วันนี้ (16 เม.ย.2568) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ควบคุมตัว น.ส.กชพร โบรกเกอร์คนสุดท้าย และเป็นผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ ที่หลบหนีออกนอกประเทศไปนานเกือบ 1 ปี มาที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งวัฒนะ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสอบปากคำผู้ต้องหา เนื่องจากต้องรอทนายความ และไม่สามารถเปิดเผยประเทศต้นทางที่ผลักดันผู้ต้องหากลับมาได้

สำหรับผู้ต้องหาคนนี้มีพฤติการณ์กระทำความผิดแบบเดียวกันกับโบรกเกอร์ที่ถูกผลักดันกลับมาจากประเทศจีนเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา คือ ชักชวนให้ผู้เสียหายมาลงทุน ส่วนตัว นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนและบูรณาการความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน คาดว่าจะขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการคนอื่น ๆ
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า การจับกุมตัว น.ส.กชพร เป็นความร่วมมือระหว่างดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งการสอบสวนผู้ต้องหาจะต้องมีทนายความอยู่ด้วย เนื่องจากเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก จากนี้จะต้องปรับปรุงกฎระเบียบเรื่องการติดตามทรัพย์สินหลังการดำเนินคดีอาญาเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินคืน

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2567 มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความเอาผิด นพ.บุญ พร้อมพวก จากกรณีหลอกลวงให้ลงทุน 5 โครงการ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ต่อมาคดีนี้ถูกส่งให้ดีเอสไอรับผิดชอบ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหายเกินกว่า 300 ล้านบาท
จากนั้นดีเอสไอได้สรุปสำนวน จำนวน 342 แฟ้ม เอกสารกว่า 130,000 แผ่น จนสามารถจับกุมผู้ต้องหากลุ่มแรกได้ 13 คน จากทั้งหมด 16 คน และอัยการพิจารณาสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา โดยได้ประสานตำรวจสากลออกหมายจับกุม นพ.บุญ ที่หนีไป กบดานประเทศจีนมาดำเนินคดี
กระทั่งเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจจีนได้จับกุม น.ส.ฐิติพร โบรกเกอร์คนสนิทของหมอบุญ ได้ที่ประเทศจีน และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย

อ่านข่าว : ออกหมายจับ "หมอบุญ" ภรรยา-ลูก-พวกรวม 9 คน "ฉ้อโกง-ฟอกเงิน"
รวบโบรกเกอร์สาวคนสนิท "หมอบุญ" คดีฉ้อโกง หลอกลงทุน
อัยการสั่งฟ้อง "หมอบุญ-พวก" คดีหลอกลงทุนเสียหาย 1.6 หมื่นล้าน