ท้าชนความมั่นคงรัฐ ปลิดชีพ “ครูตชด.”ทำลายขวัญจนท.ชายแดนใต้

“แม้คนดี จะตายไปแล้ว แต่คุณความดี ที่ครูตชด. 2 พ่อลูก ได้ทำไว้ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่มีวันตาย และยังถูกจดจำอยู่ในใจของผู้ที่อยู่ข้างหลังเสมอ ...อยากให้กำลังใจ ครูตชด.ทุกคนที่ยังอยู่ ขออย่าท้อ เสียขวัญ หรือหมดกำลังใจ อยากให้สู้ต่อไป” พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร อดีตเลขาศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ฝากถ้อยคำสื่อสารไปยังครูตชด.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 56 ปี และ ด.ต.โดม ช่วยเทวฤทธิ์ สองพ่อ-ลูก ครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านตืองอ ช่างกลปทุม วันอนุสรณ์ 13 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 (กก.ตชด.44) ถูกคนร้ายซุ่มกดชนวนระเบิดที่ลักลอบนำไปวางไว้ในท่อลอดของผิวถนนสายศรีสาคร–ลูโบ๊ะยือริง จ.นราธิวาส และลงมายิงซ้ำจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2568 ก่อนจะถึงวันครู เพียง 2 วัน

เขย่าขวัญ-หวังผล ทำลายความมั่นคงรัฐ

“น่าเสียดาย ถือเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของรัฐ เพราะครูตชด.สองพ่อลูก เป็นคนดีมาก ๆ เป็นผู้ที่มีความเสียสละสูง เขาเป็นคนไทยมุสลิม จ.พัทลุง สมัยที่เป็นผู้บังคับหน่วยนาวิกโยธินอยู่ในพื้นที่ เคยทำงานร่วมกับเขา...เชื่อว่า เป้าประสงค์ของการก่อเหตุครั้งนี้มี 2 เงื่อนไขที่คนร้ายหวังผล”

พล.ร.ต.สมเกียรติ ระบุว่า เงื่อนไขแรก คือ เจ้าหน้าที่รัฐมักจะตกเป็นเป้าอยู่แล้ว ทั้ง ตำรวจ และทหาร แม้ที่ผ่านมาครูจะไม่ใช่เป้าหมาย ครูตชด.แต่ก็เป็นเจ้าหน้ารัฐ การทำลายขวัญและบั่นทอนกำลังใจของเจ้าหน้าที่ เหมือนการทำลายความมั่นคง ซึ่งจะส่งผลทางจิตวิทยาสูงมากกับครูตชด.ที่ยังอยู่ในพื้นที่

เงื่อนไขที่สอง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลพวงจากเหตุการณ์กรือเซะ- ตากใบ เมื่อปี 2547 ส่งผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง และการที่ไม่สามารถเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ได้แม้แต่คนเดียว มีการหลบหนีหมายจับ ปล่อยให้คดีหมดอายุความ กลายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ผู้ก่อความไม่สงบใช้เป็นอาวุธในการปลุกปั่น

ภาพ : กสศ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

“ครูสุวิทย์ เป็นคนมุสลิม บ้านเกิดอยู่จ.พัทลุง เป็นครูตชด.สอนอยู่ในพื้นที่ บ้านละโอ และบ้านตืองอ มานาน 20 ปี เมื่อครั้งเป็นอดีตผู้บังคับหน่วยนาวิกโยธิน ก็รู้จักและคุ้นเคยกับพ.ต.ท.สุวิทย์ และลูกชาย เป็นคนดีและกำลังสำคัญของรัฐ ในการดูแลอบรมให้ความรู้เด็กนักเรียน” อดีตเลขาฯศอ.บต. กล่าว และว่า

หลังเกิดเหตุการณ์นี้ รัฐบาลคงต้องทบทวนแล้วว่า จะแก้ไขปัญหาหรือมีนโยบายด้านความมั่นคงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้อย่างไร เพื่อไม่ให้ผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ใต้จำนวน 6,400 คนที่ตายไปจะไม่สูญเปล่า

ท้าชนสัญลักษณ์-สลายเครือข่ายชาวบ้าน

ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคง มองปัญหาที่เกิดขึ้นว่า การสูญเสียกำลังพลครูตชด.สองนายในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นชัดว่า กลุ่มคนร้ายกำลังท้าชนกับเป้าหมายโดยตรง คือ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยกำลังพล แม้ครูจะเป็นคนไทยมุสลิม ซึ่งไม่มีผล เขาไม่ทำชาวบ้าน ต้องการทำร้ายครูที่อยู่ในเครื่องแบบสีเขียว สัญลักษณ์ครูตชด.เพราะต้องการข่มขู่ เครือข่ายและสายของเจ้าหน้าที่รัฐ

“เป็นไปได้อย่างไรที่ชาวบ้านในพื้นที่จะไม่รู้ว่า มีการขุดเจาะถนนเพื่อวางสายจุดชนวนระเบิด เชื่อว่าครั้งนี้ คนในพื้นที่ทราบดี แต่ไม่บอก ไม่ส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า เพราะชาวบ้านอาจจะหวาดกลัว ไม่กล้า หรือเลือกที่จะไม่สนใจ แม้ว่าครูจะอยู่ในพื้นที่มานาน แต่เขามองว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ท้าทายงานด้านความมั่นคง แบบพร้อมที่จะชน”

ภาพ : กสศ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อน “วันครู” ในวันที่ 16 ม.ค.2568 นี้ แหล่งข่าวระบุ ว่า สำหรับคนในพื้นที่ถือเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของ ชาวบ้าน ครู ตชด. และเด็กนักเรียนอย่างสูง โดยมีหลายปัจจัยที่ซ้อนทับอยู่ในพื้นที่ และยังสะท้อนให้เห็นถึงการแก้ปัญหาของฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาลอีกด้วยว่า ยังไร้ทิศทาง ไม่มีนโยบายที่ชัดเจน 

แม้ครูใหญ่-และครูโดม จะจากไปแล้ว แต่ครูที่ยังอยู่และต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อ ครูตชด.นายหนึ่งแห่งโรงเรียนตชด.ตืองอ ยอมรับว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ครูทุกคนเสียขวัญ และวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากโรงเรียนอยู่ไกลบ้านช่วงที่ผ่านมา ครูบางคนอาจต้องเดินทางไป-กลับ ด้วยระยะทางไกล ครูจึงต้องนอนพักอยู่ในโรงเรียน

ภาพ : กสศ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

สำหรับครูใหญ่ หรือ พ.ต.ท.สุวิทย์ อยู่ในพื้นที่มานาน เคยสอนอยู่ที่รร.ตชด . บ้านละโอ ก่อนจะย้ายมาเป็นครูใหญ่ที่รร.ตชด.บ้านตืองอ

“ครูใหญ่ เป็นที่รักของนักเรียนและชาวบ้าน หลังเกิดเหตุร้าย ครูทุกคนไม่กล้าออกไปไหนเลย อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนจะเปิดให้มีการเรียนการสอนในวันที่ 20 ม.ค.2568 และหลังจากนี้ ครูทุกคนคงต้องระวังตัวเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่มีสิทธิทราบได้เลยว่า จะมีภัยมาถึงตัวเมื่อไหร่”เสียงจากครูตชด.ชายแดนใต้

รร.ตชด. “เหนือสุดแดนสยาม สู่ปลายด้ามขวานทอง”

ตำรวจตระเวนชายแดน” จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2496 ภารกิจหลัก คือ ลาดตระ เวนเดินทางไปในพื้นที่ตามแนวชายแดน ตชด.ได้พบเห็นประชาชนห่างไกลเส้นทางคมนาคม มีฐานะยากจน ลำบากเร้นแค้น โรคภัยเบียดเบียน ขาดยารักษาโรคขาดอาหารและเครื่องนุ่งห่ม เด็กวัยเรียนไม่ได้รับการ เนื่องจากไม่มีหน่วยงานใดสามารถเข้าไปจัดตั้งโรงเรียนได้

ปี 2499 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 5 ปัจจุบัน คือ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ค่ายดารารัศมี อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดย ร.ต.ท. ทวี ภานุโสภณ ผู้บังคับหมวด ได้จัดตั้งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งแรกที่ บ้านดอนมหาวัน ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกับราษฎรในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงปลูกสร้างอาคารเรียนขึ้น โดยไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินแต่อย่างใด ได้ตั้งชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ 1 และได้มีการขยายต่อเนื่องมาตลอด

ปัจจุบันมีโรงเรียนตชด.จำนวน 220 แห่ง อยู่ในพื้นที่ภาคกลางจำนวน 45 โรงเรียน ,ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 53 โรงเรียน,ภาคเหนือ จำนวน 80 โรงเรียนและภาคใต้จำนวน 42 โรงเรียน เฉพาะที่จ.นราธิวาส มีโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย

1.รร.ตชด.บ้านไอร์บือแต มีนักเรียน 206 คน ชาย 109 คน หญิง 97 คน และครู 13 คน

2.รร.ตชด.บ้านตืองอช่างกลปทุมวันอนุสรณ์ 13 มีนักเรียน 186 คน ชาย 95 คน หญิง 91 คน และครู 11 คน

3.รร.ตชด.บ้านละโอ มีนักเรียน 77 คน ชาย 34 คน หญิง 43 คน ครู 12 คน

4.รร.ตชด.บ้านลีลานนท์ มีนักเรียน 113 คน ชาย 70 คน หญิง 43 คน ครู 16 คน

5.รร.ตชด.การท่าอากาศยานฯ มีนักเรียน 74 คน ชาย 34 คน หญิง 40 คน ครู 11 คน

แม้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะปูนบำเหน็จ ภายหลังการเสียชีวิตของครูตชด.สองพ่อ 2 ลูก โดย พ.ต.ท.สุวิทย์ ได้เลื่อนถึง 7 ชั้นยศ เป็น พล.ต.อ. ขณะที่ด.ต.โดม บุตรชาย ได้เลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พล.ต.ต.

คนจากเดินทางไกลไปแล้ว แต่สำหรับครอบครัวและคนที่รักแล้ว หากเลือกได้ พวกเขาคงไม่ต้องการ ...ไฟใต้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสียต่อชีวิตทรัพย์สินของทุกคนเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำให้เห็นว่า ความสงบและพื้นที่ปลอดภัย นั้น ยังอยู่ห่างไกลเหลือเกิน

อ่านข่าว

จับกระแสการเมือง: วันที่ 14 ม.ค.2568 “ไว้ลายเสือ “ชาดา” คืนที่ดินอัลไพน์ ตั้ง “ณัฐวุฒิ” ที่ปรึกษานายกฯ ซ้ำรอย “พิชิต”

ศร.ตีตกคำร้อง "วินิจ" อดีตสมาชิกก้าวไกล ร้องถูกละเมิดสิทธิ

มติเอกฉันท์ ศร.ชี้ กม.เลือกตั้งท้องถิ่น ห้ามผู้สมัครจูงใจให้ลงคะแนน ไม่ขัด รธน.