จากกรณีพบศพนางวรรณา อายุ 67 ปี แม่ยายของอัยการ ถูกฆ่าตัดนิ้วมือ ทิ้งศพในสวนปาล์ม ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง หลังหายไปจากบ้านขณะไปทำบุญงานกฐิน ที่สำนักสงฆ์ปฎิบัติเขาพลอย นอกจากนี้ยังพบว่าสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท สร้อยข้อมือ 2 บาท แหวนเพชร 2 วง ต่างหูทองคำ 1 คู่ และต่างหูทองคำฝังเพชร 1 คู่ พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องหายไป ต่อมาตำรวจคุมตัวนางกมลวรรณ อายุ 57 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต และเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ก่อนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
วันนี้ (18 พ.ย.2567) ตำรวจเตรียมคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง หลังเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์
เวลา 10.00 น. บรรยากาศที่หน้า สภ.วังจันทร์ หลังผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าก่อเหตุเพียงลำพังโดยลวงมาหาพี่ชาย แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้ได้ฉุดกระชากนางวรรณาลงรถ และใช้ท่อนเหล็กทำร้าย
นางกมลวรรณ ผู้ต้องหา ให้การว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์ไปหานางวรรณา หลังจากกลับมาวัดที่ไปทอดกฐิน ชวนไปหาพี่ชายตนเองที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง โดยขับรถไปรับที่บ้านผู้เสียชีวิต เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุช่วง 16.00 น. นางกมลวรรณลงจากรถมาก่อน และเรียกนางวรรณา ให้ลงมาจากรถคุยกัน แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมลงบอกว่าจะมืดและต้องกลับบ้านแล้ว จึงได้ฉุดกระชากลงมา และใช้ท่อนเหล็กทำร้าย ก่อนปลดสร้อยทองคอ สร้อยมือ ต่างหู และแหวน
จากนั้นได้ขับรถออกไป และทิ้งโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตในคลอง จากนั้นนำสร้อยทอง แหวน ต่างหู ไปขายที่ร้านทองในตลาดบ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ระยอง ได้เงินมา 80,000 บาท โดยนำเงินไปใช้หนี้พนันจนหมด จากนั้นขับรถกลับไปบ้าน
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 พ.ย.2567 พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนางกมลวรรณ ผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว โดยให้การอ้างว่าได้พานางวรรณามาที่จุดเกิดเหตุ ก่อนทำร้ายจนเสียชีวิต โดยก่อเหตุเพียงลำพัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพบเส้นผมของผู้ต้องหาเข้าไปติดอยู่ในเล็บมือของผู้เสียชีวิต คาดว่าเป็นช่วงที่การขัดขืนและต่อสู้กัน
อ่านข่าว : รวบเพื่อนสนิท "ฆ่าแม่ยายอัยการ" ตัดนิ้วชิงทรัพย์