ชาวเกาหลีใต้นำขนม ดอกไม้ ตุ๊กตา และกระดาษเขียนข้อความอาลัย ไปวางอยู่บริเวณรั้วด้านหน้าประตูโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ในนครแทจอน หลังเด็กนักเรียนหญิงวัย 7 ปี ถูกแทงและเสียชีวิตภายในโรงเรียน
เจ้าหน้าที่สำนักงานการศึกษานครแทจอน และตำรวจท้องถิ่น เปิดเผยว่า พบเด็กหญิงวัย 7 ขวบนอนอยู่ข้าง ๆ ครูในห้องโสตทัศนูปกรณ์ของโรงเรียน เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งครูวัย 40 ปี เป็นผู้ต้องสงสัยลงมือแทงเด็กหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิต
ก่อนหน้านี้ ครอบครัวและตำรวจได้ออกตามหาเด็กหญิงโดยรอบโรงเรียน หลังหายตัวไปเมื่อเวลา 17.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา กระทั่งยายของเด็กพบหลานสาวในจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 17.50 น. และเร่งนำตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากเสียเลือดมาก
ขณะที่ครูซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาลจากบาดแผลทำร้ายตัวเอง โดยให้การกับตำรวจหลังจากยอมรับว่าแทงเด็กนักเรียนหญิงที่ชั้น 2 ของโรงเรียน สาเหตุเนื่องจากความหงุดหงิด หลังจากกลับมาทำงานได้เพียง 3 วัน
ตำรวจเปิดเผยประวัติผู้ต้องสงสัย ว่า ได้รักษาภาวะซึมเศร้าตั้งแต่ปี 2561 และมีความคิดจะฆ่าตัวตายในขณะที่ลาป่วย 6 เดือน ซึ่งเริ่มเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ผ่านมา แต่กลับมาทำงานก่อนเวลา
ในวันที่เกิดเหตุ ผู้ต้องสงสัยได้ซื้ออาวุธก่อนกลับมาที่โรงเรียนเพื่อตามหาเป้าหมาย โดยครูคนดังกล่าวระบุกับตำรวจว่าเธอกำลังรอเด็ก ๆ ออกจากชั้นเรียนหลังเลิกเรียน โดยตั้งใจว่าจะฆ่าตัวตายพร้อมกับเด็ก ซึ่งเธอได้บอกกับเด็กนักเรียนคนสุดท้าย ว่า จะมอบหนังสือให้ และพานักเรียนไปที่ห้องโสตทัศนูปกรณ์ จากนั้นลงมือก่อเหตุกับเด็กคนดังกล่าว พร้อมทั้งแทงตัวเองด้วย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าก่อนหน้านี้ครูคนดังกล่าวได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวหลายครั้ง ขณะนี้ตำรวจได้ขอหมายศาลเพื่อควบคุมตัวครูไว้สอบปากคำ พร้อมทั้งค้นบ้านและรถเพื่อยึดโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนบันทึกข้อมูลของโรงพยาบาล และอื่น ๆ ไว้เป็นหลักฐาน