วันนี้ (29 ม.ค.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทั่วประเทศร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์
นายอนุทิน กล่าวก่อนการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม, นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
รมว.มหาดไทย กล่าวอีกว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง 17 จังหวัดภาคเหนือเป็นพื้นที่ที่มีจุดความร้อนมากที่สุด มีการเผาในที่โล่งแจ้ง เผาวัชพืชและผลผลิตทางการเกษตร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศพื้นที่ห้ามเผาและยกระดับดำเนินการทุกมาตรการอย่างเข้มข้น โดยใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จเพื่อแก้ปัญหา
นอกจากนี้ยังใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภัยแห่งชาติ เพื่อบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานเป็นตัวแทนรัฐบาลทำงานร่วมกัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ขณะที่ประเทศไทยประสบภัยพิบัติมาตลอด ต้นปีภาคเหนือ ไตรมาส 3 ภาคกลางและไตรมาส 4 ภาคใต้ ซึ่งมีการใช้เงินเกือบ 20,000 ล้านบาท เป็นค่าชดเชยทดแทนความเดือดร้อน หลังคาเรือนละ 9,000 บาท
เหตุการณ์ลักษณะนี้ใกล้เคียงกัน น้ำลดหรือเพิ่มเกิน 3 วันชาวบ้านได้เงิน แต่กรณีหมอกควันยังไม่เกิดจะเอาเงินให้ชาวบ้านก่อนไม่ได้ ต้องเกิดการเผา เกิดมลพิษควันดำก่อน กว่าจะเอาเงินออกมาได้ ความเสียหาย ค่ามลพิษต้องเกิน 150 ไมโครกรัม หากไปถึงจุดนั้นประเทศไทยมืดมิดไปทั้งประเทศถึงจะนำเงินไปใช้ได้
ดังนั้น จึงขอข้อแนะนำ ระดมความคิดและการสนับสนุนของแต่ละจังหวัด ในการผลักดันให้มีงบประมาณช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อให้หยุดเผา แม้ว่าจะดูเหมือนภัยพิบัติ แต่การช่วยเหลือแตกต่างกัน จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกันและบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่
นายอนุทิน ย้ำว่า มูลเหตุมาจากการเผา หากทำให้ประชาชนไม่เผา มลพิษก็จะเกิดขึ้นน้อย จึงต้องจัดการในประเทศให้เรียบร้อย ก่อนจะไปดำเนินการกับประเทศเพื่อนบ้านกรณีเกิดมลพิษข้ามแดน
อ่านข่าว
รัฐบาลเพื่อไทย โปรยเงินฉุกเฉิน 620 ล้านสู้ฝุ่น ทส.ลั่นไม่เทงบทิ้ง
ค่าฝุ่น เช้า กทม.พื้นที่สีส้ม 7 เขต - ฝุ่นละอองแนวโน้มเพิ่มขึ้น