วันนี้ (3 มี.ค.2568) นายวิสุทธ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ระบุถึงกรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่ทราบว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุระเบียบวาระหรือไม่ โดยปกติเมื่อประธานสภาบรรจุระเบียบวาระแล้วก็จะเรียกวิปทั้ง 3 ฝ่ายมาพูดคุยกัน เพื่อกำหนดกรอบเวลา จึงต้องรอประธานสภานัดหมายมาอีกครั้ง
สำหรับการกำหนดวันอภิปรายคร่าว ๆ ตามที่ได้พูดคุยกัน 3 ฝ่าย คือประมาณวันที่ 24 มี.ค.นี้ แต่ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้มองว่าหากเป็นการอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว น่าจะใช้เวลาเพียง 1 วันก็เหมาะสม
โดยอ้างอิงการอภิปรายที่ผ่านมา ต้องใช้เวลา 3 วัน และไปลงมติในวันที่ 4 ซึ่ง เพราะอภิปรายรัฐมนตรีเป็น 10 คนขึ้นไป แต่ครั้งนี้ถ้าอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ดังนั้นวันเดียวก็น่าจะเพียงพอ ถ้าเริ่มประชุม 09.00 น.ก็น่าจะจบช่วงเที่ยงคืน
อ่านข่าว เช็กเสียงพรรคร่วม! พร้อมซัปพอร์ต "แพทองธาร" ศึกซักฟอก
นายวิสุทธ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล
นายวิสุทธ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล
ส่วนการที่ฝ่ายค้านเรียกร้องการอภิปราย 5 วัน มองว่า ตามกติกามารยาทควรจะเรียกมาหารือพร้อมกันก่อน และหากฝ่ายค้านต้องการจะอภิปรายถึง 5 วัน คงต้องรอให้ไปรัฐบาล หากจะอภิปราย 5 วัน หรือ 10 วันก็ทำได้ แต่เมื่อขณะนี้เป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยมองว่า 1 วันก็เพียงพอ
เชื่อมั่นนายกรัฐมนตรีในการชี้แจงต่อสภาฯ เพราะเติบโตมาในบ้านนักการเมือง มีความรู้ความสามารถเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ถือว่าเป็นคนเก่งคนหนึ่ง
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
องครักษ์พิทักษ์นายกฯ-ทักษิณ เข้าสภาไม่ได้
ส่วนกรณีการตั้งองครักษ์ในที่นี้น่าจะหมายถึงการมอบหมายให้มีผู้ชี้แจงแทน เพราะนายกรัฐมนตรี จะชี้แจงทุกเรื่องคงเป็นไปไม่ได้หากว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงใด ก็ให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแล แต่ละกระทรวงเป็นผู้ชี้แจง แต่ถ้าอภิปรายในกรอบ ก็เชื่อว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการประท้วง
ทั้งนี้มองว่าแม้นายกรัฐมนตรี จะไม่อยู่ในสภาในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เชื่อว่าจะติดตามรับฟัง การอภิปรายตลอดเวลา รวมทั้งมีผู้สรุปรายละเอียดในแต่ละกระทรวง ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงจะไม่ได้นั่งอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าว กฤษฎีกา ตีกลับกฎหมายกาสิโน-คปท.ล้อมทำเนียบ
นายทักษิณ ชินวัตร
นายทักษิณ ชินวัตร
ส่วนที่ว่านายทักษิณ ชินวัตร จะมาสภาด้วยหรือไม่ ตามข้อบังคับของรัฐธรรมนูญ ไม่อนุญาตให้อภิปรายคนภายนอก จะอภิปรายได้ ก็ต่อเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ไปอภิปรายคนที่อยู่นอกสภา
ใครที่คิดจะไปอภิปรายบุคคลภายนอก ขอย้ำว่าไม่มีในประวัติศาสตร์ และขอให้กลับไปอ่านข้อบังคับให้ดีก่อน
ส่วนที่ว่าญัตติมีการอ้างถึงนายทักษิณ เป็นพ่อของนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องที่ใครก็ทราบทั้งแผ่นดิน และทั่วโลกก็ทราบ เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดาหาก ว่าลูกจะไปถามความคิดเห็นจากผู้เป็นพ่อ หรือไปปรึกษาหารือต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะนายทักษิณ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และปัจจุบันยังเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ถือเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ
พ่อลูกปรึกษากันเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องก้าวก่ายการบริหารราชการแผ่นดิน
ท้าไม่ยุบสภา-หรือยุบพรรคฝ่ายค้านให้รอดู
ส่วนการอภิปรายรอบนี้ จะทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกันเองหรือไม่นั้น มองว่า วิธีการใช้บ่าง คงจะไม่บังเกิดผลในการอภิปรายครั้งนี้
ส่วนที่ฝ่ายค้านคาดการณ์ จะเกิดการยุบสภาหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้มองว่า เป็นการฝันกลางวันหรือไม่ พร้อมเตือนให้ระวังว่า จะยุบสภาหรือจะยุบพรรคฝ่ายค้านขอให้รอดูกัน
ประธานวิปรัฐบาลยังย้ำว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะไม่ส่งผลสะเทือนไปถึงเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะการอภิปรายทุกครั้ง ไม่มีใครได้คะแนน 100% แต่ก็มั่นใจพรรคร่วมรัฐบาลว่า จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันอาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้าง ถือเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย
ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังการอภิปรายจะเกิดขึ้นหรือไม่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติไม่ขอออกความคิดเห็นก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีในฐานะฝ่ายบริหาร
เชื่อมั่นว่าการบริหารงานของรัฐบาล ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น เช่น ผู้ปลูกยางพารา แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องราคาข้าว แต่ว่าปัญหามีไว้แก้ไข และรัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆได้
อ่านข่าวอื่นๆ
"เฉลิมชัย" สั่งสอบที่ดินคทช. 7.2 ล้านไร่ปมทุนจีนปลูกทุเรียน