วันนี้ ( 2 ต.ค.2567) นาย ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา เพื่อให้คนไทยสามารถซื้อสลากได้ในราคาไม่เกิน 80 บาท เป็นเรื่องสำคัญที่สำนักงานสลากฯ ได้ดำเนินการต่อเนื่อง โดยมีแนวทางแก้ไข (Road Map) 3 ระยะ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงเดินหน้าโครงการ สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก
โดยระยะที่ 1 คือ การจัดระเบียบและบังคับใช้กฎหมาย และระยะที่ 2 คือ การจัดระบบการจำหน่ายสลากผ่านโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า ส่งผลทำให้สลากกระจายไปยังผู้จำหน่ายทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการผลักดันโครงการสลาก 80 ซึ่งมีตัวแทนกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ปัจจุบันการแก้ไขสลากเกินราคา ได้เดินทางมาถึงระยะที่ 3 ด้วยการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และเป็นธรรม คือ การนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการจำหน่าย ในรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (L6) แบบดิจิทัล หรือ สลากดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ราคาไม่เกิน 80 บาททุกฉบับ โดยได้รับความนิยม ปัจจุบันมียอดจำหน่าย 24 ล้านฉบับ และเพิ่มระหว่างงวดอีก 2 ล้านฉบับ จากจุดเริ่มต้นที่ 5 ล้านฉบับ ในปี 2565
ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขสลากเกินราคาได้มิติสำนักงานสลากฯ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก เพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ซื้อและผู้จำหน่ายสลากในสภาวะปัจจุบัน โดยผลิตภัณฑ์สลากฯ ทั้ง 2 รูปแบบ ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา
โดยเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ตามราคาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักจะเป็นเครื่องมือสำคัญต่อเนื่องจากการจำหน่ายสลากดิจิทัลที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาและดึงราคาสลากมาได้บางส่วน
นาย ธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า สำนักงานสลากฯ กำหนดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก ในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) ให้กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่งวดวันที่ 1 พ.ย.2567 หรือจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และจะเริ่มจำหน่ายเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่ช่วงเม.ย. 2568
สำหรับกระบวนการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำเกณฑ์การคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย และข้อกำหนดต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นและพร้อมให้ดำเนินการก่อนเปิดจำหน่ายเต็มรูปแบบ
ด้านพันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) จะจำหน่ายในราคาใบละ 20 บาท สามารถเลือกซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีเลขอั้น
โดยผู้ซื้อสามารถซื้อสลากในช่วงทดสอบจำหน่ายได้ที่ ร้านค้าโครงการสลาก 80 ทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ สามารถสแกนตรวจสอบจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชันเป๋าตัง และทำรายการซื้อสลากพร้อมชำระเงินผ่านอุปกรณ์ที่สำนักงานสลากฯ ได้ติดตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการที่ต้องชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลเท่านั้น
ทั้งนี้ สลาก 1 ใบ มีโอกาสถูก 4 ประเภทรางวัล ได้แก่ สามตรง, สามสลับหลัก, สองตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะจ่ายเงินรางวัลในรูปแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อในแต่ละหมายเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้น ๆ กำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง ใช้ผลรางวัลอ้างอิงจากผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก
โดยรางวัลสามตรงและสามสลับหลัก จะมาจากเลข 3 ตัวท้ายของผลรางวัลที่ 1, รางวัลสองตรงมาจากผลรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และรางวัลพิเศษจะสุ่มจากผู้ถูกรางวัลสามตรงเท่านั้น โดยจะมีการออกรางวัลพิเศษภายหลังจากการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักเสร็จสิ้นในแต่ละงวด
สำหรับการจ่ายรางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับการเตือนในแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสามารถกดรับเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ทันที โดยจะต้องมีการชำระค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท และการรับเงินโดยวิธีการโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
พันโท หนุน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานสลากฯ จะจำหน่ายสลากด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ ไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถซื้อสลากได้ การกำหนดพื้นที่ในการจำหน่ายสลากห้ามใกล้กับสถานศึกษา เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักแบบดิจิทัล
อ่านข่าว:
กกร.ห่วงบาทแข็งกระทบส่งออก จี้แบง์ชาติแก้ปัญหา