วันที่ 19 ธ.ค.2567 ที่ถึงนี้ นายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ จะหมดวาระลง และจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ภายใน 45 วันนับแต่วันที่ครบวาระ ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น พ.ศ. 2562
หากย้อนไปตั้งแต่มีการก่อตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ พบว่า มีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ เพียง 2 คนเท่านั้น นายก อบจ.คนแรกคือ นพ.ชาญชัย ศิลปอวยชัย เข้ามาบริหาร อบจ.แพร่ ในปี พ.ศ.2547-2550 แต่ท้ายสุด นพ.ชาญชัย ถูกลอบสังหาร ในเช้าของวันที่ 22 ต.ค.2550 ขณะกำลังวิ่งออกกำลังกายที่สนามกีฬากลางเมืองแพร่ ต่อมาจับคนร้ายได้ และปลายปี 2558 ศาลฎีกาตัดสินให้มือปืนและคนขี่มอเตอร์ไซค์จำคุกตลอดชีวิต
อนุวัธ วงศ์วรรณ
อนุวัธ วงศ์วรรณ
นายก อบจ.คนต่อมา คือ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ หรือ เสี่ยเอน ลูกชายคนโตของนักการเมืองใหญ่ในอดีต พ่อเลี้ยงณรงค์ วงศ์วรรณ ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.แพร่ แล้วถึง 3 วาระ คือวาระที่ 1 วันที่ 9 ธ.ค.2550 -14 ก.ย.2554 วาระ 2 ตั้งแต่ 6 พ.ย.2554 จนครบ 4 ปี และอยู่ยาวในช่วงปฏิวัติรัฐประหาร และวาระ 3 ในปี พ.ศ.2564 มาจนถึงปัจจุบัน รวมเวลาที่นั่งบริหารงานในตำแหน่งนายก อบจ.แพร่ 17 ปี
แม้ “เสี่ยเอน” กระแสยังไม่ตก แต่ด้วยความอิ่มตัวเจ้าตัวเริ่มเปรยๆ ว่า อยากลาวงการในสนามเลือกตั้งไปดูแลธุรกิจของครอบครัว แต่ระดับบริหารพรรคเพื่อไทยยังอยากให้ลงสมัครต่อเพราะเชื่อมันในกระแสนิยม
สาโรจน์ ศุภศิริ
สาโรจน์ ศุภศิริ
วันที่ 3 พ.ค.2567 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจัดงานแสดงวิสัยทัศน์และความก้าวหน้าในนโยบายต่างๆ พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต พร้อมทั้งประกาศความพร้อม ในการสู้ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 9 แห่ง คือ นายก อบจ.ลำพูน , นายกอบจ.ลำปาง ,นายกอบจ.อุดรธานี ,นายกอบจ.ยโสธร , นายกอบจ.นครพนม ,นายก อบจ.มหาสารคาม ,นายก อบจ.ลำพูน ,นายก อบจ.สุโขทัย และ นายก อบจ.แพร่ ถือเป็นไฮไลท์ของพรรคเพื่อไทยที่วางแผนระยะยาวสำหรับสนามเลือกตั้งท้องถิ่น
คู่แข่งที่น่ากลัวของเสี่ยโอน คือ นายสุภวัฒน์ ศุภศิริ หรือ “โกลี่” ลูกชายของนายสาโรจน์ ศุภศิริ ญาติสนิท "แม่เลี้ยงติ๊ก" ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นักการเมืองระดับชาติ ที่ครั้งที่ผ่านมาประกาศย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปพรรคใหม่
“โกลี่” คนรุ่นใหม่ รุ่นหลาน เคยลงแข่งในสนาม อบจ.แพร่ สมัยที่ผ่านมาสวมเสื้อ “คณะก้าวหน้า” ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคดังที่กระแสนิยมสูง แต่ยังพ่าย นายอนุวัธ วงศ์วรรณ ไปอย่างขาดลอย
หลังจากนั้นจึงเบนเข็มฝึกผีมือทางการเมือง ลงสมัครเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลป่าแมต “โกลี่” ชนะเลือกตั้ง ได้บริหารท้องถิ่นในบ้านของตนเอง และทำผลงานได้ดี
การกลับมาของ “โกลี่” เพื่อชิงเก้าอี้ นายก อบจ.แพร่ ครั้งนี้ ต้องดูว่าจะอยู่ในสังกัดเดิมหรือไม่ ถึงแม้ว่าในระดับท้องถิ่น มิได้กำหนดว่า ต้องสังกัดพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองมีส่วนให้ได้คะแนนเสียงไม่น้อย เหมือนครั้งที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าซึ่งเป็นสาขาของพรรคก้าวไกล ได้รับการสนับสนุนหาเสียง จากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะพากันมาช่วยหาเสียงและก็ทำให้ได้รับคะแนนมากพอสมควร
ชนกนันท์ ศุภศิริ
ชนกนันท์ ศุภศิริ
ยังมีอีกกลุ่มการเมืองที่ส่อแววว่า จะลงสนามเลือกตั้งนายก อบจ.แพร่ จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงน้ำท่วม จ.แพร่ หลายวัน หลายอำเภอ มีสาวสวยที่ชื่อ “น้องเบน” ชนกนันท์ ศุภศิริ” พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เคยลงสนามเลือกตั้ง ส.ส.สมัยที่ผ่านมา แม้ได้คะแนนสูง แต่ก็ยังแพ้ผู้สมัครเก๋าเกมอย่าง ส.ส.พรรคเพื่อไทย
กระแสน้องเบนนั่งเรือทำอาหาร แจกของผู้ประสบภัย และสอบถามสารทุกข์สุขดิบอย่างใกล้ชิด พร้อมกับสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปทุกที่ที่น้ำท่วม 6 อำเภอ
จึงน่าจับตามองว่า น้องเบน หรือ ชนกนันท์ ศุภศิริ จะหันมาลงสนาม อบจ.แพร่ หรือไม่ เพราะมีการมองว่า การบริหารที่ยาวนานของนายอนุวัธ ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรไม่ได้มาก และดูเหมือนจะเป็นการทำงานที่ล่าช้า ไม่ทันสมัย คนรุ่นใหม่น่าจะมีโอกาสมากกว่า
สำหรับ น.ส.ชนกนันท์ ศุภศิริ เป็นบุตรสาวของ นายพงษ์สวัสดิ์ ศุภศิริ หรือ “โกปี้” อดีตประธานสภาจังหวัดแพร่ สมัย นพ.ชาญชัย ศิลปะอวยชัย โดยโกปี้ เป็นน้องชายคนเล็กของแม่เลี้ยงติ๊ก และยังทำงานอยู่กับพรรคร่วมไทยสร้างชาติอย่างเหนียวแน่น
ที่ผ่านมา นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ร่วมกับ “น้องเบน” ลุยช่วยเหลือผู้ประสบภัย อักนัยหนึ่งคือการทำความรู้จักที่มากขึ้นกับประชาชน
น้องชนกนันท์ หรือ น้องเบน คนรุ่นใหม่อายุ 20 ปี ต้นๆ ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ส่วนรายอื่นๆ แล้วถ้าจะมาลง ฐานการเมืองยังคงห่าง “เสี่ยเอน” และ 2 คนรุ่นใหม่
รายงาน : ทีมศูนย์ข่าวภาคเหนือ
อ่านข่าว : น้ำท่วมเชียงใหม่ ปรับ 12 ขบวนรถไฟสายเหนือจอดสถานีลำปาง
"ไทด์" นำกู้ภัยฝ่าน้ำเชี่ยวช่วยยาย 67 ปีติดต้นไม้หนีน้ำ 9 ชม.
