดที่แอฟริกาใต้ ก่อนจะได้สัญชาติอเมริกันในปี 2002 ซึ่งในช่วงประมาณ 20 ปีแรกของการเป็นพลเมืองอเมริกัน มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกคนนี้ระบุว่า ตนเองสนับสนุนเดโมแครตมาโดยตลอดและยังลงคะแนนเลือก โจ ไบเดน ในศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2020
แต่มุมมองทางการเมืองของมัสก์เริ่มเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจน โดยเฉพาะผ่านการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนถึงขั้นต่อต้านไบเดน เช่น กลางปี 2023 มัสก์จับมือกับ "รอน ดีแซนทิส" จัดงานเปิดตัวผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ลงสมัครชิงตัวแทนรีพับลิกันบน X และกลายเป็นคู่แข่งทรัมป์แบบเต็มตัว ก่อนที่มัสก์จะหันไปประกาศสนับสนุนทรัมป์ หลังเกิดเหตุลอบสังหารเพียงไม่กี่นาที
นับตั้งแต่ไบเดนถอนตัวจากการเลือกตั้งและเปิดทางให้แฮร์ริสก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนพรรค สื่อกระแสหลักโฟกัสไปที่รองประธานาธิบดีหญิงผิวสีคนแรกของประเทศอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งการที่แฮร์ริสสามารถชิงพื้นที่สื่อมาจากทรัมป์ได้ ส่งผลดีไม่น้อย จากเดิมที่ตกเป็นรอง แต่ขณะนี้ผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก ชี้ว่าคะแนนนิยมของแฮร์ริสค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนคู่คี่สูสีกับทรัมป์
ดังนั้น นักวิเคราะห์จึงตั้งข้อสังเกตว่าการสัมภาษณ์ทรัมป์ผ่าน X เป็นกลยุทธ์ของมัสก์ เพื่อช่วยเรียกความสนใจและดึงคะแนนนิยมให้กับอดีตผู้นำสหรัฐฯ หรือไม่
แต่คนที่ได้ประโยชน์ไม่ใช่ทรัมป์คนเดียว การสัมภาษณ์ครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้มัสก์ได้ผูกมิตรกับคนที่อาจจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนต่อไป และการเป็นที่รักของทรัมป์น่าจะนำมาสู่ประโยชน์มากมาย เพราะมัสก์เป็นเจ้าของบริษัทหลายแห่งทั้ง SpaceX ที่มีโครงการกับนาซาหลายชิ้น และ Tesla ซึ่งช่วงแรกทรัมป์ไม่ได้สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า แต่ขณะนี้เขากลับบอกว่าผลิตภัณฑ์ของเทสลานั้นยอดเยี่ยม
การใช้สื่อสังคมออนไลน์ของมัสก์ในช่วงที่ผ่านมาถูกวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลชาติยุโรป โดยข้อมูลจากศูนย์เพื่อการต่อต้านความเกลียดชังทางดิจิทัลในสหรัฐฯ ชี้ว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2024 มัสก์โพสต์ข้อความที่บิดเบือนความจริง หรือผิดจากความจริงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งบน X ประมาณ 50 ข้อความ โดยมียอดวิวรวมกันมากกว่า 1,100 ล้านวิว
แม้คนที่เชื่อมัสก์จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ตัวเลขคนเข้าถึงข่าวลวงข่าวปลอมก็น่าตกใจ โดยสิ่งที่มัสก์โพสต์มีตั้งแต่การอ้างว่าเดโมแครตยอมให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายเข้ามาในสหรัฐฯ เพื่อให้คนเหล่านี้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ทั้งที่จริง ๆ แล้วทำไม่ได้ รวมไปถึงการอ้างว่าการเลือกตั้งเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทุจริตได้ง่าย และเผยแพร่คลิปวิดีโอของแฮร์ริสที่ใช้ AI สร้างขึ้น
อ่านข่าว
"แฮร์ริส" เปิดตัว "ทิม วอลซ์" คู่ชิงตำแหน่งรอง ปธน.สหรัฐฯ
มีอะไรบ้าง? "LA 2028" ปักธงโอลิมปิก
อิหร่าน "ปฏิเสธ" ยับยั้งโจมตีอิสราเอล จนกว่าข้อหยุดยิงกาซาบรรลุ
