วันนี้ (31 ม.ค.2568) กรณีอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 5342 ชนกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์คของกองทัพสหรัฐฯ กลางอากาศ ขณะที่เครื่องบินโดยสารกำลังลงจอดที่สนามบินโรนัลด์ เรแกน ใกล้กรุงวอชิงตัน ดีซี ทำให้เครื่องบินทั้ง 2 ลำร่วงลงสู่ แม่น้ำโปโตแมค เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ล่าสุด เจ้าหน้าที่พบกล่องดำแล้ว
อ่านข่าว : ยืนยัน 67 ชีวิตดับ โศกนาฏกรรมเครื่องบินสหรัฐฯ ชนกันกลางเวหา
ขณะนี้กล่องดำอยู่ที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเพื่อประเมินผล อุบัติเหตุครั้งนี้มีจำนวนผู้ที่อยู่บนเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมด 67 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 28 คน และยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจค้นหาร่างผู้สูญหายต่อเนื่อง
สหรัฐฯ สอบเหตุเครื่องบินชนเฮลิคอปเตอร์
ขณะที่หลังเกิดเหตุ U.S. Figure Skating ซึ่งเป็นองค์กรกำกับดูแลกีฬาสเก็ตลีลาของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีนักสเก็ตน้ำแข็งชาวอเมริกัน พร้อมครอบครัวและโค้ชรวมหลายคนโดยสารอยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าวด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางกลับจาก National Development Camp ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับการแข่งขันสเก็ตลีลาในศึกชิงแชมป์สเก็ตลีลาสหรัฐฯ ในรัฐแคนซัส
ขณะที่มีรายงานว่าบนเครื่องมี Yevgenia Shishkova และ Vadim Naumov คู่รักอดีตแชมป์โลกสเก็ตลีลาชาวรัสเซียโดยสารมาด้วย โดยโฆษกรัฐบาลรัสเซียออกมาแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นแล้ว
คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ซึ่งเป็นผู้นำในการสอบสวนครั้งนี้ เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานจะเปิดทางให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูก่อน ก่อนจะมีการเปิดสอบสาเหตุของการชนที่เกิดขึ้น โดยเป้าหมายของหน่วยงานคือการออกรายงานการเบื้องต้นเกี่ยวกับสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวภายใน 30 วัน
นอกจากนี้ยังระบุว่าทั้งทางหน่วยงานได้รับข้อมูลชุดใหญ่จากองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ แล้ว และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ พร้อมทั้งระบุว่าไม่มีข้อบ่งชี้ว่าสไลด์อพยพฉุกเฉินของเครื่องบินถูกใช้งาน เบื้องต้นจึงเชื่อว่าเป็นการปะทะที่เกิดขึ้้นเร็วและฉับพลันมาก
รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ระบุว่า ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ทำการบินตามปกติ และไม่ได้เกิดปัญหาการสื่อสารขัดข้องใด ๆ และคิดว่าเหตุการณ์นี้สามารถป้องกันได้ ซึ่งก่อนหน้านี้การสื่อสารทางวิทยุชี้ว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทาอากาศเตือนเฮลิคอปเตอร์เกี่ยวกับเครื่องบินโดยสารที่บินใกล้เข้ามาและเตือนให้เปลี่ยนทิศทางด้วย
ทรัมป์วิจารณ์โครงการเพื่อความหลากหลายหลังเกิดเหตุ
ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์ว่าการจ้างงานที่เน้นความหลากหลายของรัฐบาลกลางว่าเป็นความผิดพลาด และอาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์นี้ ซึ่งกล่าวถึงโครงการเพื่อความหลากหลาย เท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (DEI) ของรัฐบาลกลาง แต่คำกล่าวอ้างนี้ไม่ได้มีหลักฐานแต่อย่างใด
ทรัมป์ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศต้องมีจิตใจที่ฉลาดมาก ๆ และอย่างที่ทราบกันดีว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ โดยก่อนหน้านี้ทรัมป์กล่าวโทษรัฐบาลชุดก่อนว่าว่างจ้างคนพิการและมีปัญหาสุขภาพทางจิตมาเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ระบบติดตามของเฮลิคอปเตอร์ไม่ได้เปิดใช้งาน
ขณะที่ Geoffrey Thomas ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเที่ยวบินฝึกซ้อมไม่ได้เปิดระบบติดตามระบบติดตามสำคัญ (ADS-B (Automatic Dependent Surveillance–Broadcast)) ซึ่งเป็นสัญญาณที่ส่งไปยังศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศเพื่อติดตามเครื่องบิน และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบที่เรียกว่า TCAS ซึ่งเป็นระบบหลีกเลี่ยงการชนกันของเครื่องบินที่ติดตั้งในเครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินทหารทุกลำ ซึ่งหากเปิดเอาไว้ระบบนี้จะแจ้งเตือนให้เครื่องบินลำอื่นทราบหากจะเกิดเหตุชนกัน
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าเป็นไปได้มากทีเดียวที่การฝึกบินเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์คครั้งนี้เป็นการฝึกแบบลับสุดยอด โดยไม่มีระบบติดตามอิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ พร้อมทั้งระบุว่าหากจะมีการฝึกแบบนี้ควรฝึกนอกสนามบินที่ใช้งานอยู่ เช่น สนามบินแห่งชาติโรนัลด์ เรแกน
อ่านข่าว : รอยยิ้ม 5 แรงงานไทยคืนสู่อิสรภาพ-เตรียมกลับอ้อมกอดครอบครัว