กรณีนักท่องเที่ยวพบเต่าปูลู สัตว์ป่าคุ้มครองนอนนิ่งอยู่บริเวณหาดทรายของน้ำตกแม่เกิ๋งหลวง ชั้นที่ 3 ของอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย จ.แพร่ โดยสังเกตพบรอยแผลแตกบริเวณส่วนท้ายของกระดองและโคนหาง เจ้าหน้าที่พาออกมารักษาคลินิก
วันนี้ (28 ต.ค.2567) นายประวิทย์ ใจคำ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า หลังจากนำเต่าปูลูที่ได้รับบาดเจ็บ โดยตั้งชื่อว่า "คำแก้ว" เข้ารับการตรวจติดตามอาการอย่างละเอียดที่คลินิกบ้าน ป.ปลา รักษาสัตว์
ทีมสัตวแพทย์ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด พร้อมเอกซเรย์ เพื่อตรวจดูอวัยวะภายใน ผลการตรวจพบว่าน้องคำแก้วมีอาการที่ดีขึ้น โดยสามารถกินอาหารได้ตามปกติ มีความกระปรี้กระเปร่า และมีแรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผลเอ็กซเรย์เป็นแผลเก่า 5 ซม.ที่น่าจะเจ็บมานานแล้วโชคดีไม่โดนอวัยวะ แต่มีกระดองจนถึงหางโดยการดามไว้ ต้องให้กินยาฆ่าเชื้อ รวมทั้งเตรียมหาอุปกรณ์เชื่อมซ่อมกระดองแข็งแรงขึ้น
ผลเอ็กซเรย์ เต่าปูลู
นายประวิทย์ กล่าวอีกว่า สัตวแพทย์สันนิษฐานว่าบนเต่าปูลูตัวนี้ น่าจะเป็นแผลเก่าที่อาจเกิดจากถูกหินที่ถูกน้ำป่าช่วงต้นเดือนต.ค.ทับแต่ไม่โดนจุดสำคัญจน ตะเกียกตะกายออกมาจากหินได้ พบว่าเป็นเต่าตัวเต็มวัย น้ำหนัก 1.5 กก.และมีสภาพผอม ดังนั้นการฟื้นตัวอาจจะช้า จึงนัดตรวจและประเมินอาการอีกรอบ 4 พ.ย.นี้
สำหรับเต่าปูลู ในพื้นที่เวียงโกศัย ซึ่งมีน้ำตกแม่เกิ๋งหลวง พบว่าทั้ง 7 ชั้นยังพบเต่าปูลูอาศัยอยู่ เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบการรบกวน และชอบอยู่ในน้ำที่สะอาดมาก ถือว่าประชากรยังพอให้นักท่องเที่ยวเห็นได้ โดยส่วนใหญ่จะเจอมาว่ายน้ำ และนอนอาบแดด เต่าชนิดนี้กินปลา
อุทยานฯ มีป้ายประชาสัมพันธ์เรื่องเต่าปูลูหายาก และขอให้ชาวบ้านช่วยกันดูแล ซึ่งปีที่แล้ว ชาวบ้านเคยเจอเต่านอกเขตอุทยานฯ ระยะ
ด้านนายกรัณย์พล แสงทอง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดูแลและติดตามอาการของคำแก้ว อย่างใกล้ชิด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เต่าปูลูตัวนี้ มีความแข็งแรงพอที่จะสามารถปล่อยกลับคืนสู่ถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย
สำหรับเต่าปูลู ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่พบได้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย การช่วยเหลือ และฟื้นฟูครั้งนี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการอนุรักษ์และปกป้องสัตว์ป่าของประเทศไทย
อ่านข่าว
ดรามา! "พลายสุ" ปมอารักขาไม่เหมาะสม
ช่วย "เต่าปูลู" สัตวป่าหายาก บาดเจ็บ ที่น้ำตกแม่เกิ๋งหลวง จ.แพร่