กรณีสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบนาย อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ไปช่วยราชการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปมเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท เมดิคอล แอนด์ ฟู๊ด แลบหรือไม่
หลายคนอาจสงสัยว่าบริษัท เมดิคัล แอนด์ ฟู๊ด แลบ ที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนเป็นใครมาจากไหน ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เมดิคัล แอนด์ ฟู๊ด แลบจดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2535 มีกรรมการ 4 คนคือ น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง นายรชต พุ่มพันธุ์ม่วง นายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และนางวรรณา ชัยวรานุรักษ์ โดยนางสาวชมกมล และนายรชต ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายของนายสมยศ ทุนจดทะเบียน 390 ล้านบาท
โดยบริษัทนี้จดทะเบียนครั้งแรกชื่อ บริษัท เอส.เอส.ซี เปโตร ดีเวลลอปเมนท์ และเปลี่ยนชื่อครั้งที่ 2 เป็นบริษัท ปิกนิก อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด เมื่อ 9 มี.ค.2549 ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น เมดิคัล แอนด์ ฟู๊ด แลบ
ส่วนผู้ถือหุ้น มี 3 คน มีลูกสาวและลูกชาย นายสมยศเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมี พ.ต.อ.หญิงสุภาพร วสนาท ถือ 1 หุ้น มูลค่าหุ้น 10 บาท งบการเงิน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2566 มีรายได้กว่า 8 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิกว่า 7 ล้านบาท
นายมณฑล ปริวัฒน์ นายกสมาคมผู้ประกอบการการส่งออกทุเรียน มังคุดระบุว่า บริษัทดังกล่าว เริ่มเก็บตัวอย่างทุเรียนจากผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนในภาคตะวันออกตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยจ่ายค่าดำเนินการขนส่งทุเรียนจำนวน 5 ลูก ให้บริษัทดังกล่าวในราคา 1,600 บาท ต่อ 1 ชิปเมนต์ เพื่อให้บริษัทนำไปส่งแลบ หากรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าใช้จ่ายต่อชิปเมนท์จะอยู่ที่ประมาณ 6,800 บาท แต่หากตัดค่าคนกลางไปได้จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการตรวจตัวอย่างลดลงเหลือประมาณ 5,200 บาท
ขณะที่ผู้ส่งออกทุเรียนบางรายให้ข้อมูลว่า บริษัทดังกล่าวเริ่มเก็บตัวอย่างทุเรียนไปส่งแลบตั้งแต่ฤดูกาลทุเรียนภาคใต้ เนื่องจากขณะนั้น ห้องปฎิบัติการที่เปิดรับในการตรวจยังมีน้อย โดยค่าขนส่งอยู่ที่ 1,900 บาทต่อชิปเมนท์ และเป็นเพียงเอกชนรายเดียว
ซึ่งเป็นการดำเนินการก่อนที่กรมวิชาการเกษตรจะออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอขึ้นทะเบียนเป็น ผู้สุ่มเก็บตัวอย่างสินค้าเกษตร โดยสมัครขึ้นทะเบียนผู้เก็บตัวอย่างสินค้าเกษตรที่จะมีการประกาศผลภายในสัปดาห์นี้ จึงอาจถูกมองได้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายใดหรือไม่
อ่านข่าว ขีดเส้น 30 วันปมบิ๊กวิชาการเกษตรเอื้อเอกชนตรวจ BY2 ทุเรียน
ทีมข่าวสอบถามไปยัง บริษัท เมดิคัล แอนด์ ฟู๊ด แลบ ผู้จัดการให้ข้อมูลว่า ขณะนี้บริษัทไม่ได้เก็บตัวอย่างทุเรียนเพื่อนำส่งแลบแล้ว แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้บริษัททำหน้าที่ขนส่งทุเรียนส่งแลบจากล้งในภาคใต้ และภาคตะวันออกเท่านั้นไม่ได้เป็นผู้ตรวจหาสารตกค้าง
เกษตรจ่อทบทวนแลบตรวจสารตกค้างทุเรียน
ขณะที่แหล่งข่าวจากกรมวิชาการเกษตร ระบุว่า การที่บริษัทดังกล่าว เข้ามาเป็นตัวกลางในการขนส่งตัวอย่าง เนื่องจากการประชุมร่วมกันระหว่างกรมวิชาการเกษตรและแลบ เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
มีการเสนอให้บริษัท เมดิคัล แอนด์ ฟู๊ด แลบ เป็นผู้ขนส่งตัวอย่าง เพื่ออำนวยความสะดวก เนื่องจากขณะนั้นจำนวนแลบที่เปิดรับยังมีน้อย แต่เมื่อผู้ส่งออกทักท้วง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีการทบทวน แต่จะมีการยกเลิกประกาศหรือไม่นั้นจะมีการพิจารณาต่อไป
สำหรับห้องปฎิบัติการที่สามารถทดสอบสาร แคดเมียมและ BY2 ในทุเรียนสดและทุเรียนแช่แข็งส่งออกสาธารณรัฐประชาชนจีนขณะนี้มีทั้งหมด 13 บริษัท สามารถรองรับการทดสอบกลุ่มตัวอย่างได้ 3,000 ตัวอย่างต่อวัน
อ่านข่าว
สั่งสอบ "อธิบดีกรมวิชาการเกษตร" ปมเอี่ยวรับเงินตรวจสาร BY2