เดินทางแนวนอนปลอดภัย “แผ่นดินไหวเกิดอีก” แต่ไม่ใช่ภัยพิบัติ

ระทึกทั่วไทย ในช่วงบ่ายวันที่ 28 มี.ค.2568 เวลา 13.20 น.เกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา รู้สึกได้ในประเทศ ข้อมูลจาก ศูนย์เตือนภับพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ระบุว่า แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 8.2 ความลึก 10 กม. เกิดบริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 326 กิโลเมตร

สำหรับเขตกทม. นอกจาก ตึกสูง อาคาร บ้านเรือนจะสั่นสะเทือนจนรับรู้ได้ พบว่ามีตึกสูงของอาคารที่ทำการ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ (สตง) สูง 30 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางย่านการค้าตลาดนัดจตุจักร ใกล้ MRT กำแพงเพชร ติดสถานี กลางบางซื่อ ตรงข้าม JJ MALL ซึ่งอยู่ระหว่างกำลังก่อสร้างอยู่บนที่ดินขนาดเกือบ 11 ไร่ มูลค่าก่อสร้าง 2,136 ล้านบาทถล่มลงมาด้วย

ไม่ใช่ครั้งแรกในกทม.ที่แผ่นดินไหว แต่ถือเป็นครั้งที่รุนแรงมากที่สุด และทุกคนรับรู้ได้ ผลของธรณีพิโรธ ทำให้พนักงานออฟฟิศที่ทำงานอยู่ในอาคารสูงย่านทองหล่อ จตุจักร บางซื่อ และอีกหลายพื้นที่ได้รับการแจ้งเตือนให้ออกจากตัวอาคาร ผู้คนที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าต่างพากันอพยพออกมาข้างนอกเพื่อตั้งหลัก

ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.7 เกิดจากรอยเลื่อนสะกายในประเทศเมียนมา รอยเลื่อนนี้เป็นรอยเลื่อนมีพลังที่เคยเกิดแผ่นดินไหวแรงระดับ 8.0 ในช่วงยุคสมัยรัชกาลที่ 3 ถือเป็นรอยเลื่อนที่น่าจับตามองและเฝ้าระวัง ซึ่งผู้ที่อาศัยในพื้นที่ภาคกลางจะรับรู้ได้

เนื่องจากแผ่นดินไหวดังกล่าว สามารถนำไปสู่อาฟเตอร์ช็อกตามมาขนาดสูงสุดถึง 6.7 ซึ่งจะเป็นความแรงในระดับภัยพิบัติ โดยสาเหตุที่ทำให้ที่ราบลุ่มภาคกลางสั่นสะเทือนรุนแรงในครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวจะเกิดการสั่นพ้อง เมื่อเกิดแผ่นดินไหวใกล้ตัว อาคารต่ำจะรับรู้ความรู้ความสั่นสะเทือนแรงกว่า แต่สำหรับตึกสูงจะไม่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันสำหรับแผ่นดินไหวไกลที่รุนแรง จึงเกิดการสั่นพ้องกับอาคารสูงบนตึกสูงในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมลฑล

หลังจากนี้จะมีการเกิดแผ่นดินไหวอีก แต่ไม่ใช่ภัยพิบัติ เมนช็อก 7.7 แต่ตอนนี้ตัวเลขออกมาอยู่ 6.4 เดิมกลัวว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมารุนแรง แต่เมื่อตัวเลขอยู่แค่นี้ ก็จะไม่แรง และต่อไปหากแผ่นดินไหวอีกก็อยู่ในระดับ 5 หรือ 4 และ 3 เท่านั้น และจะทิ้งระยะเวลาห่างลงเรื่อย ๆ

ศ.ดร.สันติ บอกว่า แผ่นดินไหวเคยเกิดขึ้นตลอด แต่ตอนไม่เกิดก็ไม่มีใครสนใจ รอยเลื่อนสกายสูงสุด เกิดขึ้นได้ที่ 8.6 ด้วยซ้ำไป เหมือนที่เคยเกิดขึ้นทางด้านใต้ที่เมืองร่างกุ้ง ในเมียนมาเมื่อ 100 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 1902 และเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 ตามมาอีกประมาณ 50 ครั้ง

สำหรับแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากธรรมชาติล้วน ๆ ไม่มีตัวเร่ง รอยเลื่อนนี้ถือเป็นสายโหด ตั้งแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่เราไม่เคยดูเขา ทุกครั้งที่มีแผ่นดินไหวในเมียนมา และมีเจดีย์พังลงมา สาเหตุเกิดจากตัวนี้ล้วน ๆ ทำให้เมียนมาต้องย้ายหลวงจากเมืองร่างกุ้ง มาอยู่ที่เมือง เนปิดอว์ เพราะเรื่องนี้

“ในมุมของผม ตอนนี้ภัยพิบัติผ่านไปแล้ว ขอให้เจ้าของอาคาร สถานที่ และประชาชน กลับไปสำรวจว่า บ้านเรือน อาคาร มีร่องรอย ชำรุดแตกร้าวหรือไม่...และขอให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ช่วงเย็นวันนี้ประชาชนสามารถเดินทางไป-กลับด้วยรถไฟฟ้าได้ ขออย่าตระหนก ไม่ต้องกังวล เพราะอะไรที่เป็นแนวนอน ไม่มีปัญหา เราจะเห็นว่าท่อประปา ไม่แตก แต่อะไรที่เป็นแนวตั้งไม่ควรเข้าไปอยู่ โดยเฉพาะอาคารที่เป็นตึกสูง”

อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยาย้ำว่า แผ่นดินไหวจะมาอีก จะมาแนวเล็ก ๆ แต่จะไม่มีฉากเร่ง หรือรู้สึกเหมือนอย่างวันนี้แล้ว เขากำลังแลนด์ดิ้ง ต้องใช้เวลาอีก 1-2 วัน แต่การจะแจ้งเตือนว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวแล้ว จะมีแผ่นดินไหวตามมา ภายในอีก 1-2 ชั่วโมงนั้น บอกทุกคนได้เลยว่า Aftershock บอกชั่วโมงไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือช่วงเวลาไหน

และในกรณีที่เกิดอาฟเตอร์ช็อกขณะกำลังเดินทาง หรือระหว่างรถขับอยู่บนถนน หรือทางด่วน ศ.ดร.สันติ เตือนว่า หากมีความสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ขอให้ค่อย ๆ ชะลอแล้วชิดรถเข้าข้างทาง ไม่ต้องตกใจ ส่วนอาคารสูงตึก 10-20 ชั้น อย่าเพิ่งขึ้นไปอยู่หรือทำงาน

อ่านข่าว:

นักวิชาการ ชี้แผ่นดินไหวกทม. เสียหาย 3-5 พันล้าน เชื่อกระทบระยะสั้น

รุนแรงสุดในรอบ 95 ปีแผ่นดินไหวบนบก 7.7 รอยเลื่อนสะกาย

พลังงาน-OR ยันแผ่นดินไหวเมียนมา ไม่กระทบคลังน้ำมัน-ปิโตรเลียม 22 แห่งทั่วปท.