วันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศให้เป็นวันเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ใน 47 จังหวัด จำนวน 192 คน และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ใน 76 จังหวัด จำนวน 6,815 คน
อ่านข่าว : ทำไม 29 จังหวัดไม่ต้องเลือกนายก อบจ.ในวันที่ 1 ก.พ.68
สำหรับผู้สมัครนายก อบจ.มีจังหวัดที่มีผู้รับสมัครเลือกตั้ง ตั้งแต่ 1-9 คน ดังนี้
- จังหวัดที่มีผู้สมัครคนเดียว มี 1 จังหวัด คือ สิงห์บุรี
- จังหวัดที่มีผู้สมัคร 2 คน มี 7 จังหวัด คือ นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ ยะลา ลำพูน สมุทรสาคร แพร่ แม่ฮ่องสอน
- จังหวัดที่มีผู้สมัคร 3 คน มี 13 จังหวัด คือ กระบี่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตรัง นนทบุรี นราธิวาส บึงกาฬ ปัตตานี ภูเก็ต ระยอง หนองคาย เชียงราย เชียงใหม่
- จังหวัดที่มีผู้สมัคร 4 คน มี 8 จังหวัด คือ นครราชสีมา ปราจีนบุรี พังงา พิจิตร ลำปาง สตูล สมุทรปราการ สุพรรณบุรี
- จังหวัดที่มีผู้สมัคร 5 คน มี 9 จังหวัด คือ จันทบุรี ตราด นครนายก น่าน บุรีรัมย์ พัทลุง มุกดาหาร ลพบุรี สกลนคร
- จังหวัดที่มีผู้สมัคร 6 คน มี 6 จังหวัด คือ มหาสารคาม สมุทรสงคราม สระบุรี สุราษฎร์ธานี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ
- จังหวัดที่มีผู้สมัคร 8 คน มี 2 จังหวัด คือ นครพนม ศรีสะเกษ
- จังหวัดที่มีผู้สมัคร 9 คน มี 1 จังหวัด คือ สงขลา
หลักเกณฑ์ผู้สมัครคนเดียว ต้องทำอย่างไรถึงจะชนะเลือกตั้ง
โดย จ.สิงห์บุรีมีผู้สมัครรับเลือกตั้งเพียงคนเดียว ซึ่งการได้รับเลือกตั้งของผู้สมัครรับการเลือกตั้ง เนื่องจากจำนวนผู้สมัครมีเพียงรายเดียวนั้น ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ปี พ.ศ.2562 มาตรา 111 กำหนดว่า
ในกรณีที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่นเท่ากับจำนวนผู้บริหารท้องถิ่นที่จะพึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น หรือในกรณีที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นเท่ากับหรือน้อยกว่าจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่จะพึงมีในเขตเลือกตั้งนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะได้รับเลือกตั้งต่อเมื่อได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น และมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด
ในกรณีที่ไม่มีผู้ได้รับเลือกตั้งตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ และดำเนินการให้มีการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งใหม่ โดยผู้สมัครรับเลือกตั้งรายเดิมทุกรายซึ่งไม่ได้คะแนนมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นใหม่
ซึ่งตามกฎหมายแล้วจะเห็นได้ว่าแบ่งเป็น 2 หลักเกณฑ์ คือ
1.ผู้ที่สมัครรับเลือกตั้งรายเดียวต้องได้รับคะแนนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
2.ผู้ที่สมัครรับเลือกตั้งรายเดียวต้องมีคะแนนที่มากกว่าคะแนนที่ไม่ที่ไม่ประสงค์ที่จะเลือกผู้สมัครผู้ใด
ซึ่งถ้าเป็นไปตาม 2 หลักเกณฑ์นี้จึงจะได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และถ้าไม่เป็นไปตาม 2 หลักเกณฑ์ ก็จะประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยผู้สมัครรายเดิมจะไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
เช็กสีบัตรเลือกตั้ง
ในวันที่ 1 ก.พ.2568 สำหรับจังหวัดใดที่ทั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.ประชาชนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จะได้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนจังหวัดใดที่เลือกเฉพาะ ส.อบจ.ผู้ใช้สิทธิจะได้รับบัตรเลือกตั้งใบเดียว
ภาคกลางและภาคตะวันออก
บัตรสีชมพู : เลือกตั้งนายก อบจ.
บัตรสีเขียว : เลือกตั้ง ส.อบจ.
ภาคเหนือ
บัตรสีเหลือง : เลือกตั้งนายก อบจ.
บัตรสีม่วง : เลือกตั้ง ส.อบจ.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บัตรสีน้ำตาล : เลือกตั้งนายก อบจ.
บัตรสีเขียวอมฟ้า : เลือกตั้ง ส.อบจ.
ภาคใต้
บัตรสีแดงเลือดหมู : เลือกตั้งนายก อบจ.
บัตรสีคราม : เลือกตั้ง ส.อบจ.
แจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้ง
- ภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง คือวันที่ 25-31 ม.ค.2568
- ภายใน 7 วันหลังวันเลือกตั้ง คือวันที่ 2-8 ก.พ.2568
อ่านข่าว :
ประชาชนเตรียมใช้สิทธิ์! เลือกตั้ง อบจ. 47 จังหวัด 1 ก.พ.2568
"เลือกตั้ง อบจ." สำคัญอย่างไร "นายก อบจ. - ส.อบจ." มีหน้าที่-อำนาจอะไร
รู้สิทธิ รู้หน้าที่ ง่ายนิดเดียว ข้อควรรู้ก่อนเลือกตั้ง อบจ. 2568