สภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ค่าครองชีพที่พุ่งสูง "โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต" จึงเป็นความหวังเดียวของประชาชน ที่มีต่อรัฐบาล ยิ่งได้กรอกข้อมูลลงทะเบียน ยิ่งคาดหวัง นับวันรอเงินหมื่น บรรเทาความเดือดร้อน
แต่วันนี้ ประชาชนหลายคนกลับต้องทวงถามรัฐบาลใหม่ จะเอายังไงกับนโยบายเรือธง หลังมีกระแสพับโครงการไปพร้อมกับอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ยิ่งว่าที่นายกฯ ใหม่ "แพทองธาร ชินวัตร" ไม่ประกาศให้ชัด กระแสยกเลิกโครงการจึงเด่นชัดขึ้น
หากย้อนกลับไปมอง พรรคเพื่อไทย ชู "การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท" เป็นนโยบายหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง แต่ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณ และเริ่มเบิกจ่ายเงินล่าช้าไปกว่า 7-8 เดือน ทำเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจหายไปหลายแสนล้านบาท
แต่เมื่อรัฐบาลเข้าบริหารประเทศแล้ว กลับต้องเจอสารพัดปัญหาในทางปฏิบัติ จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 1 ปี กลายเป็นนโยบายหาเสียงที่ไม่ตรงปก พร้อมกับโจทย์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป เอกชนจึงรับได้ หากรัฐบาลจะยกเลิกโครงการ เพราะยังไงก็เข็นออกยาก แต่เศรษฐกิจประเทศจะรอนโยบายนี้อย่างเดียวไม่ได้แล้ว
เกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ทำอย่างไรให้เอสเอ็มอีมีเงินขยายกิจการ และลดหนี้ประชาชน เพิ่มกำลังซื้อ ซึ่งต้องรอรัฐบาลแถลงนโยบายต่อไป
หันมาดู "โครงการดิจิทัลวอลเล็ต" วันนี้ มีเพียงระบบลงทะเบียนที่เดินหน้าได้ แต่ระบบชำระเงินกลางของโครงการ เริ่มเห็นสัญญาณสะดุด
แหล่งข่าวในแวดวงการเงิน ระบุว่า บริษัทเทคโนโลยีผู้พัฒนาระบบ ขอถอนตัวจากโครงการไปแล้ว สอดคล้องกับท่าทีของนายแบงก์ ที่ไปรับ Technical spec จากกระทรวงการคลัง 14 แห่ง ขอเลื่อนกำหนดยืนยันการเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากยังมีคำถามเกี่ยวกับโครงสร้างระบบเชื่อมต่อ หรือ API Structure
ไม่เพียงระบบชำระเงินที่ไม่พร้อม แต่แหล่งเงินที่จะใช้ในโครงการ ตอนนี้มีตุนในกระเป๋าเพียง 274,700 ล้านบาท จากการตั้งงบขาดดุลเพิ่มเติม 2 ปีงบประมาณ กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ต้องหาเงินมาเติมให้ครบ ตามจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ ณ วันกดปุ่มแจกเงิน ตามเงื่อนไข พ.ร.บ.เงินตรา
แต่นับวันแล้ว สุ่มเสี่ยงมากที่ทั้งเงินและระบบจะไม่พร้อมจ่ายตามสัญญา ในเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนงบกลางปี 1.22 แสนล้านบาท ที่ผ่านสภาฯ ไปแล้ว ไม่ได้ระบุว่าใช้เพื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น จึงสามารถโยกไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจโครงการอื่นได้
เหตุผลเหล่านี้อาจเพียงพอจะยกเลิกโครงการ แล้วปรับนโยบายประชานิยมใหม่ที่แจกง่าย ได้ใจเร็ว ไม่เสี่ยงผิดกฎหมายเหมือนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
วิเคราะห์โดย พรรณทิภา ภัทรวรเมธ
อ่านข่าว : โจทย์ใหญ่ "ดิจิทัลวอลเล็ต- Entertainment Complex" ท้าทาย "แพทองธาร"