ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดพฤติการณ์ "หมอบุญ" ผู้ต้องหาหลอกลงทุน 5 โครงการ เสียหาย 7.5 พันล้าน

อาชญากรรม
23 พ.ย. 67
12:21
223
Logo Thai PBS
เปิดพฤติการณ์ "หมอบุญ" ผู้ต้องหาหลอกลงทุน 5 โครงการ เสียหาย 7.5 พันล้าน
เปิดไทม์ไลน์-พฤติการณ์ "หมอบุญ" ผู้ต้องหาหลอกระดมทุน ขายฝันปั้น 5 โครงการใหญ่-ผลตอบแทนสูง สุดท้ายไม่มีจริง ผู้เสียหายนับร้อยสูญรวม 7,500 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไปต่างประเทศ ล่าสุดตำรวจออกหมายแดงเร่งตามตัว

ความคืบหน้ากรณี นพ.บุญ วนาสินอายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี พร้อมภรรยา ลูกสาว และพวกรวม 9 คน ถูกออกหมายจับในความผิดฐานฉ้อโกง-ฟอกเงิน

วันนี้ (23 พ.ย.2567) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แถลงรายละเอียดและการดำเนินคดี ว่า เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.2566 มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 

ต่อมาในปี 2567 ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมช่วงเดือน พ.ค. 6 คดี, เดือน มิ.ย. 8 คดี และเดือน ก.ค. 49 คดี ซึ่งคดีเริ่มซับซ้อน ยุ่งยาก และมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้น โดยช่วงเดือน ส.ค. มีจำนวน 75 คดี, เดือน ก.ย. 84 คดี, เดือน ต.ค. 60 คดี และเดือน พ.ย. 66 คดี รวม 520 คดี เสียหายรวม 7,500 ล้านบาท

พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ เบื้องต้นเป็นเรื่อง พ.ร.บ.เช็ค พบพฤติการณ์มีโบรกเกอร์ติดต่อให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนกับ นพ.บุญ และพวก อ้างว่าจะระดมทุนลงทุนธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการ ได้แก่

  • โครงการสร้างศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบประมาณลงทุน 4,000 ล้านบาท
  • โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างที่พักอาคารสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงอายุ 400 ห้อง งบประมาณลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท
  • โครงการโรงพยาบาลในลาว 3 แห่ง แบ่งเป็นเวียงจันทน์ 2 แห่ง จำปาสัก 1 แห่ง
  • โครงการเข้าร่วมทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม งบประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท
  • โครงการสร้าง Medical intelligence ทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ อ้างว่าในปี 2566 จะได้รับกำไร 700 ล้านบาท, ปี 2567 จะได้รับกำไร 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ช่วงวันที่ 2-4 พ.ย.2566 นพ.บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการออกสื่อ ทั้งลงเว็บไซต์และให้สัมภาษณ์ รวมถึงให้โบรกเกอร์แจ้งระดมทุนผ่านบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

กลุ่มผู้ต้องหา อ้างว่าการระดมทุนนี้จะให้ค่าตอบแทนมากกว่าสถาบันการเงิน ทำให้มีผู้หลงเชื่อและร่วมลงทุน โดยทำสัญญากู้ยืมเงินและให้ดอกเบี้ย ด้วยการสั่งจ่ายเช็คให้ผู้เสียหาย เพื่อชำระหนี้เงินกู้ รวมทั้งจ่ายเช็คล่วงหน้าเป็นค่าดอกเบี้ย ลงชื่อโดย นพ.บุญ ส่วนด้านหลังเช็คลงลายมือชื่อภรรยาและลูก เป็นผู้ค้ำประกัน

ในช่วงแรกพบว่ามีการชำระดอกเบี้ยให้ผู้เสียหายบางส่วน แต่ต่อมาไม่มีการจ่ายเงิน ไม่คืนเงินต้น และเช็คเด้ง กระทั่งวันที่ 29 ก.ย.2567 เวลา 14.25 น. นพ.บุญ ได้เดินทางออกไปต่างประเทศ เส้นทางกรุงเทพฯ-ฮ่องกง พฤติการณ์เข้าข่ายหลบหนี

การตรวจสอบทั้งหมด โครงการที่เขากล่าวอ้างถึง ไม่มีอยู่จริง ภายหลังผู้เสียหายติดตามทวงเงินต้นและดอกเบี้ย ปรากฏว่าถูกเบียดบังไปทั้งหมด

รอง ผบช.น. กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้ทำหนังสือมาถึง บช.น. ซึ่งพบว่าไม่ใช่เพียงความผิด พ.ร.บ.เช็ค แต่พฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน จึงมอบหมายให้ตนเอง และ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น.ตั้งพนักงานสอบสวนมาสืบสวนเรื่องนี้ตั้งแต่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พบว่า นพ.บุญ เป็นตัวการในการออกโครงการ คิดเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน ร่างสัญญา ลงลายมือจ่ายเช็ค และได้รับประโยชน์, ภรรยาและลูก เป็นผู้ร่วมทำสัญญาเงินกู้ และค้ำประกัน, เลขาฯ 2 คน เป็นผู้ทำเอกสารสัญญา เชื่อว่าได้รับผลประโยชน์ด้วย, โบรกเกอร์ ชักชวนการลงทุน และได้รับส่วนแบ่ง

พฤติการณ์ยังพบว่า เมื่อผู้เสียหายให้เงินโดยจ่ายเช็คให้กลุ่มผู้ต้องหา จะมีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคาร และให้เลขาฯ ของ นพ.บุญ เบิกเงินสดออกมาทั้งหมด โดยมีผู้เสียหายมีทั้งนักธุรกิจและบุคลากรทางการแพทย์ บางคนลงทุนสูงถึง 400-600 ล้านบาท 

สำหรับ นพ.บุญ กระทำความผิด 5 ข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาเช็คเด้ง หรือออกเช็คแล้วขึ้นกับธนาคารไม่ได้

ส่วนอีก 8 คน ถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

ล่าสุดตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาแล้ว 6 คน ส่วน นพ.บุญ เชื่อว่าอยู่ในต่างประเทศ และฃอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมภรรยาและลูกของ นพ.บุญ รวมทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์สิน โฉนดต่าง ๆ ว่ามีการยักย้ายถ่ายเทหรือไม่ ส่วนตรวจค้นบ้านพัก ไม่พบรถยนต์ 19 คันในชื่อครอบครองของ นพ.บุญ โดยจะติดตามว่านำไปซุกซ่อนที่ใด อีกทั้งอยู่ระหว่างตรวจสอบที่ดิน 21 แปลง ว่าเป็นที่ดินที่ได้มาหลังปี 2566 หรือไม่ ซึ่งเป็นช่วงชักชวนระดมทุน

รอง ผบช.น. กล่าวว่า คดีนี้มีความยุ่งยากซับซ้อน มีผู้เสียหายจำนวนมากในหลายพื้นที่และต่างภูมิลำเนา เข้าเงื่อนไขว่าคดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจการสอบสวนของกองบัญชาการสอบสวนกลาง และความผิดเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนยื่นให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ได้ออกหมายแดงประสานติดตามจับกุม นพ.บุญ เบื้องต้นทราบว่าได้เดินทางจากฮ่องกงไปจีน และอยู่ระหว่างขยายผลเส้นทางการเงิน รวมทั้งตรวจสอบย้อนหลังโครงการอื่น ๆ เชื่อว่าไม่ได้มีเพียง 5 โครงการนี้

แผนประทุษกรรมเขาชัดเจนว่าจะให้เข้า พ.ร.บ.เช็ค แต่พบว่าโครงการไม่มีอยู่จริง ไม่มีการลงทุนจริง ถือว่าปกปิดข้อเท็จจริง เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน

ส่วนกรณีหญิงคนหนึ่งที่ได้เปลี่ยนนามสกุล อ้างว่าถูกปลอมลายมือชื่อในการทำเอกสารนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบว่ามีส่วนในการกระทำความผิดจะขอออกหมายจับด้วย

อ่านข่าว : ออกหมายจับ "หมอบุญ" ภรรยา-ลูก-พวกรวม 9 คน "ฉ้อโกง-ฟอกเงิน"

เส้นทาง "หมอบุญ" จากบุคลากรวงการแพทย์สู่ข้อกล่าวหาฉ้อโกง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง