- เปิดชื่อ 79 นักกีฬาพาราลิมปิกไทย ร่วมสู้ศึกปารีสเกมส์ 2024
- "จักริน ดำมุนี" จากไกด์รันเนอร์ สู่ว่าที่ฮีโร่พาราลิมปิกเกมส์
ย้อนไปเมื่อ 30 ปีแล้ว เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของสาวโรงงานชาวเชียงใหม่วัย 17 ปี ที่ชื่อว่า "แวว" สายสุนีย์ จ๊ะนะ หลังจากเธอประสบอุบัติเหตุถูกรถชน จนกลายเป็นผู้พิการไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป
นั่นทำให้ความฝันทุกอย่าง รวมถึงความฝันที่ต้องการเป็นครูของ "แวว สายสุนีย์" ต้องพังทลายลงไป จนครั้งหนึ่งเธอเคยเกือบคิดฆ่าตัวตาย เพราะท้อแท้ต่อโชคชะตา
ก่อนที่กำลังใจจากครอบครัวจะทำให้เธอ เบนเข็มทิศไปยังศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการหยาดฝน สังกัดชมรมล้านนา จ.เชียงใหม่ ด้วยความคิดที่จะต้องไม่เป็นภาระคนอื่น และต้องฝึกการใช้ชีวิต รับสภาพกับสิ่งที่เป็นให้ได้
นั่นทำให้ "แวว สายสุนีย์" ได้เห็นโลกอีกใบที่เธอไม่เคยเห็น นั่นก็คือ กีฬาสำหรับผู้พิการ และก็ได้โอกาสหัดเล่นวีลแชร์บาสเก็ตบอล ประมาณ 1 ปี จนถึงขั้นติดทีมชาติได้
แต่หลังจากนั้น โชคชะตา ก็ได้นำพามาให้เธอ หัดเล่นวีลแชร์ฟันดาบ ตามคำแนะนำของโค้ชชาวฮ่องกง ที่เห็นว่า สรีระของ สายสุนีย์ ที่มีช่วงลำตัว และแขนที่ยาว ที่เป็นจุดสำคัญของกีฬาฟันดาบ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบทีมชาติไทย คว้าเหรียญรางวัลมาแล้วหลายครั้ง โดยทำได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 3 ทองแดง
และนี่ถือเป็นจุดพลิกผันบนเส้นทางสายกีฬาของสายสุนีย์ อย่างแท้จริง เพราะเธอมุ่งมั่นฝึกซ้อมล่อเป้าฟันดาบ เฉลี่ยวันละ 1,000 ครั้ง จนถูกคัดเป็นตัวแทนทีมชาติไทย ลงแข่งเฟสปิกเกมส์ หรือ เอเชียนพาราเกมส์ ปี 1999 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบทีมชาติไทย
เธอสามารถสร้างผลงานสุดยอดด้วยการคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ พร้อมคว้าเงินอัดฉีด 200,000 บาท ซึ่งถือเป็นเงินขวัญถุงที่นำไปปลดหนี้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับครอบครัวของเธอ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต
หลังจากนั้น"แวว สายสุนีย์" มุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนัก จนพลิกล็อกคว้าแชมป์เวิลด์คัพ ที่นิวซีแลนด์ ในประเภทคลาส A ประเภทที่มีการเคลื่อนไหว และสมดุลอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
และจากการคว้าแชมป์ในรายการนี้ ส่งผลให้คว้าตั๋วลงแข่งพาราลิมปิกเกมส์ เป็นหนแรกในชีวิต เมื่อปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และกลายเป็นเวทีแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการให้กับ "แวว สายสุนีย์" หลังจากเธอคว้าเหรียญทองมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นเหรียญทองแรกของนักกีฬาหญิงไทยในพาราลิมปิกเกมส์ด้วย
จากนั้น สายสุนีย์ คว้าตั๋วลงแข่งพาราลิมปิกต่อเนื่อง รวมถึงครั้งนี้ที่ ปารีสเกมส์ ที่จะทำให้เธอ ทำสถิติไปพาราลิมปิก ถึง 6 สมัยซ้อน แน่นอนว่า จนวันนั้นถึงวันนี้ สายสุนีย์ ถือเป็นฮีโร่แห่งทัพพาราลิมปิกไทยนานถึง 3 ทศวรรษ หลังจากเธอ ทำได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 3 ทองแดง เรียกว่า ไปทุกครั้งมีเหรียญทุกครั้ง
สายสุนีย์ ถ่ายภาพกับลูกสาว ภาพ : Facebook Saysunee Jana
เคล็ดลับที่ทำให้ สายสุนีย์ ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ อยู่ที่ความรักในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งรัก ด้วยความขยัน มุ่งมั่น และทุ่มเท อย่างมีวินัย ท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัว ซึ่ง สายสุนีย์ อาศัยร่วมกับพ่อแม่ ญาติพี่น้องของเธอ โดยมีสามี และน้องฤทัย ลูกสาว เป็นโซ่ทองคล้องใจ ในการเป็นพลังใจให้ "แวว สายสุนีย์" เดินหน้าลงแข่งปารีสเกมส์ 2024 เพื่อสร้างโอกาส แบบอย่างแห่งความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว รวมทั้งชาวไทยอย่างแท้จริง
ภาพ : Facebook Saysunee Jana
ในวัย 50 ปี "แวว สายสุนีย์" บอกว่า นี่ไม่ใช่พาราลิมปิกครั้งสุดท้ายของเธออย่างแน่นอน เพราะเธอยังมีแรงกระตุ้น แรงกระหาย ในชัยชนะกับกีฬาชนิดอย่างเต็มเปี่ยม และจะเล่นกีฬาชนิดนี้จนกว่าร่างกายจะไหว เป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นน้องได้อีกยาวนาน สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของ ทีมวีลแชร์ฟันดาบไทย จะมีคิวลงแข่งขันในวันที่ 3 - 7 ก.ย.นี้
อ่านข่าว : "พงศกร" ความหวังทัพไทย คว้า "เหรียญทอง" พาราลิมปิกเกมส์
"จักริน ดำมุนี" จากไกด์รันเนอร์ สู่ว่าที่ฮีโร่พาราลิมปิกเกมส์
ทีมแบดมินตันพาราไทยลงซ้อมสนามจริง หวังคว้าเหรียญรางวัลพาราลิมปิก
"จักริน ดำมุนี" จากไกด์รันเนอร์ สู่ว่าที่ฮีโร่พาราลิมปิกเกมส์ |