เวทีกลาง "บิ๊กดีเบต" การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ ซึ่งจัดขึ้น เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2568 เวลา 18.00 น. ณ ลานศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ เป็นเวทีสำหรับการประชันวิสัยทัศน์ของผู้สมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.สมุทรปราการ ซึ่งมีผู้สมัครทั้งหมด 4 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายสุนทร ปานแสงทอง, หมายเลข 2 นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย, หมายเลข 3 นายนพดล สมยานนทนากุล, หมายเลข 4 นายเสกสรรค์ ปี่เงิน แต่ปรากฏว่า นายสุนทร ปานแสงทอง ผู้สมัครหมายเลข 1 จากกลุ่มบ้านใหญ่ ไม่ได้เข้าร่วมการดีเบตครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า นายสุนทรติดภารกิจและไม่สามารถมาร่วมเวทีได้
นายนพดล สมยานนทนากุล กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ว่า ทีม อบจ.ประชาชน จะตั้งใจทำให้สมุทรปราการเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ภายใต้ 4 เสาหลักนโยบายแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ คือ 1.การศึกษา 2. ด้านสาธารณสุข 3.สังคมสิ่งแวดล้อม และ 4.เสาหลักเศรษฐกิจปากท้อง โดยด้านการศึกษาจะส่งเสริมการศึกษา ลดปัญหาเด็กหลุดจากระบบ, การพัฒนาโอนย้ายโรงพยาบาล การส่งเสริมเติมเต็มบุคลากร ให้เป็น สมาร์ทคลีนิก ลดการเดินทางของ ประชาชนที่ต้องไปโรงพยาบาล, การผลักดันนโนบาย 1 หมู่บ้าน 1 นักบริบาล ดูแลผู้สูงอายุ การผลักดันพื้นที่ส่วนราชการที่ไม่ถูกใช้งานนำมาใช้ประโยชน์ รวมถึงการทำศูนย์บริหารความปลอดภัยจากภัยสารเคมี เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรง ขณะที่ในด้านการท่องเที่ยวจะพลักดันเพิ่มรายได้ให้ จ.สมุทรปราการ
นพดล สมยานนทนากุล
นพดล สมยานนทนากุล
ขณะที่ นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย กล่าวว่า 25 ปีที่ทำงานการเมือง เป็น สส.สมุทรปราการ 6 สมัย ไม่เคยมีปัญหาเรื่องทุจริต พร้อมชูความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณ อบจ. และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งการตัดสินใจลงสมัครชิง นายก อบจ. เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก โดยสมุทรปราการเป็นเมืองใหญ่ติดกรุงเทพฯ ทั้งฝั่ง อ.พระประแดง อ.บางเสาธง และติดเขตลาดกระบัง วันนี้ งบประมาณเหลือแค่ 2,000 ล้านบาท จากที่เคยได้ 2,000-4,000 พันล้านบาท ปัญหาความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นในหลายโครงการ เป็นเรื่องที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหา รวมถึงงบประมาณจัดการขยะ และระบบบำบัดน้ำเสีย
นายประเสริฐ เสนอสร้าง "มหานครสมุทรปราการ" เพื่อดึงดูดเม็ดเงินการสร้างงาน ท่องเที่ยวมาที่สมุทรปราการ ต้องเปลี่ยนสมุทรสาครเป็นแบบใหม่ การดูแลชีวิต ดูแลสังคม คุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ การเป็นมหานครจะดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาลงสนามบินสุวรรณภูมิ 37 ล้านคนต่อปี ให้มาท่องเที่ยวตลาด เที่ยวเมืองสมุทรปราการ ปัญหามลพิษจะถูกแก้ด้วยเทคโนโลยีสมุทรปราการ ด้วยการทำหน้าที่ของ อบจ.สมุทรปราการยุคใหม่
ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย
ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย
ด้านนายเสกสรรค์ ปี่เงิน แสดงวิสัยทัศน์ ชูความตั้งใจใช้ประสบการณ์ในฐานะข้าราชการเกษียณเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ มีนโยบายในการบูรณะซ่อมแซมปรับเกาะกลางถนน เช่น ถนนเทพารักษ์ ถึงเทศบาลบางบ่อ, ปัญหาฝาท่อระบายน้ำ ซึ่งงบประมาณ อบจ.สมุทรปราการ ได้เป็นพันล้าน สามารถนำมาบูรณะให้สวยงามมีสภาพดีร่วมกับท้องถิ่นพื้นที่ได้ รวมถึงการออกแบบพื้นที่สาธารณะให้ทุกคนใช้ร่วมกันได้ รวมถึงปัญหาขยะที่เกิดขึ้นริมข้างทาง
ในเวทีแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้สมัครตอบคำถามจากประชาชน โดย นายนพดล ได้ตอบในประเด็นแนวทางแก้ปัญหาขยะ ว่า ขยะที่กองสะสมเป็นภูเขากว่า 1 ล้านตัน เป็นความเจ็บปวดของประชาชน ซึ่ง อบจ.เพียงหน่วยเดียวไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากระดับชาติ การจัดการขยะต้องเริ่มจากต้นทางด้วยการคัดแยก โดย อบจ.จะเข้ามาเติมเต็มระบบการจัดการ พร้อมนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย และวางแผนสร้างโรงกำจัดขยะเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 แห่ง เพื่อแก้ปัญหา
เสกสรรค์ ปี่เงิน
เสกสรรค์ ปี่เงิน
นายประเสริฐ ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบายด้านสาธารณสุขและการรับโอน รพ.สต. โดยมองว่า การรับโอนหน่วยงานดังกล่าวไม่มีประโยชน์ หากรัฐบาลมีระบบที่ดี ประชาชนจะไม่ต้องรอคิวนานเมื่อไปโรงพยาบาล ปัจจุบันระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีอยู่แล้ว เช่น บัตรทอง 30 บาท สิ่งที่นายก อบจ.สามารถทำได้คือ เติมเต็มในจุดที่ขาดตกบกพร่อง และผลักดันให้งบประมาณเพียงพอสำหรับโครงการด้านสุขภาพ เพื่อยกระดับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่
ในคำถามที่ว่า หากได้รับเลือกตั้ง นโยบายแรกที่จะเร่งดำเนินการคืออะไร นายเสกสรรค์ ระบุว่า จะเร่งผลักดันเศรษฐกิจด้วยนโยบาย "1 อำเภอ 1 ตลาดขายฟรี" เพื่อให้ประชาชนขายสินค้าโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อบจ.จะจัดหาสถานที่พร้อมกิจกรรมเสริม เช่น การแสดงดนตรี เพื่อกระตุ้นการค้าขาย โดยใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า
นอกจากนี้ เวทีดีเบตยังได้หยิบยกประเด็นเกี่ยวกับอุบัติภัยจากโรงงานสารเคมีใน จ.สมุทรปราการ ที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เช่น การระเบิด ไฟไหม้ หรือการปิดกิจการ และถามว่าผู้สมัครจะมีแนวทางจัดการอย่างไร
นายนพดล เสนอให้ตั้งศูนย์บริหารความปลอดภัยร่วมกับอาสากู้ภัย พร้อมสนับสนุน "ธนาคารอุปกรณ์" เพื่อเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ส่วนนายประเสริฐ เห็นว่าหากมีโรงงานลักษณะนี้มาตั้งใหม่ ต้องผ่านการพิจารณาและควบคุมอย่างเข้มงวด เนื่องจากโรงงานเก่าถูกปิดไปแล้ว
ด้านนายเสกสรรค์ ระบุว่า เรื่องสารเคมีโรงงานอุตสาหกรรมต้องใช้ผังเมืองเข้ามากำหนดกรอบ นำโรงงานเหล่านี้มาจากเขตโซนนิ่ง แล้วออกกฎหมายท้องถิ่น อบจ.เพื่อให้ควบคุมโรงงาน และปัญหาจะไม่เกิดสารเคมีรั่วไหลหรือกลิ่นเหม็น
สำหรับเวที "บิ๊ก ดีเบต" ปิดท้ายเวลา 20.04 น. โดยทีมจัดงานเชิญชวนประชาชนร่วมใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
อ่านข่าว : สหรัฐฯตัดงบฯช่วยเหลือ 7 รพ.พื้นที่พักพิงฯ ชายแดนไทย-เมียนมา ปิดตัว
คุม 3 ผู้ต้องหาแก๊งนางนกต่อ ทำร้าย 2 หนุ่มปมให้ข้อมูลยาเสพติด