วันนี้ (7 ม.ค.2568) นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์โรคไข้หูดับใน 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 - 2 ม.ค.2568 พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับมากถึง 197 คน เสียชีวิต 22 คน
- ภาวะ "น้ำตาลในเลือดต่ำ" เกิดจากอะไร สิ่งที่ต้องระวัง
- อร่อยเต็มเปี่ยมโซเดียมเต็มคำ เตือนก่อน "ไตพัง" ปรับเปลี่ยนการกิน
ทั้งนี้ เมื่อแบ่งเป็นรายจังหวัด พบว่า จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยมากสุด 120 คน เสียชีวิตมากที่สุด 10 คน รองลงมา จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 37 คน เสียชีวิต 7 คน โดยกลุ่มอายุที่ป่วยสูงสุด คือ อายุ 65 ปีขึ้นไป รองลงมาคือกลุ่มอายุ 55-64 ปี
จากการประเมินความเสี่ยงอย่างรวดเร็ว พบว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หูดับในปี 2567 เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปี 2566 และมีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่สูง จึงต้องเร่งจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มข้น และเฝ้าระวังการเกิดโรคไข้หูดับในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง
นพ.ทวีชัย ได้เน้นย้ำให้ประชาชนต้องยึดหลัก "สุก ร้อน สะอาด" ไม่กินหมูดิบ ให้กินหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น ส่วนความเชื่อการบีบมะนาว หรือดื่มสุรา ร่วมกับการกินหมูดิบ หรือหมูสุก ๆ ดิบ ๆ จะทำให้หมูสุกนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด
สำหรับอาหารปิ้งย่างควรใช้อุปกรณ์คีบเนื้อหมูสุกและเนื้อหมูดิบแยกจากกัน ไม่ควรใช้ตะเกียบคีบหมูดิบแล้วนำมากิน เพราะหากติดเชื้อโรคไข้หูดับอาจทำให้สูญเสียการได้ยิน หรือที่เรียกว่า "หูดับ" จนถึงขั้นหูหนวกถาวร และหากอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
อ่านข่าว : เตือน 5 พฤติกรรม "กินหมูกระทะ" เสี่ยงไข้หูดับ-โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง