ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

รอคอยอย่างมีหวัง! ตึกสตง.ถล่มสูญหาย 80 คน-เฝ้ารอปาฏิหาริย์

สังคม
30 มี.ค. 68
12:10
547
Logo Thai PBS
รอคอยอย่างมีหวัง! ตึกสตง.ถล่มสูญหาย 80 คน-เฝ้ารอปาฏิหาริย์
อ่านให้ฟัง
09:09อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
แผ่นดินไหวเมียนมา สะเทือนไทยอาฟเตอร์ช็อก 2 วัน 166 ครั้ง ครอบครัวและญาติของผู้สูญหายยังปักหลักรอคอยในจุดตึกสตง.ถล่มอย่างมีความหวัง เฝ้ารอปาฏิหาริย์คนที่รักกลับมาอย่างปลอดภัย

วันนี้ (30 มี.ค.2568) เหตุการณ์ตึก 30 ชั้นของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมา หลังแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา

แม้จะเข้าสู่วันที่ 3 ของการค้นหาผู้สูญหาย บริเวณรอบพื้นที่โครงการตึกถล่มยังมีญาติและครอบครัวผู้สูญหายมารอคอย และติดตามข่าวด้วยความหวัง ท่ามกลางการระดมทุกสรรพกำลังทั้งบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์หนักเข้าเร่งค้นหาในซากตึกที่ คาดว่ายังมีผู้สูญหายอีกเกือบ 80 คน

นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งให้ญาติของผู้สูญหายในเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม สามารถเข้าตรวจเก็บดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบกับผู้สูญหายได้ที่ สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ โทร 0-2207-6108 ต่อ 1101

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีหญิงคนหนึ่งมาตามหาลูกสาว ที่ทำงานในจุดตึกถล่มแล้ว แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า จำลูกสาวตัวเองได้จาก ภาพถ่ายที่กู้ภัยนำมาให้ดู

โดยระบุสั้นๆ ว่า จำได้จากทรงศีรษะลูก แหวนเงินที่ลูกใส่ที่นิ้วนางข้างซ้าย และชุดที่ใส่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าช่วยในบริเวณลิฟท์ จุดเกิดเหตุ

บีบหับใจเกาะรั้วรอคอย

กลุ่มเพื่อนแรงงานและญาติ เกาะขอบรั้วเฝ้ารอคอยด้วยความหวัง ในภารกิจที่เจ้าหน้าที่ระดมการค้นหาผู้ที่ติดใต้ซากอาคาร 30 ชั้นพังถล่ม  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถกระเช้า พร้อมเครื่องสแกนขึ้นไปหาพิกัดดูว่าพบใครหรือไม่ บริเวณด้านยอดของซากตึกที่พังถล่มทับกันสูงในระดับ 4-5 ชั้น

ถือเป็นปฎิบัติการค้นหาที่เจ้าหน้าหน้าที่กู้ภัยและผู้เชี่ยวชาญการกู้ภัย สะท้อนสอดคล้องกันว่า มีความยากที่สุดของงานกู้ภัยที่เคยเกิดขึ้นในไทย เนื่องจากโครงสร้างที่พังถล่มของตึก 30 ชั้น เป็นแนวดิ่ง

ในขณะที่ยังมีคนงานติดค้างอยู่จำนวนมาก จึงไม่สามารถรื้อซากต่าง ๆ ออกมาได้โดยง่าย ต้องทำอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางสถานการณ์ ที่เจ้าหน้าที รับรู้ถึงทุกวินาที บีบหัวใจของทั้งกลุ่มคนรอคอยและผู้ปฎิบัติงาน ที่ใกล้ครบระยะเวลา 48 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 

เพื่อนแรงงาน เกาะขอบรั้วรอดูการค้นหาเพื่อนที่ยังติดอยู่ใต้อาคารสตง.ถล่ม อย่างมีความหวัง

เพื่อนแรงงาน เกาะขอบรั้วรอดูการค้นหาเพื่อนที่ยังติดอยู่ใต้อาคารสตง.ถล่ม อย่างมีความหวัง

เพื่อนแรงงาน เกาะขอบรั้วรอดูการค้นหาเพื่อนที่ยังติดอยู่ใต้อาคารสตง.ถล่ม อย่างมีความหวัง

ญาติคนงานตึกถล่มเตรียมรับศพกลับบ้านเกิด

เจ้าหน้าที่ อสม.และฝ่ายปกครอง เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ และตรวจวัดความดัน พูดคุย ดูแลสภาพจิตใจนางยอย จิ้งโจ้ อายุ 69 ปี แม่ของนายมนตรี จิ้งโจ้ อายุ 30 ปี ชาวบ้านโนนก่อ ต.โนนก่อ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พนักงานขับรถเครนอยู่บนยอดอาคาร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว

นางยอย บอกว่า ทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย เพราะปีที่ผ่านมาเธอสูญเสียสามี และนายมนตรี ก็รับปากจะกลับมาบวชให้พ่อ ช่วงหลังสงกรานต์ แต่ตอนนี้กลับไม่ทีโอกาสได้บวชตามที่ตั้งใจ

น.ส.ปราณี จิ้งโจ้ บอกว่า น้องชายมีอาชีพรับจ้างเป็นคนงานขับรถเครน ก่อนเกิดเหตุน้องชายไปทำไซต์งานที่จังหวัดภูเก็ต แต่ก็ถูกย้ายมาบริเวณอาคารที่เกิดเหตุได้ยังไม่ถึง 1 เดือน หลังเกิดเหตุบริษัทติดต่อมาแจ้งยืนยันว่าน้องชายเสียชีวิตแล้ว

นอกจากนี้ ส่วนครอบครัวของแรงงานในหลายจังหวัดภาคอีสาน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดนครพนม หนองคาย และจังหวัดยโสธร ที่ขณะนี้ยังรอความหวังและปาฎิหารร์จากการค้นหาผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม

โดยเฉพาะญาติของนางสาวอาทิตยา ยืนยาว หรือ น้องเนย อายุ 23 ปี ชาว อ.เลิงนกทา ที่เป็นคนงานก่อสร้างที่ประสบภัยจนถึง ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ซึ่งญาติต้องคอยติดตามการค้นหาอย่างใกล้ชิด

โดยบอกว่าน้องเนย เพิ่งเข้าไปทำงานที่ตึกได้เพียง 3 วันในตำแหน่งช่างไฟฟ้า และทุกวันจะโทรศัพท์มาหาครอบครัว แต่วันเกิดเหตุบอกว่าอยู่บนชั้น 7 กำลังพักกินข้าวก่อน จะขาดการติดต่อและทราบข่าวว่าตึกถล่มจน ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม 

กรมอุตุนิยมวิทยา สรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมียนมาตั้งแต่ 28-30 มี.ค.นี้ (เวลา 12.00 น.) เกิดอาฟเตอร์ช็อกจำนวน 166 ครั้งแบ่งเป็น

  • ขนาด 1.0-2.9 จำนวน 41 ครั้ง
  • ขนาด 3.0-3.9 จำนวน 78 ครั้ง
  • ขนาด 4.0-4.9 จำนวน 40 ครั้ง
  • ขนาด 5.0-5.9 จำนวน 6 ครั้ง
  • ขนาด 7.0 จำนวน 1 ครั้ง   

ภารกิจ K9 ค้นหาใต้ซาก 

ขณะที่สุนัข K9 เป็นหนึ่งทีมสำคัญในภารกิจช่วยค้นหาผู้รอดชีวิต ในการช่วยค้นหาและยืนยันตำแหน่งผู้ประสบภัยนำไปสู่การช่วยเหลือ โดยสุนัข K9 ในพื้นที่ตึกถล่ม มีอยู่หลายทีมที่เข้าช่วยค้นหา แต่ทีมหลักๆ คือทีม K9 Usar และ United sar K9 ที่ข้อสนับสนุน เจ้าหน้าที่กู้ภัยตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ 

นายอลงกต ชูแก้ว รองผู้อำนวยการองค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ (K9 Usar) เปิดเผยว่า  K9 Usar พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ เนื่องจากสุนัขทุกตัว ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี และถูกฝึกอยู่ในพื้นที่อาคารเก่า หรืออาคารที่พังถล่ม สุนัขทุกตัวจริง มีความคุ้นเคย และไม่มีความตื่นเต้น

สำหรับทีม K9 USAR THAILAND เดินทางมาปฏิบัติภารกิจช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตในครั้งนี้จำนวน 11 ตัว พร้อมผู้บังคับสุนัข แบ่งออกเป็น 3 ผลัด ผลัดละ 3-4 ตัว ระยะเวลาปฏิบัติงาน 8 ชั่วโมงต่อหนึ่งผลัด 1 ทีม จะมี สุนัข K9 1 ตัว พร้อมผู้ควบคุมสุนัข พร้อมทีมแพทย์สนับสนุน

ปัญหาและอุปสรรค คือสภาพอากาศ นอกจากความร้อนแล้วยังมีเรื่องของฝุ่นที่มีจำนวนมากและหนาแน่น ทำให้สุนัข เกิดอาการหายใจที่ไม่เป็นปกติ เมื่อผู้บังคับสุนัขเห็นสภาพแล้วจำเป็นต้องนำสุนัขออกจากพื้นที่โดยทันที นำสุนัขมาพัก ก่อนเตรียมความพร้อมเข้าไป ในพื้นที่อีกครั้ง เนื่องจากความร้อนสูงอาจจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ของสุนัขคืออาการฮีทสโตรก

ทีมสุนัขค้นหาผู้สูญหายในซากตึกสตง.อย่างต่อเนื่อง

ทีมสุนัขค้นหาผู้สูญหายในซากตึกสตง.อย่างต่อเนื่อง

ทีมสุนัขค้นหาผู้สูญหายในซากตึกสตง.อย่างต่อเนื่อง

โดยมีทั้งเอกชนได้สนับสนุนเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ มาให้กับสุนัขได้พักระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ยังได้มีทีมสัตวแพทย์ อาสา จะมาช่วยตรวจสุขภาพสุนัข รวมถึงทีมสนับสนุน กองพันสุนัขทหาร ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หรือ หน่วย War Dog ช่วยสนับสนุนภารกิตในการค้นหาเพิ่มขึ้น

อีกหนึ่งทีมสุนัขกู้ภัย มีชื่อว่า ทีมสุนัขค้นหาและกู้ภัย united sar k9 นำสุนัขมาช่วยเหลือภารกิจการค้นหาติดค้างภายในอาคารที่ถล่ม จำนวน 10 ตัวเข้าสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร

ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่เกิดเหตุ น.ส.สิริสรา เจียมวงศ์เเพทย์ หัวหน้าทีมสุนัขค้นหาและกู้ภัย United sar 9 เผยว่า กลุ่มของตัวเองเป็นอาสาภาคประชาขนที่รักสุนัขและชื่นชอบการกู้ภัย ได้นำสุนัขส่วนตัวมาร่วมฝึก

จากบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการฝึกสุนัข และเคยฝึกกู้ภัยร่วมกับทางปภ.กรุงเทพมหานคร และฝึกฝนในพื้นที่เกิดอุบัติภัยหลายรูปแบบ อุปสรรคและปัญหาที่พบในภารกิจครั้งนี้คือสภาพอากาศที่ร้อนในช่วงเวลากลางวัน  รวมถึงโครงสร้างของพื้นที่ที่ต้องขอระมัดระวังในเรื่องของการเสี่ยงภัยที่อาจจะเกิดถล่มซ้ำ

เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์ซากปูนตึก สตง.ที่พังถล่มลงมา

เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์ซากปูนตึก สตง.ที่พังถล่มลงมา

เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์ซากปูนตึก สตง.ที่พังถล่มลงมา

ส่วนความยากในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ พื้นที่เกิดอุบัติภัยเป็นพื้นที่กว้าง และอุปสรรคของโครงสร้างที่พังถล่มลงมา อาจจะเกิดอารมณ์ซ้ำขึ้นมาได้ จึงต้องใช้ ความระมัด ระวังเป็นพิเศษ

สำหรับแผนการปฏิบัติหน้าที่จะสับเปลี่ยนกำลังกันเข้าไปค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้ประสบภัย จะประเมินในหน้างานหาก มีพื้นที่ที่จำเป็นต้องใช้สุนัขหลายตัวเข้าช่วยค้นหาที่ตั้งของผู้ประสบภัย ก็จะสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ส่วนระยะเวลา ในการเข้าค้นหา จะดูจากอาการของสุนัขเป็นหลัก และความเหมาะสมหน้างาน 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง