ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เบื้องหลังดรามา" ทราย สก๊อต" ที่ปรึกษาบิ๊กอุทยานฯ ทำเกินหน้าที่

สิ่งแวดล้อม
19 เม.ย. 68
12:47
30,095
Logo Thai PBS
เบื้องหลังดรามา" ทราย สก๊อต" ที่ปรึกษาบิ๊กอุทยานฯ ทำเกินหน้าที่

กลายเป็นประเด็นดรามาในโลกออนไลน์ หลังกรณี "ทราย สก๊อต” หรือ สิรณัฐ สก๊อต เจ้าของฉายามนุษย์เงือก หลังปรากฏคลิปตักเตือนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติบนเรือท่องเที่ยวบริเวณทะเลภาคใต้

อ่านข่าว : ดรามา "ทราย สก๊อต" บิ๊กอุทยานฯ ยันยังไม่ปลดพ้นที่ปรึกษา

วันนี้ (19 เม.ย.2568) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า หลังจากมีข่าวเกิดขึ้น 2-3 วันเรื่องการปลดทราย สก๊อตออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยืนยันว่า ไม่ได้มีคำสั่งปลดทราย สก๊อต เพราะตำแหน่งนี้จะต่อเป็นรายปี ถ้าสิ้นปีงบประมาณ หากไม่มีคำสั่งแต่งตั้งต่อ ก็ถือว่าสิ้นสุด แต่หากเขาจะขอยุติบทบาทก่อนสิ้นปี ก็ต้องทำหนังสือมาเป็นทางการ

อธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุว่า ก่อนหน้ามีการส่งข้อความผ่านไลน์ของทราย สก๊อตไปแล้ว แต่ไม่มีการตอบรับ จนมีการไปออกผ่านสื่อ ยอมรับว่าสร้างผลกระทบต่อกรมอุทยานแห่งชาติฯ และบางประเด็นทำให้สังคมเข้าใจผิด จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงในอีกมุม และยืนยันว่า ไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลาย เพราะจะยิ่งทำให้ภาพของหน่วยงานเสียหายมาก

ขอชื่นชมทราย สก๊อต ในตำแหน่งที่ปรึกษาฯ ซึ่งจริงๆ ต้องทำหน้าที่แค่ให้คำปรึกษา ไม่ใช่ทำแบบพนักงานพิทักษ์ป่า รับทราบปัญหา และมีการตำหนิตักเตือน และผ่อนปรนมาหลายครั้ง
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับทราบปัญหาจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทางทะเล การที่ทราย สก๊อต ลงไปทำภารกิจและทำคอนเทนต์หลายอย่างจนเจ้าหน้าที่รู้สึกอึดอัด ซึ่งเคยบอกว่า ให้ดูเรื่องการเข้าพื้นที่ และทำคอนเทนต์ต้องขออนุญาต

อยากให้ทรายใช้สติใจเย็น ๆ กลับมาทำงานในจุดที่ทำงานร่วมกันได้ การตำหนิ เพื่อให้เดินหน้าทำงาน ทุกครั้งที่ทำดี ก็ให้กำลังใจ

ส่วนกรณีที่มีหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมของทราย สก๊อต จากในพื้นที่ ขณะนี้ได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว และยังยืนยันว่า กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ ไม่ได้สั่งปลด ทราย สก๊อต และพร้อมที่จะเข้ามาพูดคุยกันมากกว่าการไปออกสื่อ

อ่านข่าว : ช่องโหว่! นักท่องเที่ยวขึ้น "สิมิลัน" ยอดไม่ตรงสั่งปรับ

กางหนังสือร้องเรียนพฤติกรรม "ทราย สก็อต"

แหล่งข่าวจาก จ.ภูเก็ต ระบุว่า ทราย สก๊อต มีเจตจำนงในการอนุรักษ์เป็นเรื่องที่ดี และทำสิ่งที่ดีมามาก แต่บางครั้งการแสดงออกรุนแรงเกินไป คิดว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีฯ บางครั้งไม่กล้าห้ามปราม ขณะที่ชาวบ้าน ผู้ประกอบการกังวลกับสถานะทางสังคมของ ทราย สก๊อต ที่เป็นทายาทตระกูลดัง

การอนุรักษ์ต้องอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือ ไม่ใช่ความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นจะนำไปสู่การทำลาย และทราย ไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่เคยทำงานร่วมกับนายทราย สก็อต ได้ทำรายงานถึงนายอรรถพล ถึงพฤติกรรมของทราย สก็อตว่า 1.มักอ้างตัวว่า เป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ และใช้อำนาจดังกล่าว สั่งการเจ้าหน้าที่ให้เข้าร่วมสนับสนุนภารกิจ

ตลอดจนการใช้ยานพาหนะของอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ขออนุญาตและไม่แจ้งล่วงหน้า ซึ่งส่วนมาก รถ เรือจะติดภารกิจประจำของอุทยานฯ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

2.ใช้ทีมงานที่เป็นชาวต่างชาติ เข้ามาร่วมกิจกรรมโดยไม่ขออนุญาต การบินโดรน หรือการถ่ายคลิปวิดีโอต่างๆ ก็ไม่ได้ขออนุญาต และทุกครั้งที่เข้ามาภายในอุทยานฯ มักจะมีช่างภาพ 2-3 คน และผู้ดูแล (Body guard) 1 คน ร่วมภารกิจด้วยทุกครั้ง โดยการลงคลิปเท่าที่ทราบนายทราย มักจะลงในช่องทางของตนเอง ไม่เคยพบเห็นลงให้ในช่องทางของกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ

ทราย สก๊อต กับนักท่องเที่ยว

ทราย สก๊อต กับนักท่องเที่ยว

ทราย สก๊อต กับนักท่องเที่ยว

3.มีการตักเตือนนักท่องเที่ยว ไกด์ คนเรือ หรือผู้ประกอบการ บ่อยครั้งมีการใช้คำพูดที่ดูถูกเหยียดหยาม หรือด้อยค่าบุคคล พาดพิงถึงการศึกษาของคู่กรณีว่าคุณวุฒิต่ำกว่าตัวเอง อวดอ้างว่าตนเองเป็นนักอนุรักษ์ และรักธรรมชาติมากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งผู้ประกอบการในพื้นที่มีความไม่พอใจอย่างยิ่ง

ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำพื้นที่ มีความลำบากในการทำงานมาก เพราะผู้ประกอบการเข้าใจว่า ทรายเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จึงตำหนิและว่ากล่าวเจ้าหน้าที่แบบเหมารวม

4.ไม่ทราบว่า มีคุณวุฒิหรือความเชี่ยวชาญหรือผลงานที่เด่นชัด ด้านงานทางทะเลใด ที่มีความเหมาะสมต่อการเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เพราะที่ทราบโดยทั่วกันคือ เป็นบุคคลที่ชื่นชอบการว่ายน้ำ

5.ทราย มักจะลงคอนเทนต์ในช่องทางของตนเอง กรณีการปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งโน้มน้าวให้บุคคลมองเห็น ถึงภาพลักษณ์ที่ดีด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลของตนเอง แต่ในข้อเท็จจริงมักจะไม่ได้ร่วมกิจกรรมดังกล่าวตั้งแต่ต้น หรือปฏิบัติงานจนแล้วเสร็จ

6.ทราย มักจะมีกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ที่เหมือนจะมีวัตถุประสงค์ ที่สนองความต้องการตนเองแอบแฝงอยู่ เช่น กิจกรรมว่ายน้ำสำรวจขยะ บริเวณเกาะต่างๆ กิจกรรมดำน้ำลึกสำรวจความหลากหลายของปะการัง ในสถานที่และช่วงเวลาที่สัตว์ทะเลหายากเข้ามาบริเวณดังกล่าว 

เมื่อมีกิจกรรมข้างต้น เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมยานพาหนะ น้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนอาหารสำหรับของทีมงานทราย โดยตัว ทราย มีข้อจำกัดในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม กล่าวคือทราย ไม่กินอาหารทะเล และอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากทะเล ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องการทำร้ายทะเล น้ำดื่มต้องเป็นน้ำแร่เท่านั้น

ชื่นชมแต่ตั้งคำถามปมเหยียดชาวบ้าน

นายสุทา ประทีป ณ ถลาง อดีต สส.ภูเก็ต พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของทราย สก๊อต ทำให้ชาวบ้านอึดอัดเรื่องของการใช้อำนาจ และเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯ อึดอัดด้วย เพราะว่าเกรงจะกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่เลยต้องโอนอ่อนตาม

ซึ่งหลักการตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ การเข้าไปในพื้นที่อุทยาน ต้องรายงานและได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯ ในการดำเนินการต่างๆ แต่ดูเหมือนว่าไม่น่าจะผ่านกระบวนการนี้

เรื่องความตั้งใจของทราย สก๊อต การอนุรักษ์ทุกคนชื่นชม แต่การสร้างคอนเทนต์ให้ร้ายคนอื่น อาจทำให้เสียหายทางธุรกิจ และหากพบการทำผิดต่อทรัพยากรให้ดำเนินคดี 

นายสุทา กล่าวอีกว่า สิ่งที่ไม่ควรทำในลักษณะการใช้อำนาจที่ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจ เช่น การเหยียด กระโชกโฮกฮาก ซึ่งทราย สก๊อต ไม่มีอำนาจในการจับกุม ต้องเอาเจ้าหน้าที่ไปร่วมในการดำเนินการ

นอกจากนี้กรณีที่ให้สัมภาษณ์ว่า ต่างชาติมาเหยียดคนไทยนั้น เวลาที่เขาไปเหยียดชาวบ้านที่ไม่จบ ป.4 เขาก็เหยียดด้วยหรือไม่ มองว่าพฤติกรรมนี้ต้องปรับปรุง 

ขณะที่เรื่องที่พบความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่บางคนก็ทุจริตมันก็มี และงานอนุรักษ์ที่ทราย สก๊อต ทำไว้เป็นเรื่องดีมีเยอะ แต่มีเรื่องเดียวคือ การปฏิบัติระหว่างตัวบุคคล

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังต้องการให้ ทราย สก๊อต ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับอุทยานแห่งชาติฯ หรือไม่ นายสุทา กล่าวว่า คิดว่าเป็นการตัดสินใจของตัวเขาเอง ถ้าหากเขาปรับตัว ไม่ไปเหยียด คิดว่าทุกคนก็ยินดี เพราะผู้ประกอบการ ไม่ได้ถึงกับว่าเกลียดชัง แต่ตอนนี้มันมีผลกระทบกับเขา จึงเกิดการต่อต้านขึ้น

อ่านข่าว :

"ลิซ่า" เขย่า Coachella ทุบสถิติศิลปินที่มีคนกล่าวถึง 6.1 ล้านครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง