วันนี้ (22 เม.ย.2568) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงการแถลงข่าว ของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด (SKY) เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) ว่า สิ่งที่บริษัทแถลงชี้แจงฟังไม่ขึ้นเลยซักข้อ โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้แค่ค่าโบรอน ตั้งแต่ 9-25 ppm เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงมาก
อ่านข่าว : "ซิน เคอ หยวน" แถลงโต้ ก.อุตฯ ปมเหล็กไร้มาตรฐาน ตึก สตง.
ซึ่งผู้อำนวยการสถาบันยืนยันว่า อุปกรณ์ของสถาบันมีเครื่องมือที่สามารถตรวจสอบค่ามาตรฐานของเหล็ก โดยเฉพาะค่าโบรอนได้อย่างแน่นอน ซึ่งสามารถวัดได้ตั้งแต่ 1-140 ppm ซึ่งค่าโบรอนที่เกินของ ซิน เคอ หยวน สูงกว่า 8 ppm และกระบวนการเก็บตัวอย่าง ก็เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. โดยเฉพาะการเข้าไปตรวจครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2567 ก่อนจะมีการสั่งปิดโรงงานที่ผลิต
นายเอกนัฏ กล่าวว่า การที่บริษัทอ้างว่า ไปฟังความคิดเห็นจากอดีตข้าราชการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ที่เกษียณแล้วนั้น ขอให้ไปตรวจสอบดูให้ดี เพราะขณะนี้ตนก็จะตรวจสอบย้อนหลังไปให้ถึงปี 2561 ว่าบริษัท ซิน เคอ หยวน ได้ มอก. มาอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะเงื่อนไขการออก มอก. หากผลิตด้วยเตา IF จะต้องมีกระบวนการปรับปรุงน้ำเหล็กให้บริสุทธิ์
จากการลงพื้นที่ของทีมสุดซอยยังพบว่า มีกระบวนการดังกล่าว แนะนำว่าใครที่ไปให้ข้อมูลให้คำปรึกษา ก็ให้คำปรึกษาดี ๆ รวมถึงทีมทนายความ ควรจะไปซักลูกความให้ได้ข้อมูลทั้งหมดมาก่อน
สิ่งที่ตลกคือ ซิน เคอ หยวน ได้ย้อนถึงวิธีการเก็บตัวอย่าง แต่จากการที่ตนไปตรวจสอบพบว่า มีจดหมายจาก ซิน เคอ หยวน ถึง สมอ. ให้เข้าไปตรวจสอบตัวอย่างซ้ำหลายครั้ง แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม ทั้งที่การรับรองมาตรฐาน หากพบว่า ค่าตก เพียงตัวเดียว ก็ถือว่าตก แต่การตรวจสอบนี้พบว่า ตกทั้งสามตัวอย่าง จึงเห็นว่าสิ่งที่แถลงเมื่อวาน เป็นการพูดไม่หมด พูดเฉพาะบางช่วงบางตอน และยังไม่ตอบคำถามอีกหลายเรื่อง
นายเอกนัฏระบุว่า โดยเฉพาะประเด็นฝุ่น ที่มีถึง 50,000 ตัน ทั้งที่แจ้งไว้แค่ 2,000 ตัน ซึ่งสืบพบว่า ซิน เคอ หยวน มีความเชื่อมโยงกับบริษัทที่ลักลอบนำเข้าฝุ่นจากต่างประเทศ แต่เนื่องจากที่ผ่านมา ซิน เคอหยวน ไม่เคยให้การเป็นประโยชน์ จึงต้องขอหมายศาล และให้ทีมสุดซอยร่วมกับดีเอสไอ เข้าไปเก็บหลักฐานสำคัญทั้งหมดมาแล้ว
นายเอกนัฏ ยังกล่าวถึงกำลังผลิตเหล็กของประเทศไทย ว่า สามารถผลิตได้ประมาณปีละ 4,000,000 ตัน แต่จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมพบว่า มีความต้องการเหล็ก เฉพาะเตา EAF ซึ่งเป็นเตาไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคุมคุณภาพได้มากกว่า สามารถผลิตเหล็กได้เกินความต้องการของตลาดไปแล้ว
ดังนั้นการยกเลิกการผลิตเหล็กโดยเตา IF นอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องมลภาวะแล้ว ยังช่วยอุตสาหกรรมเหล็กด้วย เพราะระบบเตา IF หลายประเทศมีการยกเลิกไปแล้ว
นายเอกนัฏกล่าวด้วยว่า วันนี้กว่าจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้ เขาไม่ธรรมดา เขาหัวหมอ ต้องใช้สติปัญญาเต็มที่ เพราะขาดเอกสารเรียกประชุม อ่านกฎหมายเองทุกข้อ ดูกระบวนการวิธีการปฏิบัติทุกอย่าง บอกให้รัดกุมรอบคอบทั้งหมด จึงไม่มีเวลาที่จะไปกินเรื่องอื่น ส่วนเรื่องเหล็กไม่ต้องไปถามใครไกล ขอให้ไปถามสมาคมเหล็กได้เพราะรู้พฤติกรรม รู้สิ่งที่มันเกิดขึ้นจริง ว่ามีการใช้อิทธิพลหรือผลประโยชน์ กระทำผิด ไปตรวจสอบดูตรงนั้น
อ่านข่าว : จนท.นำร่างผู้สูญหายออกมาเพิ่มอีก 1 คน จากโซน C ส่งชันสูตร
“แก้สารพิษ” แม่น้ำกก-สาย มลพิษข้ามพรมแดน ผ่านมุมมอง “กฎหมาย-ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”