เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2568 บริษัท Nvidia เพิ่งถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนวงการ เมื่อหุ้นของบริษัทดิ่งลงกว่าร้อยละ 17 ส่งผลให้มูลค่าตลาดลดลงถึง 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 20 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นการสูญเสียมูลค่าทางตลาดในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
สาเหตุของการลดลงอย่างรุนแรงนี้เกิดจาก DeepSeek บริษัท AI สัญชาติจีน เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ใหม่ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งจากสหรัฐฯ หลายเท่าตัว นักลงทุนทั่วโลกเริ่มตั้งคำถามว่า Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีชิป AI จะยังคงครองความเป็นเจ้าตลาดต่อไปได้หรือไม่
DeepSeek เป็นบริษัทสตาร์ทอัปจากจีนที่เพิ่งก่อตั้งในปี 2565 และกำลังสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม AI ด้วยการเปิดตัวโมเดล AI รุ่นล่าสุดที่ใช้ ชิป H800 ของ Nvidia ซึ่งมีราคาถูกกว่า และสามารถแข่งขันกับโมเดลชั้นนำอย่าง ChatGPT ได้
สิ่งที่ทำให้ DeepSeek กลายเป็นภัยคุกคามต่อ Nvidia คือการที่บริษัทสามารถพัฒนาโมเดล AI ได้ภายในเวลาเพียง 2 เดือน และใช้ต้นทุนต่ำกว่า 6,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ Nvidia และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องใช้เงินลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของตน
หลังจากเปิดตัว โมเดล AI ของ DeepSeek ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็น แอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดบน iPhone ในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของ Nvidia ในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาด ทำให้หุ้นของบริษัทร่วงลงอย่างหนัก
6 ล้านเกิด 6 แสนล้านหาย
มูลค่าตลาดของ Nvidia ที่หายไปในวันเดียว คิดเป็นมูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 20 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากจนน่าตกใจ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น นี่คือ 10 สิ่งที่สามารถเปรียบเทียบได้กับเงินจำนวนนี้
1. GDP ของประเทศ
- 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยทั้งประเทศในปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับ GDP ของ สวีเดน และ เบลเยียม ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 22 และ 23 ของโลกตามลำดับ
2. งบประมาณด้านกลาโหมของสหรัฐฯ
งบกลาโหมของสหรัฐฯ ปี 2567 อยู่ที่ 886,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่าเงิน 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เกือบเทียบเท่ากับ 2 ใน 3 ของงบประมาณกองทัพอเมริกัน
3. มูลค่าบริษัทระดับโลก
- 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่ากับ มูลค่าตลาดของ Tesla
- 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่ามูลค่าของบริษัท Berkshire Hathaway ของ วอร์เรน บัฟเฟ็ต ที่มีมูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 20 ของ บริษัท Apple ที่มีมูลค่าตลาด 3ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
4. ผลิตภัณฑ์ระดับโลก
- สามารถซื้อรถ Tesla Model 3 ราคาเฉลี่ยคันละ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ ได้มากถึง 15 ล้านคัน
- สามารถซื้อ iPhone 15 Pro Max ราคาเฉลี่ยเครื่องละ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ ได้ 500 ล้านเครื่อง หรือให้ประชากรในสหรัฐฯ ที่มีประมาณ 330 ล้านคน คนละ 1 เครื่อง ยังเหลืออีก 170 ล้านเครื่อง
5. โครงการรถไฟความเร็วสูงของจีน
จีนใช้เงินสร้างโครงการ รถไฟความเร็วสูงที่ยาวที่สุดในโลก กว่า 40,000 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณราว 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่าเงิน 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถสร้างเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงได้ยาวกว่าโครงการของจีน
6. ตึกสูงที่สุดในโลก
ต้นทุนการก่อสร้าง Burj Khalifa (ตึกที่สูงที่สุดในโลก) อยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นั่นหมายความว่าเงินจำนวนนี้สามารถสร้าง Burj Khalifa ได้ถึง 400 ตึก
7. งบประมาณโครงการอวกาศ NASA
NASA มีงบประมาณปี 2567 อยู่ที่ 24,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายความว่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สามารถ สนับสนุน NASA ไปได้กว่า 24 ปี
8. ค่าใช้จ่ายในการสำรวจดาวอังคาร
ค่าใช้จ่ายของภารกิจ Mars Rover Perseverance อยู่ที่ 2,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเงิน 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสามารถ ส่งหุ่นยนต์สำรวจดาวอังคารได้กว่า 250 ลำ
9. ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐี
- อีลอน มัสก์ มีทรัพย์สินประมาณ 418,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น เงินจำนวน 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่ามี อีลอน มัสก์ 1 คนครึ่ง
- เจฟ เบโซ เจ้าของ Amazon มีทรัพย์สินประมาณ 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เงินจำนวน 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คือ มากกว่า 2.5 เท่าของ เจฟ เบโซ
10. มูลค่าธุรกิจระดับโลก
- อุตสาหกรรมเกมทั่วโลกรายได้ต่อปี อยู่ที่ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นเงินจำนวน 600,000ล้านดอลลาร์สหรัฐคิดเป็น 3 เท่าของอุตสาหกรรมเกมทั่วโลก
- ตลาดภาพยนตร์ฮอลลีวูดทำรายได้รวมต่อปี 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เงินจำนวน 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คือ 12 เท่าของอุตสาหกรรมหนังฮอลลีวูด
อ่านข่าวอื่น :
จากเด็กเนิร์ดสู่เจ้าพ่อ AI "เหลียง เหวินเฟิง" ผู้ก่อตั้ง DeepSeek
จีนเปิด AI ตัวใหม่ "DeepSeek" เขย่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ