วันนี้ (7 ธ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการรื้อถอนโครงสร้างเหล็กและชิ้นส่วนสะพานคอนกรีตที่เสียหายจากเหตุการณ์ถล่มบนถนนพระราม 2 ว่า ทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญ ขึ้นกระเช้าสำรวจความพร้อมการรื้อถอนโครงสร้างเหล็กสีน้ำเงิน หรือ Truss ที่พังถล่มลงมา พร้อมใช้สลิงเครนตรึงและประคองไว้เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ โดยมีการประเมินว่าแผนการรื้อถอนโครงสร้างเหล็กจะเริ่มขึ้นในวันนี้ (7 ธ.ค.) แต่จะรื้อโครงสร้างเหล็กจากส่วนใดก่อนนั้นยังอยู่ระหว่างการประเมิน
สำหรับโครงสร้างเหล็ก Truss ที่ถล่มลงมา เบื้องต้นจะใช้เครื่องตัดเหล็กแบ่งเป็น 3 ส่วน ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเนื่องจากเดิม Segment หรือชิ้นส่วนคอนกรีตที่เอนอยู่บริเวณเสาตอม่อ ถูกเหล็ก Truss กดทับไว้ ทำให้ไม่ร่วงลงมา แม้จะมีลักษณะเอนผิดรูป ซึ่งทีมวิศวกรมองว่าเป็นจุดเสี่ยงในการรื้อโครงสร้างเหล็กและชิ้นส่วนสะพาน
หากสามารถรื้อเหล็ก Truss ได้ ขั้นตอนต่อไปคือการนำ Segment ออกจากพื้นที่ แต่ด้วยน้ำหนักกว่า 100 ตัน ทุกขั้นตอนการเคลื่อนย้ายต้องรอบคอบและคำนึงถึงความปลอดภัย
ตัดชุด Winch แล้ว เตรียมรื้อถอนโครงเหล็ก Truss
ขณะที่นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ทีมวิศวกรได้ดำเนินการตัดชุด Winch ที่ติดกับโครงสร้างเหล็กเรียบร้อยแล้ว โดยดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ได้แก่ ตัดย่อยอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Winch เช่น บันไดขึ้น-ลง, สลิง, แกะตู้ Control ออกจาก Winch ลงด้านล่าง, ตัดตะแกรงกันตกชิ้นแรก
รวมถึงยกชุดรอก Winch ลงมาจากโครงเหล็ก, นำโครงเหล็กชุด Winch ออกจากพื้นที่ และตัดลวดสลิงที่กีดขวางโครงสร้างเหล็ก Truss ออก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรื้อถอนโครงสร้างเหล็ก Truss ที่ได้รับความเสียหายในวันนี้ (7 ธ.ค.) โดยเริ่มจากด้านหลังและยกลงมาด้านล่าง
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. นายอรรถสิทธิ์ ศิริสนธิ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมโครงสร้างและสะพาน วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมก่อนการรื้อย้าย Launching Gantry (LG)
อธิบดีกรมทางหลวง ยังกล่าวถึงการจราจรของประชาชนว่า ได้เปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวก และขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง แต่หากมีความจำเป็นต้องสัญจรให้เผื่อเวลาในการเดินทาง โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร. 1586
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การจราจรบนถนนพระราม 2 ฝั่งขาออก ล่องใต้ ปริมาณรถเช้าวันนี้ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ช้าๆ ท้ายแถวสะสม 3 กิโลเมตร เนื่องจากมีการปิดจราจรในเส้นทางหลัก แต่สามารถใช้ช่องทางคู่ขนานได้ 1 ช่องทาง
พร้อมแนะนำให้เบี่ยงไปใช้ถนนเอกชัย และบริเวณช่วงกิโลเมตรที่ 21 ได้เปิดช่องทางพิเศษในช่องทางหลักของขาเข้าในรูปแบบเลนสวน ส่วนขาเข้ากรุงเทพมหานคร สามารถใช้ช่องทางขนานได้ 2 ช่องทาง มีรถสะสมปริมาณมาก เคลื่อนตัวได้ช้าๆ ท้ายแถวยาว 2 กิโลเมตร
อ่านข่าว
อยู่ระหว่างสอบสวน! กลาโหมเร่งเจรจาเมียนมาปล่อยตัวประมงไทย
ขยายผลจับเครือข่ายเว็บพนัน ต้นเหตุคดีฆ่าตัดนิ้วชิงแหวนเพชร
คืนชีพ "นอเทรอดาม" ฝรั่งเศสเตรียมพิธีเปิดยิ่งใหญ่ต้อนรับผู้นำโลก