วันนี้ (1 มี.ค.2568) เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV พร้อมระบบ AI เพิ่มเติมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เพื่อตรวจจับรถสาธารณะ รถสามล้อและรถแท็กซี่ที่จอดกีดขวางการจราจร บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าในย่านถนนราชดำริ

ก่อนหน้านี้ กทม.ได้นำ AI มาทดลองใช้กับกล้อง CCTV เพื่อตรวจจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งพบว่าสามารถลดจำนวนผู้กระทำผิดลงได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานยืนยันว่า การติดตั้งกล้องเพิ่มเติมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการของ กทม. และไม่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีที่รัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม แม้จะปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ก็ถูกนำไปเชื่อมโยงการดูแลความปลอดภัย หลังจากการส่งตัวชาวอุยกูร์ไปจีนของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ คล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการโจมตีรุนแรงในอดีต เช่น เหตุระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม เมื่อปี 2558 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีน

ตรวจเข้มศาลท้าวมหาพรหม-ห้ามนักท่องเที่ยววางสัมภาระ
ส่วนบรรยากาศที่ศาลท้าวมหาพรหม หรือพระพรหมเอราวัณ บริเวณแยกราชประสงค์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมาก นอกจากจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมแล้วยังมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจตรา อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและห้ามนักท่องเที่ยววางสัมภาระ

ขณะเดียวกันมีตำรวจจาก สน.ลุมพินี ผลัดกันมาตรวจตราพื้นที่ รวมถึงขอความร่วมมือแม่ค้าโดยรอบให้ช่วยสำรวจ หากพบกระเป๋าต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีและห้ามรับฝากกระเป๋าโดยเด็ดขาด
อ่านข่าว
"สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น" เตือนความปลอดภัยพลเมือง ปมไทยส่งกลับอุยกูร์
OHCHR กังวลปมไทยส่ง 40 อุยกูร์กลับจีน ห่วงความปลอดภัย
"สุณัย" ตั้งคำถามรัฐบาลไทยเชื่อสัญญาปากเปล่า ส่ง 40 อุยกูร์ไปจีน