เตรียมส่งฟ้อง “สมยศ-พวก” ช่วยเหลือคดี “บอส อยู่วิทยา” 29 ส.ค.

อาชญากรรม
26 ส.ค. 67
13:11
1,379
Logo Thai PBS
เตรียมส่งฟ้อง “สมยศ-พวก” ช่วยเหลือคดี “บอส อยู่วิทยา” 29 ส.ค.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเผยขั้นตอนส่งฟ้อง “สมยศ-เนตร” กับพวกรวม 8 คน ช่วยเหลือคดี “บอส อยู่วิทยา“ ยืนยันไม่หนักใจ แม้กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาเป็นอดีตข้าราชการ

วันนี้ (26 ส.ค.2567) นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญาฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. กับพวกรวม 8 คน ตามมติของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

กรณีเปลี่ยนแปลงสำนวนและลดความเร็วรถของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 ตามที่ ป.ป.ช.มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด แจ้งมติที่ขอให้ดำเนินคดีอาญา ฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5, พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7, นายเนตร นาคสุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10, นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9, นายธนิต บัวเขียว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12, นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13, รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19

อัยการสูงสุดได้พิจารณาและรับดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คน ตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ภายหลังอัยการสูงสุดมีคำสั่งรับดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.2567 ขั้นตอนเมื่อรับดำเนินคดีก็เท่ากับเป็นการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 8 คน โดยในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ทั้ง 8 คนจะต้องเดินทางมาที่สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อนำตัวไปส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาแตกต่างกัน แบ่งเป็นส่วนแรกคือการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ อีกส่วนคือการดำเนินคดีกับอดีตรองอัยการสูงสุดในเรื่องการสั่งคดี และผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเป็นพยานของคดีนี้

คดีดังกล่าว ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด หากอัยการสูงสุดเห็นด้วยและมีคำสั่งฟ้อง อัยการสูงสุดก็จะเป็นโจทก์ฟ้องเอง แต่จะมีบางคดีที่ ป.ป.ช.เห็นไม่ตรงกับอัยการสูงสุด คือ ป.ป.ช.เห็นว่าควรฟ้องดำเนินคดี แต่อัยการสูงสุดเห็นว่าไม่ควรฟ้องดำเนินคดีหรือสั่งไม่ฟ้อง หากเป็นเช่นนั้น ป.ป.ช.สามารถนำเรื่องไปดำเนินการฟ้องเองได้ แต่คดีนี้ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกัน จึงสิ้นสุดขั้นตอนของ ป.ป.ช.และจะเป็นดุลพินิจของศาลในการพิจารณาคดี

นายวัชรินทร์ คาดว่า วันที่ 29 ส.ค.นี้จะใช้ระยะเวลาพิจารณาคดีพอสมควร เพราะจะใช้ระบบการพิจารณาเป็นระบบไต่สวน โดยฝ่ายโจทก์จะนำพยานเข้าสู่ศาล ในการสืบพยานไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานเอกสารหรือพยานวัตถุ ส่วนจำเลยทั้งหมดมีสิทธิ์ต่อสู้ทางคดี ซึ่งการตัดสินว่าจำเลยทั้งหมดมีความผิดหรือไม่จะเป็นดุลยพินิจของศาล เบื้องต้นส่วนตัวคาดว่าทุกกระบวนการจะเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 1 ปี

พร้อมยืนยันว่า แม้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คนจะมีตำแหน่งเป็นอดีตข้าราชการ แต่สำนักงานอัยการสูงสุดไม่หนักใจ เพราะทุกคดีจะต้องค้นหาความจริง ทำความจริงให้ปรากฎและนำสืบให้ชัดเจนตามที่ได้รับผิดชอบตามแต่ละสำนวนคดี

อ่านข่าว

แม่มารับแล้ว "ลูกช้างป่าแก่งหางแมว" พลัดหลงโขลง

คลัสเตอร์ "ยาดองเถื่อน" เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน ป่วย 25 คน

ประเมิน 4 ปัจจัย น้ำจะท่วม "กทม. - ภาคกลาง" ซ้ำรอยปี 54 หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง