ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"สุทธิศักดิ์" แนะใช้ “นิติวิศวกรรม” สืบสวนสะพานถล่ม ถ.พระราม 2

อาชญากรรม
15 มี.ค. 68
18:06
181
Logo Thai PBS
"สุทธิศักดิ์" แนะใช้ “นิติวิศวกรรม” สืบสวนสะพานถล่ม ถ.พระราม 2
ผู้เชี่ยวชาญปฐพีฯ ชี้เหตุสะพานพระราม 2 ถล่ม "ดินอ่อน-ดินแข็ง" พังได้หมด คำนวณน้ำหนักต้องแม่นยำ แนะใช้ "นิติวิศวกรรม" สืบสวนพิบัติวิศวกรรมในไทย เพื่อความเป็นอิสระในกระบวนทางกฎหมาย

วันนี้ (15 มี.ค.2568) รศ.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ หน.ศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิบายถึงลักษณะการเปลี่ยนแปลงสภาพดิน ว่า มีผลทำให้คานเหล็ก หรือนั่งร้านถนนพระราม 2 พังถล่มลงมาได้เช่นกัน

โดยปกติแล้วการก่อสร้างด้านบน ต้องมีนั่งร้านไปรับน้ำหนัก เพราะคอนกรีตยังรับน้ำหนักตัวเองไม่ได้ แต่นั่งร้านก็ต้องมีฐานรากอยู่ข้างล่าง ดังนั้นวิศวกรต้องคำนวณความปลอดภัย น้ำหนักคอนกรีต นั่งร้าน และฐานราก ที่ถ่ายเทลงมายังดินว่าหนักเท่าไหร่ จำเป็นต้องทำฐานรากอย่างไรให้เหมาะสม

ในการก่อสร้างบางกรณีที่นั่งร้านวางอยู่บนดิน หรือมีแผ่นเหล็ก แต่หากฝนตกก็เป็นปัจจัยทำให้ดินนิ่มลง อาจจะรับน้ำหนักได้ แต่ทรุดตัว หรืออาจรับน้ำหนักไม่ได้ ซึ่งการทรุดตัวเล็กน้อยของดิน ก็สามารถทำให้นั่งร้านพังถล่มลงมาได้

รศ.สุทธิศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่สิ่งที่วิศวกรคาดไปไม่ถึง เพราะเป็นหน้าที่ของวิศวกรอยู่แล้วในการคาดการณ์ วิเคราะห์ออกแบบ ทั้งในกรณีที่แย่ที่สุด เพื่อเอามาใช้ทำโครงสร้าง

เมื่อถามว่าการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ดินอ่อน และดินแข็ง ดินประเภทใดมีโอกาสพังถล่มลงมาได้ง่ายกว่ากัน รศ.สุทธิศักดิ์ ย้ำว่า ดินอ่อนก็มีความแข็งแรงได้ แต่ต้องเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ในการก่อสร้าง

ก่อสร้างบนดินแข็งอย่างขอนแก่น กับดินอ่อน พระราม 2 มีโอกาสพังได้เหมือนกันหมด หากคำนวณไม่ดี แม้ขอนแก่นจะเป็นดินแข็ง แต่คำนวณผิดพลาดก็พังได้

ขณะที่ปัญหาฝนตกมีปัจจัยเปลี่ยนสภาพความแข็งแรงไปตามความชื่นหรือไม่ รศ.สุทธิศักดิ์ ระบุว่า ปกติดินฐานราก ไม่ได้ใช้ดินธรรมชาติทั้งหมด มีการปรับหน้าดินและถมบดอัดให้แน่นขึ้น แล้วค่อยวางแผนเหล็กโครงสร้างนั่งร้านต่าง ๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร วิศวกรต้องคำนวณน้ำหนัก ใช้กำลังและน้ำหนักที่แย่ที่สุด ต้องพิจารณาถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่น้ำหนักที่น้อยที่สุด ถ้าทำไม่ได้ต้องหลีกเลี่ยงหาวิธีไม่ให้น้ำลงตรงนี้ หาทางระบายน้ำไปทางอื่น

กรณีนี้ใช้คำว่า “สุดวิสัยได้” ได้หรือไม่ รศ.สุทธิศักดิ์ มองว่า สาเหตุสุดวิสัยต้องเป็นเหตุการณ์คาดไม่ถึง เช่น แผ่นดินไหว รถบรรทุกวิ่งมาชนนั่งร้าน แต่หากฝนตกในฤดูแล้ง ถ้ามีฝนไม่น่าจะใช่สุดวิสัย เพราะว่าฝนตกเมื่อใดก็ได้ ดังนั้นคำว่าสุดวิสัยที่ วสท.ชี้แจงอาจจะมีสาเหตุมาจากอย่างอื่นจากนี้ก็ได้

แนะรื้อระบบใช้ “นิติวิศวกรรม” สืบสวนพิบัติทางวิศวกรรม

รศ.สุทธิศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อมีเหตุการณ์พิบัติคล้ายกรณีพระราม 2 ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ ก็อาจจะทำหนังสือเชิญให้สมาคมวิชาชีพฯ หรือสภาวิชาชีพด้านวิศวกรรม หรือมหาวิทยาลัย เข้าไปช่วยตรวจสอบ

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ผลการตรวจสอบก็จะออกมากว้าง ๆ พูดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ เพราะสมาคมฯ เข้าไปในลักษณะ "อาสาสมัคร" ไม่ได้มีค่าตอบเเทน ไม่ได้มีหน้าที่สืบสวนตามกฎหมายตั้งเเต่ต้นทาง เมื่อเข้ากระบวนการตามกฎหมาย ก็เป็นความเห็นหนึ่งที่อาจจะนำไปใช้อย่างจริงจัง อาจจะมีการขอให้เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ เกิดความลำบากใจกับอาสาสมัครว่าจะเอาตัวมารับทำไม และมีโอกาสถูกฟ้องกลับได้ง่าย ๆ การพุ่งเป้าให้ชี้ชัดหรือกล่าวโทษไปถึงใครก็เป็นไปได้ยาก มากกว่านั้นอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจจะไม่ได้มาในรูปเเบบของเงิน เเต่อาจเป็นในรูปเเบบของบารมี ความเกรงใจกันในอนาคต

ไม่ใช่ว่าท่านที่เป็นอาสาสมัครเเล้วเป็นอย่างที่กล่าวไปเสียทั้งหมด บ้างท่านจริงจัง ชัดเจน เเละเต็มที่โดยไม่ได้มีผลตอบเเทนหรือผลประโยชน์ทับซ้อนอะไร

รศ.สุทธิศักดิ์ ยกตัวอย่างกรณีต่างประเทศ เมื่อเกิดเหตุแล้วเจ้าของงานจะตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วยหลายฝ่าย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่เชิญมาในนามบุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งมีการคัดสรรที่ชัดเจน ตรวจสอบผลประโยชน์ทับซ้อน มีความคุ้มครองตามกฎหมาย มีการเซ็นสัญญาจ้าง ขอบเขตความรับผิดชอบ เเละการรักษาความลับอย่างชัดเจน

จากนั้นกรรมการชุดนี้ จะต้องปฏิบัติงานเเละชี้ถึงสาเหตุ ผู้รับผิดชอบ ให้ชัดเจน โดยต้องมีกระบวนการนิติวิศวกรรมอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะได้ผลลัพท์ที่ชัดเจนและมีผู้รับผิดเละรับชอบกับความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา

ส่วนรูปแบบที่ 2 ใช้ในญี่ปุ่นเเละในหลายประเทศ คือ เมื่อเริ่มโครงการแล้ว เจ้าของงานจะตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ 1 ชุด เป็นอิสระ (Independent) มีขอบเขต สัญญา ความรับผิดชอบ เเละค่าตอบเเทนชัดเจนเช่นเดียวกับเเบบที่ 1 ซึ่งคณะนี้ไม่ใช่ Consult การก่อสร้าง เป็นคนละหน้าที่กัน

เเต่จะมีหน้าที่ติดตามกระบวนการต่าง ๆ ตั้งเเต่สำรวจ ออกเเบบ เเละก่อสร้าง มีสิทธิในการขอเรียกดูข้อมูล ท้วงติง เเนะนำในทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เเละเมื่อเกิดเหตุ คณะผู้เชี่ยวชาญนี้ก็จะเจ้าไปสอบสวนทันที การสอบสวนก็จะมีประสิทธิภาพ เพราะติดตามข้อมูลมาโดยตลอด สามารถให้ความคิดเห็นได้ตรงไปตรงมาเเละน่าจะใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด

ด้วยระบบดังกล่าวใช้กันในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ มีหน่วยงาน บริษัท หรือบุคคลที่ทำงานด้านนิติวิศวกรรมโดยตรง รับจ้างตรวจสอบทั้งในรูปเเบบที่ 1 เเละ 2 มีผลงาน เครื่องมือ ประสบการณ์ มีความรู้เชี่ยวชาญทั้งทางวิศวกรรมเเละกฎหมาย ที่จะทำให้การสืบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านข่าว : ยุติค้นหา 2 ผู้สูญหาย เหตุคานเหล็กสะพานพระราม 2 ถล่ม 

แนะใช้ ถ.สุขสวัสดิ์ หรือกาญจนาภิเษกแทน เลี่ยงเส้นทางคานเหล็กถล่มพระราม 2 

เปิด 3 ข้อสันนิษฐาน คานเหล็กสะพานถนนพระราม2 ถล่ม 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง