วันนี้ (22 ก.ย.2567) กลุ่มควันยังคงพ่วงพุงออกจากอาคารสำนักงานหลังใหญ่ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา อ.แว้ง จ.นราธิวาส หลังถูกลอบวางระเบิด 3 ลูก
โดยลูกแรกผู้ก่อเหตุเกือบ 20 คน ที่บุกเข้ามาทางด้านหลังของที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ใช้ระเบิดเพื่อทำลายตู้เซฟ แล้วขโมยปืนลูกซองยาวของทางราชการไป 10 กระบอก พร้อมกับ ปืนพกสั้น ของเจ้าหน้าที่อีก 2 กระบอก
ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่ง เข้าไปคุมตัวเจ้าหน้าที่ 4 นาย แล้วมัดมือมัดเท้าและใช้ปืนขู่
หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุอีกกลุ่มหนี่ง ก็เข้าไปเผาบ้านพักของเจ้าหน้าที่อีก 3 หลัง ก่อนล่าถอย และในช่วงเช้าเวลา 10.03 น. ก็เกิดระเบิดลูกที่ 2 ขึ้น ในสำนักงาน และถัดมาอีก 1 ชั่วโมงก็เกิดระเบิดลูกที่ 3 เสียงดังสนั่นภายในสำนักงานซ้ำอีก
อ่านข่าว : ไทม์ไลน์ จับ จนท. - เผาทรัพย์สิน ขสป.ฮาลา-บาลา จ.นราธิวาส
โดยตลอดทั้งวันนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจสอบเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุเข้าปฏิบัติการโจมตีพบว่า ใช้วิธีเดินเท้าเข้ามาทางด้านหลังของสำนักงานเขตฯ เพื่อเลี่ยงจุดตรวจค้น
จากนั้นได้เปิดปฏิบัติการพร้อมๆ โดยหลังจากนี้หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานก็ต้องทบทวนแผนในการดูแลมากขึ้น โดยเฉพาะการป้องกันปืนซึ่งเชื่อว่า เป็นเป้าหมายหลักในการปฏิบัติการครั้งนี้
เมื่อปี 2545 หรือ 2546 กรมป่าไม้ก็ถูกปล้นปืน ครั้งนี้ก็ทำนองคล้ายๆ กัน อย่างไรก็แล้วแต่ในความรอบคอบนั้นเราก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กวดขันเรื่องของเวรยาม อาวุธปืนต่างๆ ก็ให้เก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำสอง แต่ก็ขอให้ระวังตัวไว้ก่อน เพราะที่ตั้งของหน่วยต่างๆของเขตอุทยานในสามจังหวัดก็อยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงเกือบทุกที
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าว และว่า ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเหตุที่ส่งสัญญาณ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่และชุมชนก็มีความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งหลังการเข้าเคลียร์พื้นที่แล้วก็จะเร่งฟื้นฟูกลับมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สมบูรณ์อีกครั้ง
ขณะที่นายนูรฮีซาม บินมามุ นักกิจกรรมอนุรักษ์นกเงือก จ.นราธิวาส ที่ทำค่าอาสาและจัดอบรมเยาวชนเพื่อปลูกฝังการอนุรักษ์นกเงือก บอกว่า กว่า 30 ปีแล้ว ที่ไม่เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นที่นี่ เพราะในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงชุมชน ที่มีการศึกษาวิจัยนกเงือก ที่มีพันธุ์หลากหลายมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ หรือแทบจะเป็นโรงเรียนในการอบรมเยาวชนเพื่อปลูกฝังความรักสิ่งแวดล้อม สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกระทบต่อความรู้สึกของคนในพื้นที่ รวมถึงเด็กๆที่เคยมาอบรมและเข้าค่ายศึกษานกเงือกมาก่อน
“ทันทีที่ทราบข่าวก็จุก พูดไม่ออก เพราะที่นี่ก็เหมือนโรงเรียนเด็กๆ เหมือนออฟฟิศธรรมชาติที่ผมทำงานอยู่เกือบทุกวัน สิ่งที่เราพยายามทำ คือ ความพยายามให้นกเงือกเป็นตัวแทนของการสื่อสันติภาพ ความรักทั้งต่อสัตว์ สิ่งแวดล้อม และมนุษย์ด้วยกัน เมื่อวานที่เกิดเหตุก็เป็นวันสันติภาพ งงไปหมด ว่าทำไม ที่ที่น่าจะปลอดภัยที่สุด ก็ยังเกิดเรื่องแบบนี้” นายนูรฮีซาม สะท้อนความรู้สึก
การปล้นปืนและการเข้าโจมตี หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะตั้งแต่ปี 2547 เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง โดยเฉพาะเหตุปล้นปืนที่อุทยานแห่งชาติบางลางเมื่อปี 2545 ที่ได้ปืนไป 33 กระบอก และหากย้อนดูข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า ตั้งแต่ปี 2547 ถึงเดือน ธ.ค.ปี 2565 เกิดการปล้นปืนไปแล้ว 174 ครั้ง ซึ่งในปี 2548 เกิดการปล้นปืนมากที่สุด คือ 125 ครั้ง
อ่านข่าว :