ครม.อนุมัติ “บ้านหลังแรก” ลดภาษีร้อยละ 10
คนในวงการอสังหาริมทรัพย์แนะรัฐบาลควรเพิ่มมาตรการเพื่อให้ประชาชนทั่วไปมีโอกาสมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในโครงการบ้านหลังแรก หลังพบว่าผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากโครงการนี้คือผู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาแพง
<"">
<"">
"โครงการบ้านหลังแรก" เป็นโครงการอันดับต้นๆ ที่รัฐบาลทำเป็นรูปธรรมหลังได้หาเสียงไว้ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีบ้านหรือคอนโดมิเนียมเป็นของตัวเอง ทั้งนี้ผู้มีสิทธิ์ต้องเป็นผู้อยู่ในระบบการเสียภาษีเงินได้, ที่อยู่อาศัยเป็นโครงการใหม่ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท และต้องถือครองกรรมสิทธิ์นานกว่า 5 ปี ซึ่งจะได้สิทธิประโยชน์ คือลดหย่อนภาษีไม่เกินร้อยละ10 ของมูลค่า นาน 5 ปี แต่ไม่เกิน 500,000 บาทตั้งแต่วันโอนกรรมสิทธิ์
<"">
<"">
ผู้บริหารศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ระบุว่า มาตรการนี้ไม่ช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวมากนัก ส่วนผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้มากที่สุดคือผู้ที่เสียภาษีในอัตราสูง และซื้อบ้านในราคาแพง เช่น ผู้ที่มีเงินได้สุทธิปีละ 4 ล้านบาทขึ้นไป จะได้ลดหย่อยภาษีถึงปีละ 37,000 บาท เนื่องจากมีฐานภาษีที่สูงถึงร้อยละ 37 เทียบกับผู้มีเงินได้ 150,000-500,000 บาท ได้ลดหย่อนภาษีเพียง 10,000 เท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลควรออกมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนจำนวนมากได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งอาจจะรวมถึงบ้านมือสอง
สำหรับในมุมผู้ประกอบการแล้ว เเม้จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความต้องการของผู้อยากมีบ้านหลังแรกจะสูงมากจนต้องสร้างบ้านขึ้นมารองรับ จึงอยากให้รัฐบาลออกมาตรการเพิ่มเพื่อช่วยให้ประชาชนทุกระดับมีโอกาสมีบ้านเป็นของตัวเองด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า โครงการนี้ต้องการช่วยผู้ที่ไม่เคยมีบ้าน สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ไม่เสียภาษีไม่สามารถได้รับสิทธิ์เข้าโครงการ ขณะที่กระทรวงการคลังประเมินว่า มาตรการนี้กระทบต่อการจัดเก็บภาษีอากรประมาณ 1,700 ล้านบาท แต่จะช่วยกระตุ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัวได้มากขึ้น โดยปีนี้มีบ้านเเละคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอนจำนวน 15,300 หน่วย เเละอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 89,000 หน่วย หากเกิดการซื้อขายเเละโอนกรรมสิทธิ์เเล้ว ก็เชื่อว่าจะมีการเก็บภาษีประเภทอื่นตามมาด้วย