เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทย ทั้งในมิติดั้งเดิมและสมัยใหม่ ในหมู่ประชาชนเกาหลีใต้ ส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจให้กับร้านอาหารไทย การส่งออกสินค้า และบริการท่องเที่ยวของไทยให้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น
รวมถึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 65 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เกาหลีใต้
นายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-เกาหลีใต้ ว่า ความสัมพันธ์ของไทยกับเกาหลีมีมาตั้งแต่สมัยสงคราม ประเทศไทยส่งทหารเข้าร่วมสงครามเกาหลี เมื่อปี ค.ศ.1951 คนเกาหลีเขาไม่เคยลืม
คนวัยกลางคนขึ้นไปเขาจะจำได้ โดยเฉพาะเขารู้ว่าเป็นคนไทย เขาจะมีความซาบซึ้งบุญคุณของทหารไทย ขณะเดียวกัน การพัฒนาของทั้งสองประเทศ มีการพัฒนาต่อเนื่องกันมา ความสัมพันธ์ก็ใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อย ๆ เดี๋ยวนี้เราเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กันแล้ว
นายธานีกล่าวต่อว่า การค้าการลงทุนของไทย-เกาหลี ก็น่าจะพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น เพราะว่าทั้งสองประเทศก็มีศักยภาพที่สูง ประเทศไทยมีเศรษฐกิจเป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่เกาหลีมีเศรษฐกิจอันดับ 4 ของเอเชีย ซึ่งเขามีความก้าวหน้าในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี ด้านนวัตกรรม เรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า เรื่องของอวกาศ การทหาร เขาก้าวหน้ามาก
บทบาทหน้าที่ของสถานทูตเราคือ ทำอย่างไร ที่เราจะสามารถร่วมมือกับเขาเพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกันได้ ตอนนี้เราเจรจาเรื่องหุ้นส่วนเศรษฐกิจด้วยกัน ก็คือ FTA หรือ เขตการค้าเสรี นั่นเอง
กระทรวงพาณิชย์คุยกันมาแล้ว 2 รอบ คิดว่าปีหน้าเราจะน่าจะคุยกันจบได้ภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งเรื่องนี้เป็นความสัมพันธ์ของความสัมพันธ์ ไม่เฉพาะเรื่องการค้าการลงทุนเท่านั้น แต่รวมถึงการจ้างงานของทั้งสองประเทศ และการร่วมมือทางธุรกิจมากมาย
ขณะเดียวกันเรื่องของการท่องเที่ยว ปีนี้มีคนเกาหลีเดินทางมาประเทศไทย 1.3 ล้านคน เราตั้งเป้าว่าจะไปได้อีกมาก เพราะประเทศไทยก็เป็นที่นิยม คนเกาหลีชอบประเทศไทยมาก ชอบอาหารไทย ชอบอัธยาศัยไมตรีของคนไทยมาก ๆ
ส่วนปัญหากรณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลี มักปฏิเสธนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย และมีการส่งกลับบ่อยครั้ง ทำให้คนไทยที่ต้องการไปเที่ยวเกาหลีต้องเสียเงินไปจำนวนมาก จนเกิดกระแสแบนไม่เที่ยวเกาหลีนั้น
นายธานีกล่าวว่า วันนี้เราเพิ่งคุยกันสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เขากำลังจะปรับการคัดกรองให้ดียิ่งขึ้น ให้การปฏิเสธชาวต่างชาติ และคนไทยที่เดินทางมาเกาหลีให้น้อยลง เขากำลังจะปรับตรงนี้ ภายในเดือน ธ.ค.2567 นี้
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน งานที่เราจัดขึ้นในวันนี้ คือ งานสวัสดีโซล 2024 หรือ ทีป็อบสตอรี่ ทีป็อบสตอรี่ก็คือ เรื่องราว สาระ คอนเทนท์ ของซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านดนตรี ศิลปะ ภาพยนตร์ ละคร ต่าง ๆ เรากำลังได้รับความนิยมมากในเกาหลี และในหลายๆ ประเทศ
ฉะนั้นการนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ในเทศกาลไทย เราจะเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ของเกาหลี และคนรุ่นของประชาคมระหว่างประเทศในเกาหลีด้วย
คนรุ่นใหม่เหล่านี้ เป็นพื้นฐานสำคัญ เป็นอนาคต ของความสัมพันธ์ไทย-เกาหลี เป็นอนาคตของความเข้าใจกันดี ระหว่างประเทศ เราจึงเน้นให้เป็นศิลปินรุ่นใหม่ แต่เราไม่ทิ้งศิลปินดั้งเดิม
เรามีที่มาที่ไป อย่าง สบันงาจากเชียงใหม่ วงไลเคน วงโฟร์อีฟ วงอิสมา วงพาวของเกาหลี ที่มีสมาชิกเป็นคนไทย เฉลิมฉลองทั้งสองประเทศ อันนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถทำให้ทั้งสองประเทศ มีความเข้าใจกันมากขึ้น มีความรู้สึก คนไทยคนเกาหลี ไม่ใช่ใครอื่นไกล จริง ๆ แล้วเราเป็นพันธมิตรร่วมสงครามกันมา เราเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดกันมาก่อน
ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ดีมาก สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวเกาหลี เพราะจากสถิตินักท่องเที่ยวเกาหลีที่เดินทางมาประเทศไทย
เราตั้งเป้านักท่องเที่ยวเกาหลี ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยในปีนี้ เท่ากับปีที่ดีที่สุดคือ ปี 2019 จำนวน 1.8 ล้านคน และปีนี้เราคาดว่า นักท่องเที่ยวเกาหลีที่เดินทางมาประเทศไทย น่าจะเกินเป้าด้วยซ้ำ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เป็นดาวรุ่งมาก ๆ
น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวต่อว่า เราได้ส่งเสริมให้เหมาะกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นที่มาจากกลุ่มทัวร์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงมาก ในแต่ละเมืองของประเทศไทย เราก็ให้มีการนำเสนอการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และมีการทำจอยน์โปรโมชั่นกับสายการบิน
ตอนนี้เองที่เรา จะเห็นว่ามีไฟลท์บินตรง จากเกาหลีไปประเทศไทยถึง 3 เมืองคือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ถือว่าเป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับอย่างดีมาก
เชียงใหม่ถือว่าเป็นเมืองหลัก และตอนนี้เรากำลังโปรโมทเมืองน่าเที่ยว หรือเมืองรอง ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน ซึ่งลำพูนก็ถือว่า เป็นอีกหนึ่งเมืองที่นักท่องเที่ยว ที่เป็นนักกอล์ฟเดินทางไปค่อนข้างมาก
และอีกหนึ่งเมืองที่เราคิดว่าจะทำการประชาสัมพันธ์ และทำการตลาดเพิ่มมากขึ้น ก็คือว่า ตอนนี้เกาหลีมีบินตรงมาที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว จากเวียงจันทน์เขานั่งรถไฟ มาที่หนองคาย และจากหนองคาย
มีการเติมโปรดักส์ สินค้าและบริการ ชาวเกาหลีนิยมไปอุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่เราจะนำนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี มาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
ในวันนี้งานที่จัดขึ้นที่กรุงโซล สวัสดีโซล ไทยเฟสติวัล 2024 ต้องบอกว่า ท่านทูตไทย ณ กรุงโซล วางยุทธศาสตร์ได้ดีมาก ที่บูรณาการกับทุกกระทรวง เราใช้การขายสตอรี่ผ่านทาง T-POP และผ่านทางซอฟต์พาวเวอร์
ปีนี้ ททท.ขายซอฟต์พาวเวอร์เสน่ห์ไทย คือ ไปทานอาหารไทยที่ไหน อันที่สอง เรานำเสนอกิจกรรมท้าทายแรงใจ มีการนำเสนอกอล์ฟแบบไทยๆ อันที่สาม นำเสนอสินค้าโอท็อป สินค้าเครื่องแต่งกายแบบไทยต่าง ๆ
อันที่สี่ มีการนำเสนอ Unseen ของบ้านเชียง สุดท้ายเราจะซื้อชาวเกาหลี ด้วยกิจกรรมอีเว้นท์ เมื่อนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีมา เราก็จะมีเทศกาลประเพณี ซึ่งถือว่านักท่องเที่ยวเกาหลีน่าจะชอบ ไม่ว่าจะระดับท้องถิ่นหรือระดับนานาชาติ เช่น ลอยกระทง สงกรานต์ เคาท์ดาวน์ ฯลฯ
T-POP เราพยายามดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เช่นเดียวกับซีรีส์วาย ซึ่งทำได้ดีมาก ๆ และ T-POP ของเราก็มีความสามารถ และที่สำคัญก็เป็นตัวบอกเรื่องราว ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ทั่วโลกได้รู้
อ่านข่าว : ปิดซ่อม “สะพานเกษะโกมล” หนึ่งในตำนานโยงการเมืองไทย