วันนี้ (14 ก.พ.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการถูกตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังเกิดเหตุสภาล่ม มองว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ว่า ถ้าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง แล้วมาหาเรื่องกันในเรื่องส่วนตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ไม่มีความกังวลหรือเดือดร้อนใด ๆ เนื่องจากเป็นคนที่มีความระวังมากที่สุดอยู่แล้ว เวลาครอบครัวจะไปลงทุนอะไรดูหมด การซื้อที่ดินก็ซื้อโฉนดลูกเดียวไม่เคยมัดจำ เพราะกลัวหากมัดจำแล้วเจ้าของที่ดินจะไปถูกรถชนตาย แล้วจะไปเอาเงินที่ไหนคืน ฉะนั้นถ้าเราพร้อม เราก็ไปลงทุนตรงโน้น ตรงนี้ไม่มีปัญหา
พร้อมระบุว่า ที่ดินที่เขาพยายามจะเอามาเล่นกัน ก็ซื้อโฉนด สมมติถ้าออกโฉนดไม่ถูกก็ไม่ใช่ตนเป็นคนออก เปลี่ยนมือมา 6- 7 มือแล้ว หากออกโฉนดไม่ถูกก็ไปว่ากัน หากจะเพิกถอนก็ต้องจ่ายเงินให้ตนมาก็แค่นั้นเอง ก่อนถามว่า หากไม่ถูกตนก็ไม่อยู่หรอก
เมื่อถามว่า หากเป็นเรื่องการเมืองจะทำให้เกิดความบาดหมางกันหรือไม่ ในการร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ระบุว่า ถ้ามันทำกันขนาดนี้ ถ้าบอกขอบคุณนะก็คงไม่ใช่ ก็ลงบัญชีไว้ เมื่อถามว่าที่บอกว่า มีการลงบัญชีไว้ คือ การรอเอาคืนใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่รู้เมื่อไหร่ ดอกทบต้น ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าแล้วดอกเบี้ยแพงหรือไม่นายอนุทินถึงกับหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า เดี๋ยวนี้ดอกถูก
เมื่อถามต่อว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ น.ค.3 และสุจริตใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สุจริต คือไปซื้อจากชาวบ้าน เขามีโฉนด มีเอกสารสิทธิ์ และมีการไปโอนที่กรมที่ดิน เก็บค่าธรรมเนียมการโอน ออกโฉนด โดยต้องมีการพิมพ์ชื่อเจ้าของใหม่เข้าไป มีการประทับว่า ใครเป็นเจ้าพนักงานผู้โอนฉะนั้นเป็นการซื้อขายโดยบริสุทธิ์
ก่อนระบุว่าโฉนดใบนั้น มีคนบอกว่า 60 ปีที่แล้ว มีการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องไปตามกับคนที่ออกเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ถ้าตามได้แล้วเขาบอกว่าผิด กรมที่ดินก็ต้องจ่ายค่าเสียหายมาในราคาตลาด ถ้าหาราคาตลาดไม่ได้ก็ต้องใช้ราคาประเมิน เพราะเดี๋ยวนี้ที่ดินแถวนั้น ซื้อขายเปลี่ยนมือกันทุกวันอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้า ซึ่งมีช่วงหนึ่งระบุว่า "หน้าตัวเมีย" หมายถึงนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ได้แต่เพียงหัวเราะในลำคอ หึหึ แต่ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด

แผนที่การเอกสารสิทธิทับที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 40,000 ไร่ ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
แผนที่การเอกสารสิทธิทับที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 40,000 ไร่ ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ขณะเดียวกันนายอนุทินยังยอมรับว่า นายกฯ ได้สอบถามถึงกรณีปัญหาที่ดินดังกล่าว ซึ่งตนได้อธิบายไปทั้งหมดแล้ว
ส่วนจะต้องเคลียร์ใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่รู้ใครทำ ไปถามใครก็ไม่มีใครรับหรอก
เมื่อถามว่าแม้ว่าจะยืนยันว่า การได้มาซึ่งที่ดินนั้นถูกต้องแต่ก็มีคนพยายามจะนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็น นายอนุทิน ระบุว่า มันเป็นตั้งแต่สมัยที่บิดาของตนเป็น รมว.มหาดไทย แล้ว ซึ่งมีคณะกรรมาธิการไปตรวจหมดแล้ว ไม่รู้กี่รอบ พอมาเป็นรัฐบาลเมื่อใดก็มีคนไปตรวจทุกครั้ง
เมื่อถามว่า บุคคลที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ดูเหมือนว่า จะทำงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า ทำไมถึงมาเปิดตอนนี้ อย่างที่บอกไม่เป็นไรหากเปิดมาแล้วก็ทำให้จบ คนที่เพิกถอน คือ กรมที่ดิน คิดว่าคงไม่มีใครมากลั่นแกล้งตนในกระทรวงมหาดไทย ส่วนอยากจะฝากอะไรไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่าทำไมต้องบอก

ส่วนกรณีที่นายธนดล ต้องการให้กรมที่ดินลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกันนั้น จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า จะสั่งลอย ๆ อย่างนี้ไม่ได้หรอก ต้องทำให้เป็นทางการ อยู่ดี ๆ จะไปสั่งผ่านทีวีไม่ได้ ต้องทำเรื่องมา ก่อนเปิดเผยว่าอธิบดีกรมที่ดินกำลังรอตนอยู่ เพราะคนเพิกถอน คือ คนที่ออกโฉนด โอนโฉนด ตีความโฉนด คือกรมที่ดิน ซึ่งกรมที่ดินจะต้องออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนด้วย ขนาดรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ยังโดนแบบนี้ ประชาชนทั่วไปคนธรรมดา จะไปสู้กับเขาได้อย่างไร
นี่คือสิ่งที่ตนเคยให้นโยบายกับกรมที่ดินเอาไว้ว่า ต่อไปนี้หากโฉนดใครผิดหรือถูก หากออกโดยกรมที่ดินหรือคู่กรณีคือ กรมที่ดิน ถ้าใครจะสู้ก็ต้องสู้กับกรมที่ดินเพราะคนที่ถือสิทธิ์เขาเสียค่าธรรมเนียมไปแล้ว เมื่อเก็บค่าธรรมเนียมไปแล้วก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของเขา
เมื่อถามย้ำว่า เป็นใบสั่งทางการเมือง 100 % ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า 500 ล้าน % ไม่ใช่แค่ 100 %
เมื่อถามต่อว่า เห็นว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีผู้ครอบครองหลายคน นายอนุทินกล่าวว่า ก็ว่ากันไป
ถ้าเกิดใครไปได้ที่ดินมาโดยที่ไม่มีโฉนดแล้วไปออกโฉนดหลังได้ที่ดินเมื่อปีที่แล้วอันนี้สิถึงเข้าข่ายขี้โกง แต่ถ้าไปซื้อโฉนดจากตาสีตายตามียายมา เขามีโฉนดอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ที่ซื้อบิดามารดาเขาตายหมดแล้ว ลูกหลานขายแบ่งเงินกัน
เมื่อถามต่อว่า ที่ดินดังกล่าวเหมือนจะมีกลุ่มโบนันซ่าอยู่ด้วย จะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครจะตรวจสอบก็ต้องไปตั้งเรื่องมา จึงจะมีการตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เพราะตนไม่ให้มีการปักธง ไม่มีบอกว่าต้องเอาตรงนี้ให้ได้มีแต่ความยุติธรรม แต่ต้องปกป้องผู้ที่ซื้อมาโดยสุจริต

เมื่อถามว่า รู้สึกเหมือนว่า ขณะนี้มีขบวนการลดอำนาจต่อรองของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยต่อรอง เมื่อถามอีกว่า มีการไปยื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบที่มา สว.ในข้อหาอั้งยี่ รวมถึงนายอนุทินมาถูกตรวจสอบเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟของครอบครัวในช่วงนี้
นายอนุทิน กล่าวว่า การไปตั้งข้อหาตรงนั้นไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง เมื่อถามย้ำว่า มีการมองว่า สว.เป็นเครือข่ายสีน้ำเงิน จึงต้องการลดอำนาจต่อรองลง นายอนุทิน กล่าวว่า ใครทำอะไรก็ต้องรับจากผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยไม่หมูใช่หรือไม่ อนุทินยิ้มและตอบว่า “ภูมิใจไทย หนู” พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนไม่อึดอัดเพราะทำงานกับนายกฯ และให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรีทั้งหลาย ไม่ได้ไปเป็นลูกน้องเขา แต่เป็นลูกน้องนายกฯ ในความเป็นรัฐบาล
กรมที่ดิน ชี้แจงกรณี ออก "น.ค.3"
นอกจากนี้ วันนี้ (14 ก.พ.2568) กรมที่ดินยังออกเอกสารให้ความกระจ่าง หัวข้อ "ที่ดินที่เป็น น.ค.3 สามารถออกเป็นโฉนดที่ดินได้หรือไม่" โดยมีเนื้อหา ดังนี้
น.ค.3 เป็นเอกสารที่ออกสืบเนื่องจาก น.ค.1 ซึ่งเป็นหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชนในเขตนิคมสร้างตนเอง โดยกรมประชาสงเคราะห์ (ปัจจุบันกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ) จะเป็นผู้ออกให้กับบุคคลที่ได้รับการคัดเลือก ให้เป็นสมาชิกนิคมตาม ม.11 แห่ง พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511
ต่อมาเมื่อสมาชิกของนิคมฯได้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับอนุญาตเกินกว่า 5 ปี ได้ชำระเงินช่วยทุนที่รัฐบาลได้ลงไปแล้ว และชำระหนี้สินเกี่ยวกับกิจการนิคมให้ทางราชการแล้ว ก็จะได้รับหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.3) เป็นหลักฐานสมาชิกนิคมสร้างตนเองที่ได้รับหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.3) มาตรา 11 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 บัญญัติให้สามารถนำหลักฐานดังกล่าวขอโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินได้

ถ้าเป็นการขอออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายตามมาตรา 59 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จะต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา หรือสำนักงานที่ดินส่วนแยกที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ในเขตอำนาจ
ถ้าเป็นการออกโฉนดที่ดินโดยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (1) แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดำเนินการเดินสำรวจรังวัดออกโฉนดที่ดินในเขตนิคมสร้างตนเอง และได้เข้าไปทำการสำรวจรังวัดถึงที่ดินของผู้ใด หากผู้นั้นมีหลักฐาน น.ค.3 ก็สามารถนำ น.ค.3 เป็นหลักฐานในการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินได้
โฉนดที่ดินที่ได้ออกจากหลักฐาน น.ค.3 จะถูกกำหนดห้ามโอน 5 ปี นับแต่วันที่ได้รับโฉนดที่ดิน เว้นแต่ทอดทางมรดก และในกำหนดเวลาห้ามโอนนี้ที่ดินไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดี ทั้งนี้ ตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 ทั้งนี้ การออกโฉนดที่ดินในเขตนิคมสร้างตนเอง ผู้ปกครองนิคมต้องร่วมพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ด้วย
อ่านข่าว : เล่นนอกเกม! "อนุทิน" โต้ปมสนามกอล์ฟทับที่ดินส.ป.ก.4 หมื่นไร่
"เพื่อไทย" รับทำสภาล่ม หวังรักษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
"อนุทิน" ย้ำจุดยืนไม่แก้ รธน. ชี้เสี่ยงผิดกฎหมาย