ไม่สิ้น ”มนต์ขลัง” ทักษิณ-บ้านใหญ่ 10 จังหวัด นายก อบจ.ชนะชัวร์

การทวงพื้นที่สส.คืน ผ่านการเลือกตั้งนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อย่างชนิดลุยไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ในภาคอีสานทั้ง จ.หนองคาย นครพนม และสกลนคร ฯลฯ ไม่เพียงทำให้ การเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.ขยายจากการเมืองท้องถิ่นไปสู่ระดับชาติเท่านั้น 

หากในบางจังหวัดที่ตัวแทนของพรรคเพื่อไทย “แดง นายใหญ่” กับ “แดง รากหญ้า”ชนกันเอง แม้แต่ละฝ่ายจะเดินทางมาต้อนรับ “ทักษิณ”ถึงสนามบินทั้ง 2 กลุ่ม แต่เขาก็ไม่ได้ไปช่วยฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งหาเสียง

ดังกรณี แดงกลุ่ม “นฤมล สัพโส” ผู้สมัครนายก อบจ.สกลนคร เบอร์ 5 ภรรยาของ “พัฒนา สัพโส” สส.สกลนคร และมารดา “จิรัชยา สัพโพ” สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ท้าชนกับ “อนุรักษ์ บุญศล” หรือ ครูติ๋ว ผู้สมัครนายก อบจ. สกลนคร ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน

ทำให้ทั้งคู่ ไม่มีใครได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ แต่ได้รับการปลอบประโลมจาก “นายใหญ่” ด้วยการตบบ่าเบาๆ และบอกเพียงว่า “พวกเดียวกันทั้งนั้น ..เบาๆ กันหน่อย”

ตอกย้ำว่า “มนต์ขลัง” ทักษิณและพรรคเพื่อไทย ยังไม่เสื่อม และจะเน้นเอาคืนพื้นที่เดิม โดยเฉพาะภาคอีสานซึ่งถูก “พรรคภูมิใจไทยและพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคประชาชน” มาเข้ายึดครองชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม หากสำรวจพื้นที่เลือกตั้งนายก อบจ.ที่เลือกตั้งไปแล้ว ก่อนหน้านี้พบว่ามี 29 จังหวัด และผู้สมัครที่ได้รับการเลือกกลับเข้ามาใหม่ ส่วนใหญ่ คือ ผู้ที่เคยเป็นอดีตนายก อบจ.ถึง 21 จังหวัด และเป็นกลุ่ม “บ้านใหญ่” และเครือข่ายของนักการเมือง

ส่วนอีก 8 จังหวัด เช่น จ.กาญจนบุรี ชัยนาท ตาก พะเยา ร้อยเอ็ด เลย สระแก้ว และอุดรธานี แม้ นายก อบจ.คนเดิม ไม่ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งก็จริง แต่เลี่ยงไม่ได้ที่ตัวแทนที่ลงรับสมัครเลือกตั้งจะเป็นเครือข่ายของพรรคการเมือง และมีความสัมพันธ์ในฐานะบ้านใหญ่- ตระกูลการเมืองในพื้นที่-ญาติพี่น้อง คว้าเก้าอี้ไปครอง

จำนวนนี้ส่วนใหญ่มาจากพรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ก็แบ่งสัดส่วนกันไป

สำหรับสมรภูมิรบ สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 1 ก.พ. 2568 นี้ ใน 47 จังหวัด จะยังมีการต่อสู้กัน แต่ไม่เข้มข้นมากนัก แม้ “ทักษิณ” จะลงไปเขย่าพื้นที่ทางภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง

บรรดาเซียนการเมืองท้องถิ่นฟันธงว่า ยังไม่มีอะไรใหม่ที่ “ท้าทาย” และสุดท้าย พรรคเพื่อไทยก็จะได้นักการเมืองท้องถิ่นสายบ้านใหญ่กลับมาเช่นเดิม และบางพื้นที่ หากหลีกเลี่ยงชนกันได้ อีกฝ่ายก็พร้อมหลบให้

ในภาคเหนือ 8 จังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พิจิตร แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน

ภาคกลาง 11 จังหวัด นครนายก นครปฐม นนทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี

ภาคตะวันออก 6 จังหวัด จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ระยอง ปราจีนบุรี
ภาคใต้ 11 จังหวัด กระบี่ ตรัง นราธิวาส ปัตตานี ยะลา พังงา พัทลุง ภูเก็ต สงขลา สตูล สุราษฎร์ธานี

และภาคอีสานอีก 11 จังหวัด นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร สกลนคร ศรีษะเกษ หนองคาย หนองบังลำพู และอำนาจเจริญ

จำนวนนี้มีการประเมินกันว่า มี10 จังหวัดภาย “บ้านใหญ่” ภายใต้ร่มเงาพรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทยและพลังประชารัฐ ที่จะได้เก้าอี้นายก อบจ.ไปตุนไว้แน่ ๆ คือ

จ.นครปฐม บ้านใหญ่ผูกขาด แม้จะ”สิ้นปู่-ขาดพ่อ” ประเสริฐ-ไชยา สะสมทรัพย์ แต่ “ จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์” อดีตนายก อบจ.นครปฐม ลงชิง นายก อบจ. นคร ปฐม อีกครั้ง ในนาม “บ้านใหญ่สะสมทรัพย์” แต่ว่ากันว่า นายกฯหนึ่ง-จิรวัฒน์ มาวิน 

จ.ฉะเชิงเทรา ภายหลังตกลงกันได้ “นายกไก่” กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ไม่แข่ง ”นายกก้อย” กลยุทธ ฉายแสง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา ทีมรวมใจพัฒนา ที่มี 6 กองหนุนจากตระกูล ฉายแสง,ตันเจริญ,อัศวชัยโสภณ,จารุสมบัติ,เป้าเปี่ยมทรัพย์ และศิริลัทธยากร นอนมาแน่นอน

จ.ชลบุรี ไม่มีคู่แข่ง บ้านใหญ่เมืองชล “ตระกูลคุณปลื้ม” ส่งกลุ่มเรารักชลบุรี (เพื่อไทย) “นายกป๊อก” วิทยา คุณปลื้ม อดีตนายก อบจ.ชลบุรี 4 สมัย มาเป็นอีกครั้ง

จ.ระยอง พื้นที่ดั้งเดิมของ “บ้านใหญ่ปิตุเตชะ” อดีตนายกช้าง “ปิยะ ปิตุเตชะ” อดีตนายก อบจ.ระยอง 3 สมัย เข้าชิง

จ.นนทบุรี กลุ่มผึ้งหลวง ส่ง “พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ” อดีตนายก อบจ.นนทบุรี 5 สมัยลงชิง เป็นการรวมตัวของพรรคร่วมฝ่ายค้าน (บ้านใหญ่เพื่อไทย-ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ) ต้องร่วมสู้ เพราะเขตนนทบุรี พรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล กวาดเรียบเก้าอี้สส.เมื่อปี 2566

จ.สิงห์บุรี ส่ง “ศุภวัฒน์ เทียนถาวร” อดีตนายก อบจ.สิงห์บุรี น้องชาย สรกฤช เทียนถาวร อดีตนายก อบจ.สิงห์บุรี 4 สมัย และแนวร่วมบ้านใหญ่ร้านทองแม่กิมลี้ (ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ)

จ.ลพบุรี กลุ่มรักลพบุรี “บ้านใหญ่จิระพันธุ์วานิช” สังกัด ภูมิใจไทย ส่ง“นายกแตน” อรพิน จิระพันธุ์วาณิช อดีตนายก อบจ.ลพบุรี 3 สมัย เข้าชิง
จ.สระบุรี ส่ง“นายกจ้อน” สัญญา บุญ-หลง อดีตนายก อบจ.สระบุรี ท้าชิง มีกองหนุนเป็น 2 สส.สระบุรี คือ อรรถพล วงษ์ประยูร (เพื่อไทย) และองอาจ วงษ์ประยูร (พลังประชารัฐ)

จ.ประจวบคีรีขันธ์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรมว.ทส.ส่ง “นายกไล้” สราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ อดีตนายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ พี่ชาย “นายกเกียร์” ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ อดีตนายก อบจ.ประจวบฯ ลงชิง

และ จ.สมุทรสาคร คาดว่า เก้าอี้นายก อบจ.สมุทรสาคร ยังเป็นของทีมฅนทำงาน “ปลัดแต” อุดม ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร ลูกชายของ “เฮียม้อ” มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์

แม้ “ทักษิณ” จะเดินสายทวงคืนพื้นที่สูญ “เพื่อไทย” เพื่อสร้างขุมกำลังทางการเมืองขึ้นมาใหม่ ขณะที่พรรคประชาชน ยังไม่สามารถผุดการเมืองแบบใหม่สไตล์สีส้มขึ้นมาสู้ได้ ส่วนพรรคภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ แค่รักษาฐานเดิมก็ยังลำบาก และไร้ขีดความสามารถเจาะฐานใหม่ได้

จึงไม่แปลก หากในสนามการเมืองท้องถิ่นวันนี้ หมุดหมายของ “ทักษิณ” ยังเป็นฐานนิยมเดิม และไม่ได้คะแนนเพิ่มจากคนรุ่นใหม่ หากย้อนดูผล ลัพธ์จากตัวแทนที่ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ.ก่อนหน้านี้ มนต์ขลังบทเดิม แม้ยังไม่เสื่อม แต่ก็เสกไม่ได้เหมือนที่ผ่านมา

อ่านข่าว

จับกระแสการเมือง : วันที่ 17 ม.ค.2567 มีดเหน็บหลังคนละเล่ม “เขากระโดง-อัลไพน์” เพื่อไทย-ภูมิใจไทย เค้ก “กาสิโน” ไม่ลงตัว

4 สมรภูมิรบริมโขง “ทักษิณ” เปิดศึก ภท.-พปชร. ชิง นายก อบจ.

รู้สิทธิ รู้หน้าที่ ง่ายนิดเดียว ข้อควรรู้ก่อนเลือกตั้ง อบจ. 2568