วันนี้ (12 ก.พ.2568) เวลา 09.15 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงกรณีทางการเมียนมาขอส่งผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกมาพักไว้ที่ไทย เพื่อตรวจสอบก่อนส่งกลับประเทศ ว่า ได้รับการประสานมาว่าวันนี้จะส่งคนเข้ามาอีก 53 คน จาก 8 ประเทศ เช่น เอธิโอเปีย ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ เคนยา โดยได้รับการติดต่อมาเนื่องจากเมียนมาดูแลไม่ไหว จึงปล่อยตัวออกมา
ขณะเดียวกันได้ประสานงานภายในกับเมียนมาว่าหากต้องการลดความกดดันในมาตรการตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต จะต้องทำให้ไทยเห็นว่าประเทศเมียนมาปลอดภัยจากเรื่องนี้
ตรงนี้เราก็มาถูกทางแล้ว การที่มาขู่จะตัดเส้นทางไม่ให้สินค้าเข้า ไม่ใช่ปัญหาของเรา เป็นปัญหาของเขา อันนั้นขู่เราไม่ได้
ส่วนกรณีที่ทางเมียนมาดูแลคนไม่ได้แล้วส่งมายังไทย จะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์ดูแลผู้อพยพแทนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองพูดชัดเจนแล้วว่าจะไม่ตั้งศูนย์อพยพ แต่จะส่งกลับประเทศต้นทาง โดยเมียนมาจะส่งรายชื่อและพาสปอร์ต ซึ่งนอกเหนือจากจีนแล้วยังมีประเทศอื่น ๆ ที่สถานทูตต่าง ๆ ติดต่อเพื่อให้ประสานช่วยเหลือ และดูแลคนของเขาเอง โดยบางส่วนญาติของผู้เสียหายจะติดต่อจ่ายเงินไถ่ตัว
อย่างไรก็ตาม ไทยจะตรวจสอบว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกมาจริง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซนเตอร์ จากนั้นจะส่งกลับประเทศต้นทาง ซึ่งต้องดูรายละเอียดจุดพัก และจุดเข้าจากชายแดนเมียนมา รวมทั้งผู้ที่ประสานเข้ามา คาดว่าใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 3 สัปดาห์ หรือไม่เกิน 1 เดือน
ส่วนแนวโน้มที่เมียนมาจะผลักดันคนกลับมาไทยจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตรงนี้พูดยาก ขณะนี้ทราบเพียงว่ามีกระบวนการนี้มาก แต่ได้เฝ้าระวังตามแนวชายแดนแล้ว ป้องกันการลักลอบเข้ามาไทย