วันนี้ (1 ธ.ค.2567) จากกรณีกลุ่มเรือประมงไทยถูกเรือรบเมียนมา ยิงเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา จำนวน 3 ลำ คือ เรือดวงทวีผล 333 เรือมหาลาภธนวัฒน์4 และเรือ ส เจริญชัย 8 ที่ถูกเรือรบเมียนมาไล่จับกุม ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คนเสียชีวิต 1 คน และถูกควบคุมตัว 31 คนพร้อมเรืออีก 1 ลำ เบื้องต้นเกิดจากเรือประมงรุกล้ำเข้าไปทำประมงในน่านน้ำเมียนนมา
กระทรวงกลาโหมไทยดำเนินตรวจสอบว่า เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ และเตรียมประท้วงประเทศเมียนมาทุกช่องทาง และจะเร่งประสานงานขอ 31 ลูกเรือกลับไทยภายใน 1-2 วัน เรือตรวจการณ์ ต.274 นำลูกเรือประมงที่ได้รับบาดเจ็บ 2 คน กลับขึ้นฝั่ง จ.ระนอง
หลังศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 หรือ ศรชล.ภาค 3 จังหวัดระนอง รับแจ้งเหตุ เรือตรวจการณ์เมียนมาติดอาวุธแล่นเข้าหากลุ่มเรือประมงไทย 3 ลำ ขณะวางอวนล้อมจับปลาในเขตน่านน้ำไทย ห่างจากเกาะพยามไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 ไมล์ โดยได้ยิงเรือประมงไทยและเข้าควบคุม
น.อ.ชำนาญ นบนอบ ผอ.ศปชล.ทม. เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงคืนวันที่ 29 พ.ย. รอยต่อเข้าวันที่ 30 พ.ย.2567 มีกลุ่มเรือประมงไทยถูกยิงจำนวน 3 ลำ แจ้งออกมาจากอ.คุระบุรี จ.พังงา ประกอบด้วย เรือดวงทวีผล 333 เรือมหาลาภธนวัฒน์4 และเรือ ส เจริญชัย 8
โดยเรือดวงทวีผล 333 ถูกยิงและลูกเรือกระโดดน้ำหนี ทำให้ลูกเรือสูญหายไปจำนวน 3 คน เป็นคนไทย 1 คน ชาวเมียนมา 2 คน
ต่อมา พบลูกเรือทั้งหมด แต่เสียชีวิต 1 คนคือ นายวรากร จูศิริพงษ์กุล อายุ 24 ปี ทำหน้าที่ช่างเครื่องเรือ ขณะนี้เรือดวงทวีผล 333 ถูกเรือประมงอีกลำลากเพื่อไปเข้าฝั่งที่อำเภอคุระบุรี ส่วนเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ลูกเรือได้รับบาดเจ็บ 2 คน เรือ ต.274 นำเข้าฝั่ง และเรือได้เดินทางกลับ อ.คุระบุรี จ.พังงา
ทัพเรือภาค 3 ได้สั่งการให้ เรือ ต.274 และเรือ ต.993 ทำการลาดตระเวนในน่านน้ำไทย ด้าน จ.ระนอง และประชาสัมพันธ์ ไม่ให้เรือทุกลำ เข้าไปใกล้แนวชายแดน ที่อยู่ติดกับน่านน้ำเมียนมา โดยทำการพูดคุยกับไต๋เรือไทยทุกลำว่าสามารถแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย ภัยทางทะเล ที่หมายเลข 1465 แจ้ง ศรชล.ภาค 3
พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 ยืนยันกับสำนักข่าวบีบีซี ว่า เรือประมงไทย ที่เมียนมาถูกยึดไปมี 1 ลำคือ เรือ ส.เจริญชัย 8 จากการตรวจสอบระบบ Sea Vision พบว่า เรือไทยล้ำเข้าน่านน้ำเมียนมา ไปประมาณ 3 ไมล์ทะเล และทางการเมียนมาออกมากวดขัน ป้องกันและป้องปราม
โดยจุดเกิดเหตุห่างจากเกาะพยามด้านทิศตะวันตกประมาณ 5 ไมล์ทะเล ขณะที่เกาะพยามกับเกาะย่านเชือกห่างกันไม่ถึง 8 ไมล์ทะเล เป็นพื้นที่เส้นเขตแดนของ 2 ประเทศ เรียกว่า “พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนกัน” ชาวประมงไทยอาจคิดว่ายังอยู่ในพื้นที่ไทย
จากการประสานงาน กับผู้บัญชาการสถานีเรือ 58 เกาะย่านเชือก ของเมียนมา ได้รับแจ้งว่า “จะส่งมอบเรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุมเข้าสู่ประเทศไทยในอีก 2-3 วันข้างหน้า โดยตามกระบวนการจะทำการประท้วงตามช่องทางการทูตต่อไป
พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ระบุว่า ต้องตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และสอบถามไปทางเมียนมา ถึงสาเหตุการจับลูกเรือประมงทั้ง 31 คน โดยกองทัพเรือ จะตรวจสอบกรณีการใช้อาวุธ และอำนาจหน้าที่ของทางเมียนมาว่า เกินขอบเขตหรือไม่ หากพบว่า เมียนมาใช้อำนาจเกินขอบเขต ก็จะตอบโต้อย่างชัดเจนต่อไป
เช่นเดียวกับ พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า การกระทำของเรือรบเมียนมาจะต้องมีการประท้วง ตามช่องทางของกระทรวงต่างประเทศ รวมถึงคณะกรรมการชายแดนหรือTBC ว่าได้กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ และเท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้น เรือรบเมียนมา ยิงเข้าไปที่ตัวเรือประมงไทย ไม่ใช่จุดที่เป็นที่อยู่ของลูกเรือ ซึ่งกรณีผู้เสียชีวิต เกิดจากการกระโดดน้ำและจมน้ำเสียชีวิต แต่เรื่องนี้ทางการไทยไม่ยอม จะประท้วง ตามช่องทางที่ทำได้
ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างคณะกรรมการทีบีซี ประชุมหารือกัน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มออกเรือ 15 ลำ ไปจนถึงจุดที่เกิดเหตุการณ์ มีข้อมูลอะไรบ้าง
พร้อมทั้งตรวจสอบว่า จุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใด และจุดที่เมียนมายิงเข้ามาเป็นอย่างไรบ้าง และปัจจุบันนี้ ทางทีบีซี ได้ทำหนังสือประท้วงไปยังเมียนมาที่เกาะสอง ฐานกองทัพเรือเมียนมาเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกและรมว.กลาโหม สั่งประสานเมียนมา ส่ง4ลูกเรือไทยกลับมาวันนี้ "ทีบีซี" ส่งหนังสือประท้วงฐานทัพเรือเมียนมาเกาะสอง ปมยิงเรือประมงไทย พร้อมเร่งขอตัวคนไทย 4 กลับ ส่วนแรงงานพม่า 27 คน รอตรวจสอบการทำงานในไทยถูกกฎหมายหรือไม่ พร้อมให้การช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ได้ให้กองทัพเรือประสานเจรจากับกองทัพเรือเมียนมา พร้อมทั้งให้ รมว.ต่างประเทศ กำชับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ประสานกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา โดยด่วน อีกทางหนึ่ง ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ได้ดำเนินการแล้ว
นายวิโรจน์ ลักขณอดิศร ในฐานประธานกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า กรรมาธิการทหารจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือชาวประมงไทยอย่างเต็มที่ ทราบเบื้องต้นว่าจุดเกิดเหตุนั้นอยู่ในน่านน้ำไทย ห่างจากเกาะพยาม 5 ไมล์ทะเล คงต้องถามให้ถึงที่สุดว่า เหตุใดเรือรบเมียนมาถึงมายิงเรือประมงไทยในน่านน้ำไทย และจะรับผิดชอบต่อกรณีนี้อย่างไร โดยต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เพราะต่อให้ล้ำจริง การยิงเรือประมง ถ้าเป็นการทำประมงจริงๆ ก็อาจถือว่าเกินกว่าเหตุ
อ่านข่าว:
ผบ.ทร.พร้อมตอบโต้หากเมียนมาใช้อำนาจเกินขอบเขตยิงเรือไทย
ผบ.ทร.สั่งเจรจาเมียนมา หลังเรือรบยิงเรือประมงไทย-จับลูกเรือกว่า 30 คน