กรณีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้สาธารณชนมีความกังวลต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อภาคเศรษฐกิจและระบบทางการเงินของไทย
วันนี้ (31 มี.ค.2568) หน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องในด้านเศรษฐกิจและการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน จัดแถลงการณ์ร่วมเพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านความปลอดภัยทางวิศวกรรม ด้านภาคการผลิต การส่งออกและการท่องเที่ยว รวมทั้งด้านตลาดเงินและตลาดทุน เพื่อนำเสนอสถานการณ์และข้อมูลให้ผู้ลงทุนและสาธารณชนได้รับทราบ
ผศ.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร กล่าวว่า การตรวจสอบระบบโครงสร้างพื้นฐานของอาคารที่มีการร้องขอให้ตรวจสอบ พบว่าไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวอย่างมีนัยสำคัญ โดยอาคารต่างๆ ได้ออกแบบตามมาตรฐานวิศวกรรมในปัจจุบัน สามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ ประเมินจากโครงสร้างหลักของอาคารไม่ได้รับความเสียหาย การเข้าใช้ประโยชน์ในอาคารสามารถทำได้กับอาคารที่ได้รับการตรวจและประเมินผลเป็นสีเขียว ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าอาคารได้รับการประเมินเป็นสีเขียวจำนวนมาก
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากการสำรวจภาคการผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่างๆ ในการผลิตยังเปิดใช้งานได้ตามปกติ รวมถึงการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าที่ผลิตเสร็จยังดำเนินการเหมือนเดิมทุกประการ ส่วนภาคการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ขณะที่รัฐบาลเฝ้าประเมินสถานการณ์ ตรวจสำรวจอาคาร สถานที่และช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่าประเทศไทยมีความปลอดภัย
นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความมั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินและการให้บริการทางการเงิน เช่น ระบบบาทเนตและแอปพลิเคชัน Mobile Banking ของทุกธนาคาร รวมทั้งระบบเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องเป็นปกติ เช่นเดียวกับการให้บริการของสถาบันการเงินแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ธปท.ได้กำชับให้สถาบันการเงินพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ที่ประสบภัย เช่นเดียวกับที่เคยให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเมื่อเกิดอุทกภัยในปี 2567 โดยได้ผ่อนปรนเกณฑ์บางด้านรองรับไว้แล้ว
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ความเชื่อมั่นว่า สำนักงาน คปภ.จะดูแลการเบิกจ่ายสินไหมให้รวดเร็วและเป็นธรรม พร้อมจัดตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือด้านการประกันภัยเชิงรุก ประชาชนสามารถติดต่อสายด่วน คปภ. 1186 และทาง Chatbot @oicconnect ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนความเสียหายจากการถล่มของอาคาร ทราบว่าบริษัทประกันภัยต่างๆ ส่วนใหญ่ได้มีการประกันภัยต่อกับบริษัทประกันภัยต่างประเทศ จึงไม่กระทบต่อสถานะของบริษัทประกันภัยของไทย ซึ่งมีความเข้มแข็งอยู่ในระดับที่มั่นคงสูง
ศ.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องและให้ความมั่นใจว่าระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ และผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน ตลอดจนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถดำเนินการและให้บริการได้ปกติ พร้อมทั้ง ก.ล.ต.ได้ผ่อนผันการนำส่งข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแล รวมทั้งบริษัทจดทะเบียนและบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในภาพรวมยังคงแข็งแกร่ง ภาพรวมของภาคธุรกิจสามารถรับมือกับสถานการณ์และดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ไม่กระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียนไทย ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมความพร้อมระบบและการดำเนินการทุกด้าน รวมทั้งประสานงานใกล้ชิดกับบริษัทสมาชิกและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจสำหรับการเปิดการซื้อขายในทุกตลาดวันนี้ (31 มี.ค.)
อ่านข่าว
ลดระดับแผ่นดินไหวสาธารณภัยเป็นระดับ 2 - กทม.แนะเลี่ยง 2 เส้นทาง
กสทช.ถก Apple-Line เดินหน้าระบบเซลบอร์ดแคส
รู้ทันที! "Cell Broadcast" เทคโนโลยีแจ้งเตือนภัยพิบัติใช้กันทั่วโลก