วันนี้ (9 เม.ย.2568) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี กรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. พังถล่ม ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แบ่งประเด็นการดำเนินคดีออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ การชันสูตรศพเพื่อยืนยันอัตลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการค้นหาผู้ติดค้างภายใต้ซากอาคาร ส่วนที่ 2 คือ การดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งมีส่วนในการก่อให้เกิดเหตุตึกพังถล่ม
เบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำ แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่เกี่ยวข้อง 13 ปาก ญาติผู้เสียชีวิต 15 ปาก ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ และญาติผู้ประสบเหตุ 64 ปาก ผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ปาก รวมสอบปากคำพยานแล้ว 98 ปาก
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่ได้มาจากคำให้การพยานบุคคลเพียงเท่านั้น แต่รวมถึงวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ที่ยังอยู่ระหว่างรอผลและข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้วย เบื้องต้นยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการในทุกมิติ แต่ก็ไม่สามารถกำหนดกรอบระยะเวลาได้ว่า จะสามารถดำเนินคดีหรือตั้งข้อหาใครได้บ้างในขณะนี้
ผู้รับเหมาระบบไฟ ตึกสตง.ให้ข้อมูลตำรวจ
วันเดียวกัน นายฐิติพงศ์ โพธิพรหม หัวหน้าผู้รับเหมาระบบไฟ ที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างจากการเข้าไปติดตั้งระบบไฟที่ตึก สตง. เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.บางซื่อ
นายฐิติพงศ์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยนำสัญญาการจ่ายเงินที่ทำกับบริษัท 9 PK จำกัด จำนวน 2 ฉบับ มาให้ตำรวจดูเพื่อแจ้งความ แต่ครั้งนั้นตำรวจไม่ได้รับแจ้งความ พร้อมให้เหตุผลว่า หากอยากได้เงินให้ไปร้องเรียนที่กรมแรงงานแทน ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า ทางบริษัทคู่สัญญาจะทำสัญญาเพื่อผัดผ่อนการจ่ายค่าแรงไปเรื่อย ๆ ซึ่งตนไม่มีเงินจ้างทนายเพื่อฟ้องร้อง ทำให้ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้รับเหมาไม่ได้แจ้งความหรือฟ้องร้อง ทำได้เพียงรวมตัวกันไปประท้วง
เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ผมและกลุ่มผู้รับเหมา ได้เจรจา 3 ฝ่าย ระหว่าง บริษัท 9 PK และ บริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 แต่การพูดคุยก็ไม่มีความคืบหน้า และยังไม่ชัดเจนว่า จะได้รับเงินเมื่อไหร่ มีเพียงแต่การขอเอกสารไปเท่านั้น โดยในช่วงบ่าย ผมจะพูดคุยกับบริษัทที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ซึ่งก็คาดหวังว่าจะมีการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาทั้งหมด
นายฐิติพงศ์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตนเคยไปสอบถามกับบริษัท 9 PK เกี่ยวกับเรื่องเงินค่าจ้างแต่ทางบริษัทดังกล่าวจะอ้างว่า ทางจีนยังไม่จ่ายให้ จึงทำให้เบิกเงินไม่ได้ และยังอ้างว่าบริษัทไชน่าฯ ก็ค้างเงิน 9 PK เหมือนกัน ซึ่งตนก็ได้ไปสอบถามกับทางบริษัท ไชน่าฯ แต่ทางไชน่าฯ ก็บอกว่า จ่ายเงินให้ 9 PK ไปหมดแล้วทุกงวด และไม่ได้ค้างติดเงินกับ 9 PK จึงทำให้ตัวเองไม่แน่ใจในข้อเท็จจริงว่าเกิดจากเหตุผลใด
จนท.กู้ภัยยัน โครงสร้างอาคาร สตง.ไม่ได้ทรุดตัว
นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยความคืบหน้า การรื้อถอนซากตึก สตง.และการค้นหาผู้สูญหายว่า การทำงานเป็นไปตามคำสั่งของผู้บัญชาการเหตุการณ์ โดยมีผู้ว่าฯ กทม. ควบคุมอยู่ตลอดเวลา
ส่วนแผนปฏิบัติการรื้อถอนซากอาคารในวันนี้ จะเริ่มใช้เครื่องจักรเจาะชิ้นส่วนโครงสร้างขนาดใหญ่ ในพื้นที่ด้านบนของอาคาร หรือโซนอี จากนั้นจะใช้รถเครนเคลื่อนย้ายลงมา เพื่อเปิดพื้นที่ด้านบน และลดระดับความสูงของซากอาคารลงมา เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับทีมค้นหา ที่จะเข้าไปในพื้นที่โซนบีและซี ซึ่งเป็นจุดที่คาดการณ์ว่า จะพบผู้ติดค้างมากที่สุด
ระหว่างการทำงานโครงสร้างอาคารไม่มีการยุบตัว ตามที่มีข่าว และยืนยันว่า ตลอดปฏิบัติการมีทีมวิศวกรโยธาควบคุมอยู่ตลอดเวลา แต่คาดว่า หากเข้าหน้าที่ดำเนินการเปิดพื้นที่ได้มากขึ้น ก็จะพบผู้ติดค้างได้มากขึ้นเช่นกัน
อ่านข่าว : ส.อ.ท. กังวลสินค้าจีนทะลักไทย หวั่นถูกทุ่มตลาด จี้รัฐใช้กม.ลงโทษจริงจัง