วันนี้ (15 พ.ย.2567) เทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ หลายจังหวัดจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะงานเทศกาลยี่เป็ง หรือลอยกระทงที่ จ.เชียงใหม่ เริ่มคึกคัก บริ เวณถนนท่าแพ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศ เดินทางมาเที่ยวงานประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงคึกคัก
โดยชมความงามของโคมแขวน บางส่วนเเต่งกายในชุดไทย รวมถึงการบันทึกภาพกับซุ้มไฟ 12 นักษัตรบนถนนท่าแพอย่าง เช่น กลุ่มชาวบ้าน อาชีพปั่นรถจักรยานสามล้อรับจ้างในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่เหลือไม่ถึง 30 คน เป็นอีกหนึ่งธุรกิจบริการ ที่มีรายได้ดีขึ้น
สามล้อถีบงานชุก พานักท่องเที่ยวแอ่วเมือง
ในช่วงลอยกระทงนี้ ตลอดทั้งวัน มีนักท่องเที่ยวทยอยมาใช้บริการนั่งสามล้อชมเมือง และจุดท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ตลาดวโรส ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และวัดสำคัญ อัตราค่าจ้างคิดตามระยะทาง เริ่มต้นที่ 250-500 บาท
เหนื่อยครับ คนเยอะลูกค้าเยอะ วันก่อนได้นักท่องเที่ยว 7 เที่ยว และวันนี้ 8 เที่ยวและยังค้างอีก 4 เที่ยว ไม่สู้ก็ต้องสู้
สาคร จันทามณี คนปั่นสามล้อรับจ้าง จ.เชียงใหม่
สาคร จันทามณี คนปั่นสามล้อรับจ้าง จ.เชียงใหม่ บอกว่า แม้จะเป็นงานหนัก เพราะหลายคนเป็นผู้สูงวัย ต้องใช้กำลังขา ปั่นจักรยานโดยไม่มีเครื่องทุ่นแรง แต่ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข
สอดคล้องกับข้อมูลของท่าอากาศยาน จ.เชียงใหม่ ระบุว่า เดือนพ.ย.มีแนวโน้มนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.-ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ละวันมีเที่ยวบินเข้า-ออกเชียงใหม่กว่า 192 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 60 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 132 เที่ยวบิน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเฉลี่ยวันละกว่า 30,000 คน
และหากอ้างอิงจากการจองบริการทางด้านการท่องเที่ยวต่างๆ เช่นการจองโรงแรม ห้องพัก ไกด์ทัวร์ รวมถึง package การท่องเที่ยวต่างๆ พบว่ามีการจองยาวไปจนถึงช่วงสิ้นปี คาบเกี่ยวไปจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2568
สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ คาดการณ์ช่วงเทศกาลลอยกระทง จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพื้นที่เชียงใหม่กว่าวันละ 50,000 คน โดยคาดว่าจะมีอัตราเข้าพักกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนห้องพักที่มีอยู่ 60,000 ห้อง
พัลลภ เเซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด ระบุว่า มีชาวต่างชาติที่หนีหนาวมาเที่ยวไทย ทั้งจากโซนยุโรป และซีกโลกเหนือ และชาวเกาหลีที่นิยมมาตีกอล์ฟที่นี่
พัลลภ เเซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด
สำหรับปีนี้เชียงใหม่ ได้บังคับใช้กฎหมาย ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงห้ามขายและปล่อยโคมลอย ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยเด็ดขาดฝ่าฝืนจะถูกจับดำเนินคดีทันที เพื่อป้องกันอันตรายกับอากาศยาน
รวมถึงป้องกันการเกิดไฟไหม้ ซึ่งเทศบาลนนครเชียงใหม่ มีการเตรียมความพร้อม ทั้งจุดบัญชาการของกองบรรเทาเเละป้องกันสาธารณภัย รวมถึงการจัดเตรียมรถดับเพลิง 2 จุด ในบริเวณสะพานนวรัตน์ เเละในบริเวณโรงพยาบาลเทศบาลนครเชียงใหม่
ขอนแก่น จัดงานใช้ชื่อว่า
"สีฐาน เฟสติวัล บุญสมมาบูชานาค"
ส่วน จ.ขอนแก่น มีการจัดงานใช้ชื่อว่า "สีฐาน เฟสติวัล บุญสมมาบูชานาค" โดยปีนี้ ยังคงจัดงาน 3 วันเช่นเดิม ซึ่งวันนี้วันลอยกระทงเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานแล้ว ทางทีมผู้จัดงานคาดการณ์ว่า จะมีชาวขอนแก่น และนักท่องเที่ยวจากต่างพื้นที่ มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ธงทิว โคมเพ้นมือ ที่ประดับตกแต่งบริเวณถนนสีฐานภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ให้เข้ามาถ่ายรูป บันทึกภาพกันตั้งแต่ช่วงเวลากลางวัน
รศ.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า ปีนี้งานสีฐานเฟสติวัล บุญสมมาบูชานาค ได้จัดขึ้นภายในธีม "วิถีอีสาน สีฐานมูเตลู" สร้างสรรค์ความเชื่อ ความศรัทธาในวิถีคงาม้ความเชื่อ มาประดิษฐ์สร้างศิลปะ ที่สร้างมูลค่าทางวัฒนธรรม
ธีมแต่ละปีจะแตกต่างกัน กระแสจากงานวิจัย ฟิล์มาแรงมาก วงการเรื่องมูเตลู และความเชื่อของภาคอีสานจึงนำมาสู่การสร้างธีมปีนี้
ศ.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
นอกจากขบวนแห่แต่ละวัน แล้วภายในงานยังมีการแสดงจากวงหมอลำชั้นนำของเมืองไทย การแสดงหมอลำกลอน หนังประโมทัย การแสดนาฎกรรมสีฐาน "สีฐานนฤมิตร" หรือที่เรียกว่าโขนสยามปะทะโขนอีสาน ควบคู่กับการเปิดพื้นที่ครีเอทีฟให้กับนักศึกษา เด็กและเยาวชนมาแสดงออกผลงานทางศิลปะและการแสดงที่สร้างสรรค์
ส่วนการดูแลด้านความปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น ได้ติดตั้งป้ายเตือน 4 ห้ามความปลอดภัยลอยกระทง บริเวณริมท่าน้ำบึงสีฐาน ภายในงาน สีฐานเฟสติวัล ประจำปี 2567 มหาวิทยาลัยขอนแกน (มข.) ซึ่งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้จัดทำขึ้นเพื่อแจ้งเตือนและแนะนำข้อควรระวังให้กับนักท่องเที่ยวซึ่งคาดว่าวันนี้ นักท่องเที่ยวจะมากว่าทุกวัน
"ลพบุรี" จัดงานลอยกระทงย้อนยุค
ขบวนช้างม้าและรถแห่ประวัติศาสตร์ 4 ภาคจากโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองลพบุรี กว่า 1,500 คน สร้างความประทับใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปร่วมงานเทศกาลลอยกระทงของ จ.ลพบุรี จัดขึ้นที่บริเวณวงเวียนศรีสุริโยทัย หรือวงเวียนสระแก้ว ภายในแนวคิดลอยกระทงย้อนยุค
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมหลากหลาย อาทิ การแสดงดนตรีรำวงย้อนยุค การแข่งขันชกมวยไทย และมหรสพลิเก การขอขมาพระแม่คงคา เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดลพบุรี โดยมีนายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่แต่งกายด้วยชุดไทยเข้าร่วมในพิธี
นร.ทำ "กระทง" ขายนำเงินบูรณะวัดสุพรรณบุรี
ส่วนที่ อ.ศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ครูและนักเรียนวัดพังม่วง รวมทั้งชาวบ้าน ร่วมกันทำกระทงขายนำเงินที่ได้ไปทำบุญบรูณะวัดพังม่วง โดยรูปแบบการทำกระทง เป็นกระทงจากใบตอง วัสดุที่ย่อยสลายง่าย
โดยวัดพังม่วงคิดไอเดียทำรางน้ำสไลด์ ให้ประชาชนที่มาเที่ยวเทศกาลลอยกระทง นำกระทงมาปล่อยสู่แม่น้ำท่าจีน
ขณะที่บรรยากาศการลอยกระทงที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีกิจกรรมแต่งกายย้อนยุค และพื้นที่โบราณสถาน พร้อมขอความร่วมมือผู้ค้า งดจำหน่าย ประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ เพื่อความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทง
คุมเข้ม ห้ามขายพลุ-ดอกไม้ไฟ
แม่ค้าในเขตเทศบาลเมืองพระนครศรีอยุธยา นำกระทงมาวางขายริมถนน อย่างกระทงใบตอง ราคาเริ่มตั้งแต่ 80 บาทขึ้นไป ส่วนเทศบาลนค พระนครศรีอยุธยา จัดงานลอยกระทงกรุงเก่า 4 มุมเมือง ในพื้นที่โบราณสถานและริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมขอความร่วมมือผู้ค้า งดจำหน่าย ประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ เพื่อความปลอดภัย
ขณะที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงวันลอยกระทง พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.7 ยังคงวางแผนไปลอยกระทงและทำกิจกรรมอื่นร่วมด้วย เช่น ทานอาหารนอกบ้าน เที่ยวชมสถานที่จัดงาน ไปซื้อของหรือทำบุญ โดยกระทงที่ซื้อส่วนใหญ่เน้น "ย่อยสลายง่าย"
คาดว่า จะมีมูลค่าการใช้จ่ายสูงถึง 10,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 จากปีก่อน คิดเป็นมูลค่าสูงสุดรอบ 9 ปีนับจากปี 59 ที่มีมูลค่า 9,639 ล้านบาท
สำหรับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 2,449 บาท จากปี 2566 ที่ 2,075 บาท ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมองว่า แม้เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้น แต่ยังไม่โดดเด่น