วันนี้ (26 พ.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 2 จับ น.ส.กุลณัฐ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ในคดีฐานเปิดหรือยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่เกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใดและเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน " โดยติดตามจับ ได้ที่หน้าตลาดศาลายา อ.ศาลายา จ.นครปฐม
ตำรวจ ระบุ พฤติการณ์ทางคดีใน ก.พ.2567 มีผู้เสียหาย เห็นประกาศรับสมัครงานผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เป็นงานกรอกข้อมูลทางออนไลน์ ผู้เสียหายได้สมัครงานกับเพจดังกล่าว และมีกลุ่มไลน์ที่ใช้สื่อสารแจกงาน แต่มีเงื่อนไขต้องโอนเงินก่อนทำงาน เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่ทิ้งงาน ผู้เสียหายหลงเชื่อเพราะในกลุ่มมีสมาชิกคนอื่น ๆ อยู่ด้วย
จากนั้นก็ถูกหลอกให้โอนเงินเพิ่มอ้างทำภารกิจ กระทั่งสูญเงินรวม 130,000 บ.จึงเชื่อว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกมาตั้งต้น ทั้งเพจรับสมัครงาน และสมาชิกในกลุ่มไลน์บางคนก็เป็นหน้าม้า หลังแจ้งความตำรวจสืบสวนจนพบ ชื่อบัญชีรับโอนเงิน กระทั่งออกหมายจับ
จากการสอบสวน น.ส.กุลณัฐ ให้การรับสารภาพว่า ต้นปี 2567 เห็นประกาศรับซื้อบัญชีธนาคาร ซิมการ์ดลงทะเบียน ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ในราคาบัญชีละ 10,000 บ.จึงตกลงเปิดบัญชีโดยที่รู้ว่า คือการเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ
ตำรวจ ย้ำเตือนว่า การเปิดบัญชีธนาคารเพื่อนำไปขายให้กับผู้อื่นนำใช้งาน หรือ บัญชีม้า มีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าว : ชงเร่งแก้ กม.นำเงินจากบัญชีม้า 1,400 ล้านบาทเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย
"บัญชีม้า" เจอจับแล้ว 2,897 คนเตือนโทษคุก 3 ปี
จับบัญชีม้าแก๊งคอลเซนเตอร์หลอก "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" สูญ 3 ล้าน