วันนี้ (5 ม.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเพจเฟซบุ๊กหนึ่งโพสต์ข้อความว่า "ได้ข่าวว่าร้านนี้ถ่ายหน้ากับบัตรประชาชนของลูกค้าไว้ แล้วเอาข้อมูลไปขายในกลุ่มสายเทา น่ากลัว" นอกจากนี้ยังโพสต์อีกข้อความว่า "ใครมีข้อมูลเจ้าของร้าน สลิปที่รับโอนเงิน ส่งมาหน่อย ตอนนี้หน่วยงานฟอกเงินรับเรื่องแล้ว" จนมีลูกค้าของร้านเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ม.ค.) น.ส.ญาณิพัชญ์ ศรีโคตร นายอำเภอบางใหญ่ พร้อมตำรวจ เข้าตรวจสอบสถานบันเทิงดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากตำรวจและฝ่ายปกครองได้เข้าไปตรวจสอบก่อนหานี้แล้ว 3 ครั้ง จากการตรวจสอบพบว่า ร้านมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ไม่พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ ไม่พบการมั่วสุมหรือการจำหน่ายยาเสพติด และร้านปิดบริการตามเวลาที่กำหนด
แต่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ถูกกล่าวหาให้กระจ่าง ซึ่งหลังจากการตรวจสอบ ผู้จัดการสถานบันเทิงฯ ได้แจ้งว่า จะปิดปรับปรุงบริการของร้าน 5 วัน จึงได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ห้ามพกพาอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการ ให้ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่มาใช้บริการ ห้ามมีการมั่วสุมยาเสพติด ห้ามจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
ลูกค้าแจ้งความแล้ว 5 คน ถูกถ่ายบัตร ปชช.
ด้าน พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ กล่าวว่า ล่าสุดมีผู้ใช้บริการสถานบันเทิงดังกล่าวและถูกถ่ายรูปพร้อมบัตรประชาชน เข้ามาลงบันทึกประจำวันแล้ว 5 คน โดยร้องขอให้ตำรวจขยายผลว่าบัตรประชาชนที่ถ่ายไปนั้นถูกนำไปใช้ผิดกฎหมาย หรือขายให้แก๊งมิจฉาชีพจริงหรือไม่ ส่วนแชทที่มีการกล่าวหาว่ามีการนำบัตรประชาชนไปจำหน่ายให้แก๊งมิจฉาชีพ ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะเรียกแอดมินเพจดังกล่าวมาให้ข้อมูล
ขณะที่วันนี้ (5 ม.ค.) ตำรวจได้เชิญนายอำเภอบางใหญ่ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หารือถึงการถ่ายบัตรประชาชนผู้เข้าใช้บริการว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่
ประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ คือกลยุทธ์ของร้านในการดึงลูกค้าเข้าร้าน โดยเพจเฟซบุ๊กที่ออกมาแฉเรื่องนี้โพสต์อ้างว่า ร้านดังกล่าวจะจัดโปรโมชันเครื่องดื่มราคาถูก เมื่อลูกค้าไปเที่ยวจะถ่ายรูปและบัตรประชาชนของลูกค้า จากนั้นจะนำไปขายให้แก๊งคอลเซนเตอร์ ส่วนรูปแบบที่ 2 คือให้ลูกค้าเข้าร่วมกลุ่มไลน์ที่ร้านตั้งขึ้น เมื่อมีลูกค้าเข้าครบ 500 คนก็จะเปลี่ยนชื่อเป็นเว็บพนันนออนไลน์และส่งลิงก์เว็บพนันเข้าไปในกลุ่ม
เมื่อได้ข้อมูลบัตรประชาชนจากลูกค้าแล้ว มีการแฉอีกว่าจะมีการขายข้อมูลลูกค้า 2 รูปแบบ โดยรูปแบบแรกคือขายรายชื่อละ 100 บาท โดย 100 บาทจะเป็นข้อมูลวน มีการขายให้กับเว็บอื่นๆ ด้วย ส่วนรูปแบบที่ 2 หากอยากได้ข้อมูลลูกค้าแบบผูกขาดไม่แบ่งใคร ร้านจะขายให้รายชื่อละ 300 บาท โดยจะไม่ขายวน
ทีมข่าวไทยพีบีเอส โทรศัพท์สอบถามความคืบหน้าล่าสุด ซึ่งผู้กำกับชี้แจงสั้นๆ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประชุมเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงตรวจสอบพฤติการณ์ของสถานบันเทิงดังกล่าว ซึ่งคาดวว่าในช่วงบ่ายจะมีความคืบหน้า
อ่านข่าว
บุกจับผับกลางวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา พบฉี่ม่วง 39 คน
สั่งสอบปมแรงงาน 250 คนถูกหลอกทำงาน ตปท.-สูญกว่า 12 ล้าน
ตร.ยันทำตามยุทธวิธียิงหนุ่มดับคา รพ.สุรินทร์ ญาติติดใจขอดู CCTV