- ศาล ปค.สูงสุดเผยผลชี้ขาด "บิ๊กโจ๊ก" ปมออกราชการรอคำพิพากษา
- อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง "แม่บ้านมีหนวด" เสียชีวิตด้วยวัย 34 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนว่า เป็นคำสั่งที่ "ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" หลังจากได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่ง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) แล้วคณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร. มีมติยกคำร้องอุทธรณ์ โดยเป็นการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด ตามสิทธิทางกฎหมาย
อ่านข่าว : "บิ๊กต่าย" ลงนามคำสั่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการไว้ก่อน
คณะอนุกรรมการศาลปกครองสูงสุด มีความเห็นว่า คำสั่งดังกล่าว "ไม่ชอบด้วยกฎหมาย" เห็นควรเยียวยาตามคำร้องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ผู้ร้อง ซึ่งได้ระบุ ให้เยียวยาด้วยการกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งเดิม คาดว่า คณะอนุกรรมการศาลปกครองจะนำเรื่องเข้าสู่ วาระการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ ของคณะกรรมการศาลปกครองสูงสุด ในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.2567) เพื่อร่วมพิจารณามีความเห็นตามขั้นตอน
รอคำพิพากษาคดี "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการ
ล่าสุด วันนี้ (13 พ.ย.2567) เมื่อเวลา 15.50 น.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลปกครอง นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีการนำประเด็นข้อกฎหมายในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ที่พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.), นายกรัฐมนตรี
ต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2567 ว่า ร่วมกันให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เข้าสู่การพิจารณา โดยมีตุลาการศาลปกครองสูงสุดเข้าร่วมพิจารณาอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางสื่อมวลชนที่เดินทางมาติดตามการพิจารณาเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในการพิจารณาประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าว องค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดเจ้าของสำนวนได้สรุปสำนวนคดีและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รายงานต่อที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด โดยในที่ประชุมได้มีการเปิดให้ตุลาการศาลปกครองสูงสุดแต่ละคนได้การอภิปรายแสดงความคิดเห็นก่อนที่จะมีการลงมติชี้ขาด ให้องค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดเจ้าของสำนวนเขียนคำพิพากษาต่อไป
นอกจากนี้ ภายหลังการประชุมที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่เข้าร่วมการประชุม ส่วนใหญ่ต่างปฏิเสธที่จะเปิดเผยผลการประชุม โดยให้เหตุผลว่า ผลการประชุมเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ ต้องรอให้องค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดเจ้าของสำนวน ดำเนินการออกเป็นคำสั่ง หรือคำพิพากษาต่อคู่กรณีที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งล่าสุด องค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดเจ้าของสำนวนยังไม่ได้นัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก และสั่งนัดอ่านคำพิพากษาในคดีนี้
โดยตลอดทั้งวันนี้มีรายงานข่าวออกมาทั้ง 2 ทาง โดยทางหนึ่งมีกระแสข่าวว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งคุ้มครองฯ และบางรายงานข่าวก็ระบุว่า ศาลปกครองสูงสุด มีมติยกคำร้องของพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ซึ่งทำให้เกิดความสับสนว่าผลการพิจารณาคดีดังกล่าวเป็นอย่างไร
อ่านข่าว : ศาล ปค.สูงสุดเผยผลชี้ขาด "บิ๊กโจ๊ก" ปมออกราชการรอคำพิพากษา
วันเดียวกันมีรายงานว่า สำนักงานศาลปกครองได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการตรวจสอบสื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่มีการนำเสนอข่าวคดีดังกล่าวเป็นการหมิ่นและละเมิดอำนาจศาล เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ฟ้องว่า ขณะที่ดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2567 ให้ตนเองออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน กรณีมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ชื่อ BNKMASTER จนถูกดำเนินคดีอาญาและถูกศาลอาญาออกหมายจับ ในความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตนเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาได้ยื่นอุทธรณ์ ต่อก.พ.ค.ตร. ต่อมาก.พ.ค.ตร. ได้มีคำวินิจฉัยยกอุทธรณ์และยกคำขอวิธีการชั่วคราวฯ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน เสียหาย
อ่านข่าว : "บิ๊กโจ๊ก" ชี้แจง ก.พ.ค.ตร.ปมอุทธรณ์คำสั่งให้ออก
“บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่าย” ชี้แจง ก.พ.ค.ตร.ครั้งสุดท้าย 30 ก.ค.ปมอุทธรณ์คำสั่งให้ออก