ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จเรตำรวจเผยยังมีคนไทยนับพัน อยู่ในแก๊งคอลเซนเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน

อาชญากรรม
5 มี.ค. 68
13:10
98
Logo Thai PBS
จเรตำรวจเผยยังมีคนไทยนับพัน อยู่ในแก๊งคอลเซนเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน
จเรตำรวจแห่งชาติ เชื่อยังมีคนไทย ร่วมกลุ่มคอลเซนเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านอีกกว่า 1,000 คน เร่งประสานทางการกวาดล้าง ยอมรับมีช่องโหว่ในกระบวนการคัดกรอง ทำให้ต้องปรับการทำงาน

วันนี้ (5 มี.ค.2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงความคืบหน้าผลการสอบสวนคนไทย 119 คน ที่ถูกจับในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชาและส่งกลับมาดำเนินคดีในไทย โดยมีผู้ถูกที่ตกเป็นผู้ต้องหา 100 คน

พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ขบวนการคอลเซนเตอร์กลุ่มดังกล่าว ใช้วิธีการหลอกลวงหลายรูปแบบ ทั้งการเทรดหุ้น โรมานซ์สแกม เปิดเว็บพนันออนไลน์ รวมถึงหลอกเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ที่ดิน โดยจากผู้ถูกส่งกลับจำนวน 119 คน ถูกดำเนินคดีแล้ว 100 คน ส่วนอีก 15 คน ที่ไม่ถูกออกหมายจับอยู่ระหว่างการขยายผลถึงพยานหลักฐานเพิ่มเติม

เบื้องต้นพบว่า ไปทำงานเกี่ยวกับพนันออนไลน์ แต่อีก 4 คน ที่เป็นเยาวชนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเช่นกัน ส่วนการดำเนินการขยายผลหาตัวผู้บริหารชาวจีน พบพฤติกรรมว่า ชาวจีนทั้ง 3 คน ที่มีหน้าที่สั่งการและกำหนดการจ่ายเงิน รวมถึงกำกับดูแลขบวนการคอลเซนเตอร์

เบื้องต้นได้มีการสเก็ตช์ภาพจากคำให้การของผู้ต้องหา จนสามารถออกหมายจับได้ 2 คน ส่วนอีก 1 คน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับ โดยหลังจากนี้จะร่วมมือกับทางการจีนทำการขยายผลว่าบุคคลทั้ง 3 คนเป็นใคร แต่เบื้องต้นยังไม่พบประวัติหรือหมายจับของตำรวจสากลแต่อย่างใด

อ่านข่าว : เร่งสอบปมเพจดังชี้ "คนไทย" ตกตึกชั้น 18 ในปอยเปต 

ขณะเดียวกันจเรตำรวจแห่งชาติ ยังยอมรับ ว่ากระบวนการคัดกรองตามกลไก NRM ยากที่จะพิสูจน์ทราบว่า กลุ่มบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือหรือจับกุมได้เป็นเหยื่อที่แท้จริงหรือไม่ ทำให้ที่ผ่านมาไม่มีใครถูกดำเนินคดีจึงทำให้คนไทยที่มีพฤติกรรมไปหลอกคนไทยด้วยกันเอง ใช้เป็นช่องทางในการกลับไปกระทำผิดซ้ำ

แต่กระบวนการคัดกรองในครั้งนี้ ได้เพิ่มมิติโดยให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าไปช่วยในการสืบสวนและตรวจสอบด้านเทคโนโลยี รวมทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 100 นาย ทำให้มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานที่สามารถเอาผิดคนไทยที่กระทำผิดได้

เชื่อว่ายังมีคนไทยอีกนับ 1,000 คนที่ร่วมอยู่ในขบวนการคอลเซนเตอร์เพื่อหลอกคนไทยด้วยกัน

หลังจากนี้ทางการไทยได้ร่วมกับทางการกัมพูชา กำหนดยุทธศาสตร์ที่จะปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยทั้ง 2 ประเทศจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันถึงที่ตั้งของกลุ่มคอลเซนเตอร์ และทางการไทยจะมีการขอให้ส่งตัวคนไทยทั้งหมดมาลงโทษในประเทศไทย

เนื่องจากบทลงโทษที่กัมพูชาเป็นโทษเบา เพราะเป็นเรื่องของการเข้าเมืองผิดกฎหมายและการทำงานแบบผิดกฎหมาย แต่เมื่อดำเนินคดีในประเทศไทย จะมีโทษหนักจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี หรือมากกว่านั้น เพราะขบวนการคอลเซนเตอร์จะไม่หลอกลวงคนกัมพูชา แต่จะหลอกลวงคนไทย

อ่านข่าว : ค้นรังบัญชีม้า! เปิดห้องพักโรงแรมฝั่งสระแก้วร่วมแก๊งคอลเซนเตอร์ 

สำหรับ ปฏิบัติการปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์ในฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา รวมถึงมาตรการตัดไฟ อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ตั้งแต่เดือน ม.ค.ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้สถิติการปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์ลดลงถึงร้อยละ 30 จากกว่า 30,000 คดี คงเหลือประมาณ 21,000 คดี

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกลุ่มที่เป็นเหยื่อขบวนการคอลเซนเตอร์ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. - 26 ก.พ. พบว่า การเดินทางไปฝั่งเมียวดีของชาวต่างชาติไม่มีการใช้กำลังประทุษร้าย และทุกคน สมัครใจในการเดินทางไปทำงานเอง

การเดินทางไปทำงานยังกลุ่มขบวนการคอลเซนเตอร์ไม่ได้ใช้ช่องทางผ่านประเทศไทยเพียงช่องทางเดียว แต่ยังมีอีก 2 ช่องทาง คือ บินตรงไปยังเมืองย่างกุ้ง และ ผ่านมณฑลคุนหมิงของประเทศจีนและเข้ามาทางตอนเหนือของประเทศเมียนมา

อ่านข่าว : "กัมพูชา" ส่งกลับ "119 คนไทย" หลังทลายตึกคอลเซนเตอร์ 

คุมตัวฝากขัง 93 ชาวไทยร่วมแก๊งคอลเซนเตอร์กัมพูชา 

"แพทองธาร" ลุยสระแก้ว ก่อนกัมพูชาปล่อยตัว 119 คนไทย 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง