ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"บาชาร์ อัล-อัสซาด" ลาออก ปธน.ซีเรีย ลี้ภัยในรัสเซีย

ต่างประเทศ
9 ธ.ค. 67
07:31
998
Logo Thai PBS
"บาชาร์ อัล-อัสซาด" ลาออก ปธน.ซีเรีย ลี้ภัยในรัสเซีย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ประธานาธิบดีซีเรียยื่นเรื่องขอลี้ภัยที่รัสเซีย หลังถูกกลุ่มกบฏโค่นอำนาจ นำมาซึ่งจุดจบของการปกครองซีเรียโดยตระกูลอัล-อัสซาด กว่า 50 ปี

การรุกคืบของกลุ่มกบฏซีเรียเริ่มขึ้นที่เมืองอเลปโป เมื่อปลายเดือน พ.ย.และผ่านมาได้ 10 วันก็ยึดกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นเมืองหลวงได้สำเร็จโดยไม่เผชิญการต่อต้าน จนทำให้ผู้นำรัฐบาลซีเรียต้องหลบหนีออกนอกประเทศ

ล่าสุดวันนี้ (9 ธ.ค.2567) กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า บาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำรัฐบาลซีเรียหลบหนี ลาออกจากตำแหน่งและออกนอกประเทศแล้ว ซึ่งสื่อรัสเซียรายงานอ้างข้อมูลแหล่งข่าวในรัฐบาลว่า เขาเดินทางถึงกรุงมอสโกและยื่นเรื่องขอลี้ภัยที่รัสเซียและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยเรียบร้อยแล้ว

ส่วนสถานการณ์ในซีเรีย ชาวซีเรียจำนวนมากบุกเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงดามัสกัส จนมีสภาพยุ่งเหยิง ข้าวของจำนวนมากถูกทุบทำลายและรื้อค้น นอกจากนี้หลายคนยังขนเฟอร์นิเจอร์ออกมาจากทำเนียบ

อ่านข่าว : ผู้นำซีเรียหนีออกนอกประเทศ หลังกลุ่มกบฏยึดเมืองหลวง

ขณะที่บ้านพักของ บาชาร์ อัล-อัสซาด ในกรุงดามัสกัส มีสภาพไม่ต่างกันหลังประชาชนจำนวนมากบุกเข้าไปภายใน เดินสำรวจตามจุดต่าง ๆ พร้อมรื้อค้นข้าวของและทุบทำลายทรัพย์สิน ซึ่งในจำนวนนี้บางส่วนทำลายรูปวาดของอัล-อัสซาด ด้วยความโกรธแค้น

ชาวซีเรียที่เข้าไปในบ้านพักของอดีตผู้นำรัฐบาลบางคน ระบุว่า เข้าไปเพื่อดูสิ่งที่ชาวซีเรียเคยถูกห้ามไม่ให้เห็น เพราะไม่ควรจะได้รู้เห็นสิ่งเหล่านี้และถูกบังคับให้อยู่กับความเป็นจริงที่เผชิญ ทั้งความยากจน ความขัดสนและความยากลำบาก จึงมาดูสิ่งที่เขามี ซึ่งประชาชนไม่มี

ชาวซีเรียบุกเข้าไปในบ้านพักของบาชาร์ อัล-อัสซาด ในกรุงดามัสกัส รื้อค้นและทุบทำลายทรัพย์สิน

ชาวซีเรียบุกเข้าไปในบ้านพักของบาชาร์ อัล-อัสซาด ในกรุงดามัสกัส รื้อค้นและทุบทำลายทรัพย์สิน

ชาวซีเรียบุกเข้าไปในบ้านพักของบาชาร์ อัล-อัสซาด ในกรุงดามัสกัส รื้อค้นและทุบทำลายทรัพย์สิน

จุดจบ 50 ปี "ตระกูลอัล-อัสซาด" ปกครองซีเรีย

นอกจากนี้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดีย สมาชิกกลุ่มกบฏเข้าไปยิงปืนฉลองชัยชนะภายในบริเวณทำเนียบประธานาธิบดีซีเรีย ซึ่งภาพเหล่านี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่เหตุการณ์ในซีเรียพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ นับตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 8 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น อดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด พร้อมภรรยาและลูก 3 คน หลบหนีออกจากกรุงดามัสกัส ขณะที่กลุ่มกบฏฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) เข้ายึดเมือง

สถานีโทรทัศน์ทางการซีเรีย เผยแพร่ข่าวภาคค่ำของวันที่ 8 ธ.ค. โดยผู้ประกาศข่าวเปิดรายการด้วยการกล่าวว่า 50 ปีแห่งความอยุติธรรมภายใต้การปกครองของพรรคบาธ และ 13 ปีแห่งอาชญากรรม การกดขี่และการพลัดถิ่น ยุคมืดได้สิ้นสุดลงแล้วและซีเรียกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ หลังจากการต่อสู้อันยาวนานกับกองกำลังรัฐบาลซีเรีย

การออกอากาศดังกล่าวใช้พื้นหลังเป็นธงของกลุ่มกบฏซีเรีย ประกอบด้วยดาวสีแดง 3 ดวงบนพื้นหลังสีเขียว-ขาว-ดำ แทนธงรัฐบาลซีเรียเดิมที่มีดาวสีเขียว 2 ดวง บนพื้นหลังแดง-ขาว-ดำ

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มกบฏซีเรียเดินทัพเข้าถึงกรุงดามัสกัสโดยไม่เผชิญการต่อต้าน หลังจากเริ่มออกจากฐานที่มั่นในอิดลิบ เดินหน้ายึดเมืองอเลปโปและเดินทัพต่อไปยังฮามา ฮอมส์ จนล่วงเข้าสู่ดามัสกัสได้ในที่สุด จนผู้นำรัฐบาลซีเรียหลบหนีออกนอกประเทศโดยไม่ทราบจุดหมาย หลังจากไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนนับตั้งแต่กลุ่มกบฏรุกคืบอย่างฉับพลัน

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.นับเป็นการสิ้นสุดการปกครองของตระกูลอัล-อัสซาด กว่า 5 ทศวรรษ หลังกลุ่มกบฏพลิกสถานการณ์สงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมา 13 ปี โดยตระกูลอัล-อัสซาด ปกครองซีเรียมาตั้งแต่นายพลฮาเฟซ อัล-อัสซาด ผู้พ่อ รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 มี.ค.1971 เป็นประธานาธิบดีคนที่ 14 ของซีเรีย นับตั้งแต่ได้รับเอกราชเมื่อปี 1943 และส่งไม้ต่อให้ลูกชายเมื่อปี 2000

ไฟโหมลุกไหม้สำนักงานความมั่นคงของกระทรวงมหาดไทยซีเรีย ในกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2024 หลังกลุ่มกบฏเข้ายึดเมืองหลวงได้สำเร็จ

ไฟโหมลุกไหม้สำนักงานความมั่นคงของกระทรวงมหาดไทยซีเรีย ในกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2024 หลังกลุ่มกบฏเข้ายึดเมืองหลวงได้สำเร็จ

ไฟโหมลุกไหม้สำนักงานความมั่นคงของกระทรวงมหาดไทยซีเรีย ในกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2024 หลังกลุ่มกบฏเข้ายึดเมืองหลวงได้สำเร็จ

สอท.เตหะราน แนะคนไทยเลี่ยงเดินทางไปซีเรีย

ด้านความเคลื่อนไหวของทางการไทย นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน รายงานว่า ได้ติดต่อกับคนไทยที่อยู่ในซีเรียนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและความประสงค์ในการเดินทางออกจากซีเรีย

จากฐานข้อมูลของสถานเอกอัครราชทูต ระบุว่า มีคนไทยในซีเรียทั้งหมด 23 คน โดยอยู่ในกรุงดามัสกัส 22 คนและเมืองดารา ใกล้ชายแดนจอร์แดน 1 คน ซึ่งมีผู้ประกอบอาชีพพนักงานนวด นักเรียนไทยและคนไทยที่มีครอบครัวกับชาวซีเรีย ขณะนี้ทุกคนยังปลอดภัยและกำลังพิจารณาสถานการณ์เพื่อตัดสินใจดำเนินการต่อไป

สถานเอกอัครราชทูต ขอให้คนไทยติดตามข่าวสารจากช่องทางต่างๆ อย่างใกล้ชิดและรักษาการติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูต โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน พร้อมประสานงานและอำนวยความสะดวกกรณีคนไทยประสงค์เดินทางออกจากซีเรีย ขณะเดียวกันยังแนะนำคนไทยให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปซีเรีย หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้

อ่านข่าว

อัยการเกาหลีใต้ กล่าวหา ยุน ซอก-ยอล ผู้ต้องสงสัยคดี “กบฏ”

จับอดีต รมว.กลาโหม ปมประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง